อยู่ตรงหน้าเขา เธอไม่ควรทำตัวเหมือนปลากระดี่ได้น้ำเลย
เขาเห็นแล้วจะต้องรู้สึกเกลียดมากๆอีกแน่เลย
กู้จื่อเฟยรีบเก็บรอยยิ้มไว้ แววตาเปลี่ยนมามืดมนอีก เธอนั่งอยู่บนที่นั่ง ก้มหน้าไว้อย่างเก้งก้าง
ดูแล้วเหมือนหมาน้อยที่ท้อแท้หมดอาลัยตายอยาก
แต่ทั้งตัวกลับมีความห่างเหินที่เด่นชัดฟุ้งกระจายอยู่
เย้นโม่หลินรู้สึกอึดอัดใจมาก หงุดหงิดจนอยากพูดอะไรหน่อย แต่กลับไม่รู้จะพูดอะไรเลย
กู้จื่อเฟยที่เป็นแบบนี้ทำให้เขาจนปัญญาสุดๆ เขายิ่งไม่รู้ควรจะเข้าใกล้เธอยังไง
“พี่ เป็นอะไรคะ?”
เย้นหว่านขึ้นเครื่องตามมาทีหลัง รู้สึกได้อย่างแหลมคมว่าบรรยากาศบนเครื่องผิดปกตินิดหน่อย
เย้นโม่หลินอึ้งเล็กน้อย จากนั้นได้เก็บอารมณ์ไว้ในทันที และพูดอย่างเฉยเมย “เปล่า ไม่มีอะไร”
ระหว่างพูด เขาก็ได้นั่งลงมายังที่นั่งที่อยู่แถวนั้น เป็นที่ที่ไกลจากกู้จื่อเฟยที่สุด
เย้นหว่านมองเย้นโม่หลิน จากนั้นได้หันไปมองกู้จื่อเฟยอีก สุดท้ายได้ถอนหายใจอย่างจนปัญญา
เขาสองคนเป็นไปไม่ได้แล้วจริงๆเหรอ?
แค่คิดก็รู้สึกเศร้าแล้ว
“วาสนามีฟ้ากำหนด คุณอย่ากังวลเลย”
ฝ่ามือใหญ่ของโห้หลีเฉินกดไหล่ของเย้นหว่านไว้ เสียงทุ้มต่ำคอยพูดอยู่ข้างหูเธอ
วาสนามีฟ้ากำหนดเหรอ?
จะสามารถอยู่ด้วยกันหรือเปล่า หรือว่าถูกกำหนดว่าไร้วาสนาต่อกัน มันก็เป็นโชคชะตาของเย้นโม่หลินกับกู้จื่อเฟยแล้ว
คนนอกเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้
เย้นหว่านเข้าใจเหตุผลนี้ดี จึงได้พยักหน้าอย่างจนปัญญา
แล้วแต่วาสนาเถอะ
เฮลิคอปเตอร์บินไปยังตระกูลเย้นโดยตรง
เฮลิคอปเตอร์ของกู้ซึงมาถึงก่อนพวกเขาก้าวหนึ่ง เย้นหว่านถึงบ้านก็ได้รับข่าวดีนี้เลย ทันใดนั้นเธอกับกู้จื่อเฟยได้วิ่งไปที่ลานบ้านของเย้นหว่าน ไปหากู้ซึงแล้ว
ผู้หญิงทั้งสองสีหน้าตื่นเต้นและดีอกดีใจ ได้จูงมือกันวิ่งไปแล้ว
ทิ้งให้ผู้ชายอกสามศอกสองคนยืนอยู่สนามหญ้า เส้นผมถูกสายลมพัดจนยุ่งเหยิง
โห้หลีเฉินมองเงาของเย้นหว่านด้วยสายตาลถ่มลึก สีหน้าแววตาเศร้าหมอง
เย้นโม่หลินมองเขา แล้วพูดหยอกล้อ “อิจฉาเหรอ?”
โห้หลีเฉิน “......”
เขาเม้มริมฝีปากที่สวยงามไว้ ไม่คิดจะตอบคำถาม
เย้นโม่หลินได้พูดต่ออีก “ว่าไปแล้ว ตอนแรกครอบครัวเราก็รู้สึกชอบกู้ซึงแล้ว ถ้าเป็นกู้ซึง พวกเราต่างก็สนับสนุนให้เขาแต่งงานกับเย้นหว่าน”
แววตาของโห้หลีเฉินอ่อนไหวเล็กน้อย ทีนี้ถึงหันไปมองเย้นโม่หลิน เขาพูดอย่างชิวๆ “ชอบกู้ซึง?”
“คนที่เข้ากับเย้นหว่าน ชนะฝีมือการยิงปืนและแข่งรถกับหยูซือห้านคือฉันนะ”
มุมปากของโห้หลีเฉินเผยรอยยิ้มออกมา
สีหน้าของเย้นโม่หลินกลับหมอง ตอนนั้นเขาหยั่งความคิดเห็นของโห้หลีเฉิน มาจนถึงตอนหลังที่เห็นกู้ซึงเข้าตา ทั้งกระบวนการนั้น ที่จริงคนที่เข้าตาจริงๆคือโห้หลีเฉิน
ให้ตายสิ
เย้นโม่หลินหน้าหม่นหมอง และพูดอย่างแข็งกระด้าง “สุดท้ายนายก็ไม่ใช่กู้ซึง จะสามารถผ่านด่านของพ่อแม่เสี่ยวหว่านหรือเปล่าค่อยว่ากันเถอะ!”
พ่อแม่เอ็นดูเย้นหว่านขนาดนั้น ไม่มีทางให้อภัยโหเหลีเฉินง่ายดายขนาดนั้นหรอก
โห้หลียิ้มอย่างเรียบเฉย สีหน้าแววตาคือท่าทีที่อยากได้ต้องได้
เย้นหว่านกับกู้จื่อเฟยวิ่งจนกระหืดกระหอบ ในที่สุดก็วิ่งมาถึงห้องนอนของกู้ซึง
เขายังคงพักอยู่ที่ห้องนอนในลานของเย้นหว่านอีกเช่นเคย นาทีนี้กำลัง......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...