บทที่ 55 ตกตะลึงโดยทั่วกัน
เธออุตสาห์ป้องกันทุกวิถีทาง คิดไม่ถึงว่าวางหนิงเวยจะอยู่ตรงนี้รอเธอ เธอไม่เชื่อหรอกว่าพนักงานเสริ์ฟคนนั้นไม่ได้ตั้งใจ
กระโปรงสีขาวครึ่งล่างทั้งหมดเกือบเปียกโชกไปด้วยไวน์แดง สีแดงทั้งผืน ดูแล้วมันดูขัดตา
วางหนิงเวยดึงกระโปรง บนใบหน้าเผยสีหน้าไม่สบายใจ
"คุณเย้น ฉันไม่ได้ตั้งใจ"
ไม่ตั้งใจกับผีนะสิ!
เย้นหว่านโกรธจนจะกระอักเลือด ร่างกายแข็งทื่อ
และในเวลานี้ นางแบบที่อยู่ตรงหน้าลงมาจากเวทีแล้ว พิธีกรดำเนินงานก็เรียก
“นางแบบของเย้นหว่าน,วางหนิงเวยขึ้นเวที”
วางหนิงเวยมองเย้นหว่านอย่างยิ้มหยัน "คุณเย้น ฉันยังต้องขึ้นเวทีอยู่ไหม?"
กระโปรงกลายเป็นแบบนี้แล้ว แล้วยังจะขึ้นเวทีได้ยังไง?
โกย่านีสีหน้าเปลี่ยน ขมวดคิ้วอย่างโกรธเคือง
"ทำไมถึงไม่ระมัดระวังแบบนี้ กลับมาชนเข้าในเวลานี้ แอลกอฮอล์เยอะขนาดนี้ สีกระโปรงก็เปลี่ยนแล้ว เดิมทีไม่มีหนทางให้ขึ้นเวทีอีกครั้ง”
วางหนิงเวยยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
โกย่านีมองไปทางเย้นหว่านอย่างเป็นห่วง "คุณเย้น หมดหนทางแล้ว สละสิทธิ์เถอะนะ?"
เธอลำบากอย่างมากกว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ เพียงแค่ก้าวเดียวเกือบเข้าใกล้ประตู เธอกลับต้องยอมสละสิทธิ์?
และในเวลาเดียวกัน ข้างหน้าบนเวทีนางแบบคนนึงเดินไปได้ครึ่งเวที
ผู้คนและกรรมการค่อยๆ มองมายังทางออกประตูอย่างคาดหวัง
"หรือยังมีนางแบบอีกคนนึง? ทำไมถึงยังไม่ออกมา"
"มีเรื่องอะไรรึเปล่า?"
"การแข่งขันใหญ่ขนาดนี้ไม่มีทางให้เกิดเหตุใดอย่างแน่นอน หากเธอยังไม่ออกมา ก็จะตัดสิทธิ์การแข่งขัน”
ที่นั่งกรรมการตัดสิน โห้หลีเฉินขณะนั่งอย่างสง่าผ่าเผย ดวงตาดำลึกมองไปยังทางประตู
นางแบบคนก่อนก็ได้ออกไปแล้ว หรือว่าไม่มีคนออกมา
เวทีว่างเปล่า
กรรมการตัดสินพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “ตัดสิทธิ์ไปเลย ให้นางแบบและดีไซน์เนอร์คนอื่นออกมาให้หมด แล้วเดินแบบ”
“ได้ครับ”
พนักงานได้ประโยคนี้ รีบไปจัดการทันที
เวลานี้ เสียงออกคำสั่งทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นมา
“รอก่อน”
โห้หลีเฉินพูดเสียงต่ำ “เธอจะออกมา”
พนักงานหยุดชะงักไม่กล้าเดิน มองอย่างสอบถามไปทางกรรมการตัดสินอีกสามคน ยังต้องแจ้งตัดสิทธิ์หรือไม่?
กรรมการตัดสินอีกสามคนก็คิดไม่ถึงว่าโห้หลีเฉินจะออกเสียงกะทันหัน และพวกเขายังไม่กล้าคัดค้านคำพูดของโห้หลีเฉิน
ถึงแม้ว่าจะนั่งบนตำแหน่งตัดสินเหมือนกัน โห้หลีเฉินถึงแม้ว่าจะรับเชิญมาพิเศษ แต่สถานะที่แท้จริงของเขา อย่าว่าแต่เป็นพวกเขา แม้กระทั่งสมาชิกของการออกแบบแฟชั่นOvi ต่างก็ไม่กล้ามีเรื่อง
หลังเวที โกย่านีมองไปที่เย้นหว่านอย่างปวดใจ เดินเข้าไป ลูบไหล่ของเธออย่างเบาๆ
“ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ครั้งหน้ายังมีโอกาส”
เย้นหว่านหน้าซีด กัดฟันแน่น ใจมันไม่ยินยอม
วางหนิงเวยก็เย้ยหยันอยู่ข้างๆ กระตุ้นให้เลวร้ายลงโดยไม่ต้องสงสัย
“ยังไง สละสิทธิ์หรือเปล่า? นี่ชุดที่สวมอยู่เต็มไปด้วยไวน์ฉันรู้สึกไม่สบายทั่วทั้งตัว คุณรีบพูดสิ ฉันต้องไปเปลี่ยนชุดขยะนี้ทิ้ง”
ในเวลานี้เธอใช้เวลาทุ่มเทอย่างหนักในการทำผลงานออกมา แต่กลับถูกวางหนิงเวยทำให้เสียหายแบบนี้ รังเกียจ
ถ้าหากยอมแพ้การแข่งขัน เสื้อผ้าชุดนี้ก็จะกลายเป็นขยะจริงๆ
ไม่ เธอไม่ยอม
เย้นหว่านกัดฟัน ท่าทางแน่วแน่ “ฉันไม่สละสิทธิ์”
วางหนิงเวยตกตะลึง สีหน้าย่ำแย่ทันที “คุณหมายความว่าอะไร? เป็นแบบนี้แล้วยังไม่สละสิทธิ์อีก หรือว่าคุณยังต้องการให้ฉันสวมเสื้อผ้าสกปรกแบบนี้ออกไปเดินแบบหรอ? ไม่ไว้หน้าฉันแล้วหรอ?”
“เป็นนางแบบ ต่อให้ฉันให้คนใส่เสื้อผ้าที่หยิบขึ้นมาจากในถังขยะ คุณก็จำเป็นต้องไปเดินแบบให้ฉัน”
เย้นหว่านมองอย่างเย็นชา ท่าทางเด็ดเดี่ยว
วางหนิงเวยสำลัก เต็มไปด้วยความโกรธ แต่กลับคัดค้านไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...