บทที่537 สารภาพทั้งหมด
หลังจากการที่ได้เผชิญหน้ากันครั้งล่าสุด ถึงแม้ว่าในใจของเย้นโม่หลินนั้นก็จะรู้สึกชื่นชมโห้หลีเฉิน แต่ว่าสุดท้ายโห้หลีเฉินก็แพ้ ต้องทำตามข้อตกลงและออกจากบ้านตระกูลเย้นไป
และไม่มาใกล้ชิดเย้นหว่านอีกตลอดชีวิต
แต่ว่าเขาตอนนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง แถมยังปลอมตัวเป็นกู้ซึงมาที่ตระกูลเย้นอีกต่างหาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาปลอมตัว หรือว่ากี่ครั้งแล้ว ความแตกต่างในระหว่างนี้ ก็เพียงพอให้เย้นโม่หลินฆ่าเขาในสถานที่นี้ได้เลย
หมัดของเย้นโม่หลินนั้นหนักมาก โห้หลีเฉินไม่ได้หลบ มุมปากของเขาก็มีเลือดซึมออกมา
เขายกมือขึ้นเช็ดลวกๆ อย่างที่ไม่ได้สนใจเลยสักนิด ท่าทางไม่ได้อ่อนลงเลย
“คุณชายเย้น ระบายอารมณ์แล้ว พวกเรามาคุยธุระกันเถอะ”
ท่าทางที่แข็งแกร่ง ราวกับว่านี่คือบ้านของเขา
แต่ว่าไม่ใช่คุกใต้ดินของเย้นโม่หลิน
เย้นโม่หลินอุ้งไป ไฟในใจก็เพิ่มมากขึ้น อยากจะต่อยใบหน้าที่เย่อหยิ่งของเขาอีกสักสองสามหมัด
แต่ว่าโห้หลีเฉินส่งตัวเองมาเอง เรื่องนี้มันมีเรื่องอะไรที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนต่างหาก ที่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับตอนนี้
สีหน้าเขามืดมน แล้วก็นั่งลงบนม้านั่งเหล็ก
เขาเอ่ยปากพูดสั้นๆ “ว่ามา”
โห้หลีเฉินก็ไม่ได้สนใจท่าทีที่เย่อหยิ่งของเย้นโม่หลิน เขาถามด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ
“คุณบอกว่าคุณเห็นเย้นหว่านกับกู้ซึงไปเที่ยวที่ทะเลเฟอร์โรลซีเองกับตา สรุปแล้วมันคือเรื่องอะไรกันแน่? ”
เมื่อกี้ตอนที่อยู่หน้าประตูนั้น ถ้าเกิดว่าไม่ถูกห้ามด้วยสถานการณ์ มีคนแอบมองอยู่ทางด้านหลังนั้น เขาก็คงจะถามไปตั้งแต่ตรงนั้นแล้ว
ใครจะไปรู้ว่าการที่เขารอมาถามตอนนี้ เขาอดทนมานานแค่ไหนแล้ว
เรื่องส่วนตัวแบบนี้ เดิมทีเย้นโม่หลินก็ไม่ได้วางแผนจะบอกโห้หลีเฉิน
แต่ว่าพอเห็นสีหน้าที่จริงจังของเขา และเอาสถานการณ์ของเรื่องคืนนี้หลายๆ อย่างมาปะติดปะต่อกัน คนที่เฉียบคมอย่างเขา ก็สามารถเดาได้ว่าอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง
เขาตอบ “เรื่องเมื่อเช้า เสี่ยวหว่านคุยวิดีโอคอลกับฉัน เป็นคนพูดเองกับปากว่า ตอนนี้เธอกำลังไปเที่ยวอยู่ที่ทะเลเฟอร์โรลซี ด้านหลังของเธอก็เป็นท้องทะเล”
พอเย้นโม่หลินพูดจบนั้นก็เปิดโทรศัพท์ แล้วก็โยนไว้บนโต๊ะ
บนนั้น แสดงให้เห็นรูปภาพที่เย้นหว่านกับกู้ซึงยืนชมทะเลอยู่บนเรือยอร์ช
ทั้งสองคนยืนเคียงข้างกัน ความคิดสร้างสรรค์นั้นดูสวยงามมาก มันดูเหมือนกับภาพถ่ายเชิงศิลปะ
ดูดีมาก
แม้แต่ เปิดเผยให้เห็นอารมณ์โรแมนติกที่เต็มไปหมด
โห้หลีเฉินเห็นรูปนั้น ดวงตาเขาก็มืดมนลงอย่างมากในทันที
เขาถาม “ตรวจสอบความถูกต้องแล้วหรือยัง? ”
“ตอนที่ส่งมานั้นตรวจสอบแล้ว รูปไม่ได้ถูกตัดต่อ มันคือรูปจริง”
ไม่ใช่เพียงแค่นี้ เย้นโม่หลินยังจงใจวิดีโอคอลไปหาเย้นหว่าน ถามเธอต่อหน้า พอแน่ใจแล้วว่าเธอปลอดภัย ถึงได้สบายใจ
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม มือของเขาบีบโทรศัพท์แน่น
เขากัดฟันแน่นและค่อยๆ พูดออกมาทีละคำ “เย้นหว่านกับกู้ซึงไม่ได้อยู่ที่ทะเลเฟอร์โรลซี พวกเขาถูกหยูซือห้านลักพาตัวไป”
“อะไรนะ?!”
เย้นโม่หลินลุกขึ้นจากม้านั่งทันที สีหน้าดูประหลาดใจ และตกใจ
เขาไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ “เสี่ยวหว่านบอกฉันเองกับปากของเธอเอง ว่าเธอไปเที่ยวกับกู้ซึง”
“เมื่อถูกข่มขู่ เธอก็จำเป็นต้องโกหก”
คำพูดของโห้หลีเฉิน ทำให้เย้นโม่หลินต้องอ้าปากค้าง เขาพูดอะไรไม่ออก
ถ้าเกิดว่าเป็นการลักพาตัวจริงๆ ดูจากวิธีการของหยูซือห้านแล้วนั้น เขาต้องใช้วิธีอย่างมากมายนับไม่ถ้วนเพื่อให้เย้นหว่านยอมประนีประนอม แล้วโกหกเขา
ถ้าเกิดว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ……
“แกเอาอะไรมามั่นใจขนาดนั้น? เมื่อคืนกู้ซึงสารภาพรักกับเสี่ยวหว่านแล้ว ความรักระหว่างคู่รักตัวน้อยอย่างพวกเขา การที่แอบตัดสินใจจะออกไปอยู่ในโลกของคนสองคน ก็มีความเป็นไปได้มากเหมือนกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...