บทที่612 โห้หลีเฉินใจกว้างขนาดนี้เชียว?
อยู่ไม่อยู่ ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะตัดสินใจได้
เย้นโม่หลินไม่ชอบเธอ ไม่อยากให้เธออยู่ต่อไป เธอก็หน้าด้านอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้หรอก
แต่เธอก็เป็นห่วงความปลอดภัยของกู้ซึงอยู่ดี
กู้จื่อเฟยคิดวิตกในใจ หาจุดยืนให้ตัวเองอย่างกังวล
ลังเลสักพัก เธอก็พูดเสียงเบา ถามว่า
“คุณชายเย้น ฉัน……ฉันอยู่ที่นี่รอฟังข่าวกู้ซึงได้ไหมคะ? ขอแค่กู้ซึงปลอดภัย ฉันจะไปทันทีเลยค่ะ”
มองดูท่าทีที่ระมัดระวังของกู้จื่อเฟย เย้นโม่หลินก็ขมวดคิ้วเป็นปม
เขาไม่ได้ไล่เธอไปสักหน่อย ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ว่าอะไรด้วย เธออยากอยู่อีกนานเท่าไหร่ก็ย่อมได้
หรือว่า นานกว่านี้ก็ยังได้
ความคิดนี้พึ่งโผล่เข้ามาในหัว เย้นโม่หลินก็อึ้งไปสักพัก
นอกจากอยากจะเก็บเย้นหว่านไว้นานๆแล้ว เขายังไม่เคยคิดจะให้ใครอยู่ต่อนานๆเลย
แต่เผชิญหน้ากับกู้จื่อเฟย ทำไมเขาถึงคิดแบบนี้ได้นะ
ถึงแม้ตอนนี้เธอจะอยู่ต่อ แต่บนโลกนี้ก็ไม่มีงานเลี้ยงที่ไม่เลิกรากัน ยังไงเธอก็ต้องไปอยู่ดี แต่ทำไมกันนะ พอนึกว่ายังไงเธอก็ต้องไปอยู่ดี ในใจเขากลับรู้สึกไม่สบายอย่างมาก รู้สึกอึดอัดใจแปลกๆ
เย้นโม่หลินจิตใจวุ่นวาย สายตาที่มองกู้จื่อเฟยก็กระสับกระส่าย เขาพยักหน้าตอบ
“ต่อไปเรื่องแบบนี้ไม่ต้องถามฉันหรอก เธอเป็นเพื่อนเสี่ยวหว่าน เธอตกลงก็พอแล้ว”
ยังไง เย้นหว่านก็อยากให้กู้จื่อเฟยอยู่ต่อตลอดอยู่ดี
กู้จื่อเฟยมองสีหน้าที่เย็นชาของเย้นโม่หลิน ในใจอัดแน่นไปหมด รู้สึกเจ็บปวดกว่าเดิมอีก
เขาหมายความยังไงกัน ที่จริงก็ไม่อยากให้เธออยู่ต่อ แต่เพราะมีเย้นหว่าน ก็เลยไล่เธอไปทันทีเลยไม่ได้งั้นเหรอ
ดังนั้นก็เลยให้เย้นหว่านเลือกเอง
เย้นหว่านก็ต้องตกลงอยู่แล้ว แต่เธอยังหน้าด้านอยู่ที่นี่ต่อไปได้เหรอ?
กู้จื่อเฟยในใจเศร้าโศก กัดฟัน ถึงอดทนไม่หนีออกไปในทันที
เธอไม่อยากขวางหูขวางตาเย้นโม่หลิน ทำให้เขาโมโห แต่เรื่องก็มาถึงตอนนี้แล้ว เธอไปแล้วก็คงไม่สบายใจ อยากจะรู้ว่าตอนนี้กู้ซึงเป็นยังไงบ้าง
เธอบอกตัวเองในใจว่า ขอแค่เห็นกู้ซึงปลอดภัย เธอก็จะไปทันที
ไม่นานหรอก จะอยู่ที่นี่ไม่นานหรอก
เย้นหว่านเห็นกู้จื่อเฟยคิดวิตก เหมือนมะเขือยาวที่ถูกน้ำค้างแข็งตีล้อม ในใจสงสัยอยู่ตลอด
ระหว่างกู้จื่อเฟยกับเย้นโม่หลินต้องมีเรื่องอะไรกันแน่ๆ พวกเขาเป็นอะไรไปนะ?
เย้นโม่หลินไปรับกู้จื่อเฟยมารอบเดียว ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดูยังไม่คลี่คลายลงเลยเหรอ?
หรือว่าเกิดเรื่องอะไรที่เธอยังไม่รู้อีก?
เย้นหว่านสงสัย ในใจรู้สึกกังวล เธอไม่ชินกับการที่เห็นกู้จื่อเฟยอยู่ในอาการเศร้าสลดและระวังตัวเลย
สายตาเธอกระสับกระส่าย มองไปที่โห้หลีเฉินอย่างต้องการความช่วยเหลือ
โห้หลีเฉินก่อนหน้านี้พูดเรื่องความรู้สึกระหว่างกู้จื่อเฟยกับเย้นโม่หลินได้ตรงมาก สายตาคมกริบขนาดนั้น ตอนนี้ต้องรู้อะไรแน่?
โห้หลีเฉินนั่งอย่างสง่า ดื่มน้ำผมไม้อย่างเชื่องช้า ดื่มต่อไปเรื่อยๆ
นี่เป็นน้ำผลไม้ที่เย้นหว่านทำให้เขาเอง เขาต้องดื่มให้หมดสิ
หลังจากนั้นสักพัก เขาก็วางแก้วลง พูดอย่างเรียบเฉยว่า
“พวกเธอไม่เจอกันนานแล้ว น่าจะมีอะไรอยากจะพูดนะ คืนนี้กู้จื่อเฟยก็นอนห้องนอนแขกแล้วกัน เธอไปนอนกับกู้จื่อเฟย?”
คำพูดสุดท้าย โห้หลีเฉินถามและมองเย้นหว่าน
เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินอย่างแปลกใจ ไม่คิดว่าคนที่อยากให้เธออยู่ด้วยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงคนนี้ จะยอมให้เธอไปนอนกับกู้จื่อเฟยหนึ่งคืน
โห้หลีเฉินใจกว้างขนาดนี้เชียว?
มองดูท่าทีแปลกใจของเย้นหว่าน ดวงตากลมโตนั้นเสมือนดวงดาวบนท้องฟ้านับล้าน ดูแล้วเปล่งประกายวิบวับดูน่ารักมาก
โห้หลีเฉินรู้สึกเสียดายขึ้นมากะทันหัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...