บทที่597 คุยกัน
เมื่อบุคคลในวิดีโอได้ยินคำถามของเย้นหว่าน ชายผิวดำก็พูดอย่างภาคภูมิใจทันที
“ กองกำลังของนายใหญ่พลัง ยิ่งใหญ่ มากครับ ... ”
ผ่านไปครึ่งทางของการสนทนา ในขณะนี้จู่ๆก็มีเสียง “ติ๊ดๆ” ดังขึ้นในคอมพิวเตอร์
ทุกคนในวิดีโอได้รับไฟล์ข้อมูลกันพร้อมหน้า
ในเวลาเดียวกันเสียงของเว่ยชีก็ดังมาจากคอมพิวเตอร์ “คุณชายครับ ข้อมูลทั้งหมดของกู้จื่อเฟยผมส่งให้แล้วนะครับ และได้รับการอัปโหลดแผนที่ และได้ทำการระบุตำแหน่งที่ถูกต้องการตรวจสอบครอบคลุมอย่างเต็มที่และการเตรียมการ พร้อมแล้ว “
เมื่อเสียงลดลงทุกคนพากันจ้องมองไปที่เย้นหว่านด้วยสายตาที่ตั้งตารอ พวกเขาทั้งหมดกำลังมองไปที่บางสิ่งด้วยสีหน้าจริงจัง
โห้หลีเฉินยังกดแป้นพิมพ์และข้อมูลเกี่ยวกับกู้จื่อเฟยก็ปรากฏบนคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นทันที
มันเป็นภาพถ่ายชีวิตของกู้จื่อเฟย ที่มีทั้งแต่งหน้าและไม่แต่งหน้า
ด้านล่างเขียนถัดจากข้อมูลพื้นฐานส่วนสูงน้ำหนักงานอดิเรกการแต่งตัวและนิสัยเป็นต้น
เย้นหว่านติดตามและเข้าใจทันทีว่า โห้หลีเฉินได้ตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับกู้จื่อเฟย แล้วสั่งให้พวกเขาค้นหา
เป็นที่คิด โห้หลีเฉินสั่งคนในวิดีโอ
“ดูข้อมูลให้ดีๆแล้ว เริ่มลงมือค้นหาได้ ภายในสามวันจะต้องตามหาเธอให้เจอ”
“รับทราบ!”
คนเหล่านั้นอ้ารับคำอย่างจากนั้นพวกเขาก็ตัดสายไปทีละคน
ภาพประจำตัวกล้องวิดีโอขนาดเล็กหายไปทีละภาพ และในที่สุดก็หายไปทั้งหมด
อย่างไรก็ตามในหน้านั้นถูกแทนที่ด้วยจุดสีเขียวเล็ก ๆ ที่มีสัญลักษณ์จัดเรียงและแสดงบนคอมพิวเตอร์
ดูเหมือนว่าจะเป็นการแสดงตำแหน่งของคนเหล่านั้น
โห้หลีเฉินพูดอธิบาย“นี่คือไฟสัญญาณของพวกเขามันออนไลน์และสามารถติดต่อได้ตลอดเวลา แต่ถ้าไฟเป็นสีแดงแสดงว่ามีเหตุฉุกเฉินและรายชื่อติดต่อทั้งหมดจะถูกตัดการติดต่อจากกันทันที”
เนื่องจากคนเหล่านี้มีฐานะพิเศษ พวกเขาจึงอยู่ในตำแหน่งต่างๆที่ซ่อนอยู่ในทุกที่และทุกอาชีพและยังเป็นตำแหน่งสำคัญอีกด้วยเมื่อพวกเขาเริ่มลงมือทำพวกเขาอาจถูกเปิดเผย
ถ้าถูกจับจะทำลายการติดต่อทั้งหมดทันที เพื่อไม่ให้ทั้งกลุ่มต้องเดือดร้อนไปด้วย
และยังต้องตัดการติดต่อกับเขาทั้งหมดอย่างรวดเร็วเพื่อรักษากองกำลังทั้งหมดไว้
เป็นเรื่องที่โหดร้าย ดังนั้นต้องรักษาความระมัดระวังให้ดีที่สุด
นี่เป็นเหตุผลที่โห้หลีเฉินจะไม่ใช้กองกำลังนี้อย่างโจ่งแจ้ง เพราะไม่ว่าใครจะหายไปมันก็เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
คนเหล่านี้ล้วนเป็นลูกน้องระดับสูงที่เขาทำการการปลูกฝังมาเป็นเวลาหลายปี
เย้นหว่านพยักหน้าอย่างเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังของเย้นโม่หลินหรือโห้หลีเฉินเธอแทบไม่สนใจเรื่องเกี่ยวกับกองกำลังเหล่านี้เลย
สิ่งเดียวที่เธอยืนยันได้อย่างชัดเจนคือพวกเขาจะปกป้องเธอด้วยชีวิตพวกเขาแน่นอน
นอกจากไฟเขียวแล้ว ข้อมูลมากมายบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็เริ่มเต้นรัว
โห้หลีเฉินหันมาสบตากับเย้นหว่าน“ ผมอาจจะต้องยุ่งสักพัก ถ้าคุณง่วงก็ไปนอนก่อนได้เลยนะครับ”
ในขณะที่พูดสายตาของโห้หลีเฉิน ก็ดูหดหู่เล็กน้อย
เดิมทีเขาวางแผนที่จะนอนกอดเธอทั้งคืน
ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะต้องเลื่อนออกไปก่อนซะแล้ว
เย้นหว่านไม่กล้าคิดได้ว่า โห้หลีเฉินกำลังคิดเรื่องแบบนี้อยู่
เธอส่ายหัวและยังคงเอื้อมมือไปปอกองุ่นต่อไป
“คุณยุ่งของคุณไปเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ฉันจะนั่งเป็นเพื่อนคุณที่นี่”
นอกจากนี้เธอยังต้องดูแลโห้หลีเฉินไม่ให้ทำงานหนักเกินไปและไม่นอนดึกเกินไป
หลังจากนั้นเขาเพิ่งตื่นและร่างกายของเขาไม่สามารถรองรับได้
โห้หลีเฉินมองไปที่ดวงตาที่เป็นกังวลของเย้นหว่านแล้วอบอุ่นในใจ
เขาไม่ได้พูดอะไรนิ้วของเขาขยับไปมาอยู่บนแป้นพิมพ์เหมือนกำลังเต้นรำอีกครั้งและเขาก็เริ่มใช้งานอย่างชำนาญ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...