บทที่ 585 เธอชอบเขาใช่ไหม
เย้นโม่หลินไม่เข้าใจเลยสักนิด
เย้นหว่านมองเย้นโม่หลินพลางถามเสียงแผ่วเบา “พี่ชายคะ คุณเคยมีคนในใจแบบนี้บ้างไหม ถ้าเธออยู่ ความสนใจจะตกอยู่ที่ตัวเธออย่างอดไม่ได้ ถ้าเธอไปแล้ว มันจะเหมือนวิญญาณของคุณล่องลอยตามไปด้วย”
เมื่อน้ำเสียงลดลง ในใจของเขาอดไม่ได้ที่จะแวบถึงภาพวันนั้น ที่ทิ้งกู้จื่อเฟยไว้ข้างหลัง
“ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอกค่ะ ทุกคนทำผิดพลาดได้ แต่ถ้าเป็นโห้หลีเฉิน หากมีสักวันที่หลอกฉันจริง ฉันก็เชื่อว่าเขาแค่เผลอใจ และไม่ได้ต้องการทำร้ายฉันจริงๆ”
เย้นหว่านยิ้ม ดวงตาราวกับมีกากเพชรเปล่งประกาย
มันเป็นความเชื่อใจโดยไม่มีเงื่อนไขและลึกสุดหัวใจสุดความรู้สึก
เย้นโม่หลินมองเธอด้วยความช็อกเกินกว่าจะบรรยายได้
เขาไม่เคยคิดอย่างนั้นกับใคร ไม่เคยใช้ทัศนคติแบบนี้กับคนนอก
ในโลกของเขาตลอดมา ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด การหลอกลวงเป็นเรื่องที่อภัยไม่ได้ ควรฆ่า ควรขับไล่
แต่การให้อภัย...
เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงวันนั้นที่กู้จื่อเฟยอยู่ริมทะเล ร้องไห้ราวจะขาดใจ เธอมองเขาด้วยความเศร้าโศกอันสิ้นหวังและรู้สึกผิด เธอหันหลังจากไปพร้อมกับเงาที่อ้างว้างโดดเดี่ยวของเธอ
ในใจเย้นโม่หลิน ทันใดนั้นก็รู้สึกหดหู่แปลกๆ
เขาเม้มริมฝีปาก บังคับให้ความรู้สึกนี้ลบล้างไป มองเย้นหว่านด้วยสายตาลึกล้ำพร้อมกับพูดว่า “แน่ใจนะว่าไม่ว่ายังไงก็ตามเธอก็จะอยู่กับโห้หลีเฉิน”
“ค่ะ!” เย้นหว่านพยักหน้าโดยไม่ลังเล
แววตาของเย้นโม่หลินมืดมน
เย้นหว่านมองเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงจัง และสายตาที่เต็มไปด้วยการอ้อนวอน
“พี่ชายคะ หลังจากผ่านเรื่องนี้คุณก็ได้เห็นแล้วว่าโห้หลีเฉินสละชีวิตเพื่อฉัน เขาจริงใจกับฉัน คุณเห็นด้วยที่เราอยู่ด้วยกันได้ไหมคะ”
เย้นโม่หลินจมอยู่ในความเงียบ
เขามองเย้นหว่าน แล้วหันเหสายตาไปมองโห้หลีเฉินที่หมดสติด้วยแววตาที่เกินจะคาดเดา
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เรื่องนี้รอเขาฟื้นค่อยว่ากัน”
อนุญาตให้เย้นหว่านเฝ้าดูแลโห้หลีเฉินไม่ห่าง มันคือความอดทนอดกลั้นที่หนักที่สุดของเขาแล้วในตอนนี้
ส่วนเรื่องอื่น เขายังต้องคิดให้ดีอีก
เพราะท้ายที่สุดแล้วโห้หลีเฉินก็ช่วยชีวิตเย้นหว่านไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ดูเหมือนจะจริงใจต่อเย้นหว่านอยู่ แต่เขาก็กลับใช้วิธีหลอกลวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใช้ประโยชน์จากเย้นหว่านเพื่อให้ได้อำนาจในตระกูลเย้น ปลอมตัวเป็นกู้ซึงมาอยู่ในตระกูลเย้น...
เป็นชุดเป็นประโยค ไม่ใช่งึมงำทีละสองสามคำก็เพียงพอได้
ออกจากห้องพักฟื้นของโห้หลีเฉิน สีหน้าของเย้นโม่หลินไม่ค่อยดีนัก มืดมนหม่นหมอง ดูเหมือนคนมีเรื่องในใจ
ต้วนอานผู้เป็นลูกน้องมองหน้าตาท่าทางของเย้นโม่หลิน แล้วแอบถอยหลังเงียบๆ ออกไปในระยะปลอดภัยอีกเล็กน้อย
แต่เย้นโม่หลินกลับหยุดกะทันหัน สายตามองตรงไปทางต้วนอาน
ต้วนอานผู้ชายตัวใหญ่ร้อยแปดสิบกว่า จู่ๆ ก็ตัวสั่นขึ้นมาฉับพลัน ถอยหลังสองก้าวด้วยความกลัว
เขาพูดอย่างประหม่าเครียดมาก “คุณ คุณชาย มีอะไรครับ”
โดยทั่วไปแล้ว หากเย้นโม่หลินมีท่าทางแบบนี้ ร้อยเปอร์เซ็นต์ต้องมีคนทุกข์ทรมานและตายอย่างน่าเศร้า
บางทีอาจเป็นศัตรู บางทีอาจเป็นพวกเขาเหล่าลูกน้อง
เย้นโม่หลินมองต้วนอานแบบนี้ สีหน้ายิ่งแย่หนักกว่าเดิม
เขาตะคอกหน้าดำคร่ำเครียด “ฉันดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ไม่ครับ ก็ไม่ใช่...” ต้วนอานฝืนฉีกยิ้มอย่างยากลำบาก
เย้นโม่หลินขี้เกียจพูดไร้สาระกับเขา ขมวดคิ้วลังเลสักพัก ก่อนจะถามเสียงต่ำว่า
“ตรวจสอบดูซิ กู้จื่อเฟยถึงบ้านหรือยัง”
หลายวันขนาดนี้ ตอนนี้เธอควรจะกลับบ้านได้แล้ว
ถึงแม้เธอจะหลอกลวงเขา แต่สุดท้ายแล้วยังไงเธอกับเย้นหว่านก็เป็นเพื่อนรักกัน ตอนนี้เย้นหว่านไม่เป็นอะไรแล้ว ดังนั้นเขาจึงจะบอกให้เธอรู้แค่นั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...