บทที่499 คำเตือน
เย้นหว่านก้มหน้ามองข้อมือของโห้หลีเฉินที่บวมขึ้นเรื่อยๆ ปวดใจแทบไม่ไหว ไม่สนแล้ว ตอนนี้การรักษาเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด
สำหรับเรื่องอื่น ค่อยหาทางแก้ไขตามสถานการณ์
ขึ้นรถแล้ว โห้หลีเฉินก็หันไปมองกู้จื่อเฟยที่นั่งอยู่ข้างเย้นหว่าน
“ช่วยฉันทำอะไรสักเรื่องได้ไหม?”
กู้จื่อเฟยรู้ว่าเธอไปเชิญเย้นโม่หลินมา ไม่เพียงแต่ไม่ได้ช่วยอะไรได้ แต่ยังทำให้ยุ่งยาก ทำให้เย้นหว่านจำเป็นต้องใช้วิธีการที่ทิ่มแทงใจผลักไสเย้นโม่หลินออกไป
มองไปที่สีหน้าที่ลำบากใจของเย้นโม่หลิน เธอเองก็ปวดใจ
ตอนนี้สามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง เธอก็ยินดีอย่างกระตือรือร้นเป็นธรรมดา
เธอรีบพูดขึ้น “เชิญนายพูด”
โห้หลีเฉินมองโชเฟอร์ที่ขับรถที่อยู่ด้านหน้า กดเสียงต่ำลง ใช้เสียงที่เบามากพูดกับกู้จื่อเฟยสองสามประโยค
สีหน้ากู้จื่อเฟยเปลี่ยนเล็กน้อย สายตามีความกระวนกระวาย
“เธอทำได้ไหม?”
นี่มันท้าทายเกินไปแล้ว
น้ำเสียงของโห้หลีเฉินนิ่งเรียบ “ทำให้ดีที่สุดก็พอ ไม่จำเป็นต้องกดดันมากเกินไป”
แม้จะพูดอย่างนั้น แต่ถ้าเธอล้มเหลวแล้ว......
กู้จื่อเฟยมองข้อมือที่บวมแดงของโห้หลีเฉิน แล้วก็มองท่าทางที่วิตกกังวลของเย้นหว่าน ในใจประหม่า กัดฟันอย่างดุเดือด
เธอจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้!
ไม่อย่างนั้น ผลที่ตามมาไม่อาจจินตนาการได้ สถานการณ์ที่ดีในตอนนี้ ก็จะเปลี่ยนเป็นเลวร้ายอย่างยิ่ง
----
ในศาลา
สีหน้าเย้นโม่หลินมืดมน มองไปที่หยูซือห้านอย่างอันตราย
“หยูซือห้าน ทำไมนายถึงจงใจทำร้ายกู้ซึง?”
น้ำเสียงที่คมกริบ เอ่ยถามไปโดยตรง กระทั่งเรียกชื่อของหยูซือห้านไปตรงๆ
ความสัมพันธ์ของตระกูลหยูตระกูลเย้นซับซ้อน และดำเนินไปด้วยดีมาตลอด แม้แต่เย้นโม่หลิน ก็ปฏิบัติกับหยูซือห้านอย่างมีมารยาทมาโดยตลอด เพียงแต่มารยาทแบบนี้ ก็สร้างขึ้นจากสถานการณ์ที่อีกฝ่ายเคารพกฎด้วยเช่นกัน
ตอนนี้กู้ซึงเป็นหวานใจที่รักของเย้นหว่าน แต่เจ้าหยูซือห้านนี่ กล้าที่จะทำร้ายกู้ซึง
แล้วยังเป็นที่ตระกูลเย้น เขาวางท่าไม่เกรงกลัวเกินไปแล้ว!
คิดว่าตระกูลเย้นไม่กล้าไล่เขาไปจริงๆหรอ?
หยูซือห้านขมวดคิ้ว ท่าทางจริงใจมาก “คุณชายเย้น นายโปรดเชื่อฉัน ฉันไม่ได้มีเจตนาทำร้ายกู้ซึงจริงๆ ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพื้นฐานร่างกายของเขาจะแย่ขนาดนั้น!
นายกับฉันต่างก็เป็นคนในสังคมด้านมืด ก็รู้ว่าพละกำลังของพวกเรามีมาก ไม่ระวังนิดหน่อย ไปหักกระดูกของคนอื่นเข้าก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ”
เย้นโม่หลินขมวดคิ้ว แม้ว่าจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของหยูซือห้าน
ในกรณีของการประเมินสมรรถภาพทางกายผิดพลาด ประกอบกับการไม่ได้ใช้กำลังโดยเจตนา จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุเช่นนี้
หยูซือห้านพูดขึ้นอีก “แต่วันนี้ทำให้กู้ซึงบาดเจ็บ ถึงอย่างไรก็เป็นความผิดของฉัน แม้ว่าฉันจะเป็นคนของตระกูลหยู แต่ฉันจะขอขมาลาโทษกู้ซึงด้วยตัวเอง ขอการให้อภัยจากเขา”
ชะงักไป แล้วหยูซือห้านก็พูดเสริมอีก “และจะขอการให้อภัยจากเสี่ยวหว่านด้วย”
เย้นหว่านตอนนี้รังเกียจหยูซือห้านเป็นอย่างมาก เกรงว่าคงไม่ยกโทษให้เขาง่ายๆแล้ว
เพียงแต่ ถึงอย่างไรหยูซือห้านก็เป็นคนของตระกูลหยู ถ้าหากว่าเขาโดนไล่ไปด้วยเรื่องแบบนี้ พูดออกไป จะไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงของตระกูลเย้น
แล้วยังจะกระทบกับความสัมพันธ์ของตระกูลหยูและตระกูลเย้น มันไม่ค่อยคุ้มค่าเอาเลย
ถ้าหากคนในตระกูลคิดเล็กคิดน้อยขึ้นมา เรื่องนี้ ท้ายที่สุดก็จะโทษเย้นหว่าน ว่าเธอทำตามอำเภอใจ
ตัวเย้นโม่หลินเองจะยังไงก็ช่าง แต่จะไม่ให้เย้นหว่านโดนทำร้าย โดนวิพากษ์วิจารณ์แม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...