สรุปเนื้อหา บทที่652 วิญญาณผูกมัดกัน – สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน โดย ถางเสี่ยวเถียน
บท บทที่652 วิญญาณผูกมัดกัน ของ สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ถางเสี่ยวเถียน อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่652 วิญญาณผูกมัดกัน
เธอไม่คิดว่า แค่ไม่กี่ชั่วโมงที่ไม่ได้เจอกัน เมื่อเธอได้เห็นเขาอีกครั้ง เขาจะกลายเป็นแบบนี้
นอนจมอยู่ในน้ำ ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง
ดูไปแล้ว ไม่น่าจะรอด
ร่างกายของเย้นหว่านสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ หลังจากยืนโง่อยู่สักพัก เธอก็ได้สติ สองมือสั่นยื่นลงไปในน้ำ และพยายามดึงร่างโห้หลีเฉินขึ้นมา
เธอตะโกนเรียกด้วยเสียงสะอื้น "โห้หลีเฉิน โห้หลีเฉิน... "
เธอยื่นมือลงไปในน้ำ จึงได้รู้ว่าอุณหภูมิของน้ำเย็นจนกัดไปถึงกระดูก
โห้หลีเฉินยังคงนอนไม่ได้สติอยู่ในนั้น ไม่รู้ว่านานแค่ไหน
ดวงตาของเย้นหว่านพร่ามัว เธอพุ่งผ่านน้ำเย็นเข้าไป และคว้าแขนของโห้หลีเฉินไว้
ในขณะที่เธอกำลังจะลากเขาขึ้นมา มือเย็นกลับผลักเธอออกห่าง
ก่อนที่โห้หลีเฉินจะลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำพร้อมกับเสียงน้ำ "ซ่า" มือที่เย็นเหมือนก้อนน้ำแข็งของเขาบีบคอของเย้นหว่านอย่างรวดเร็ว
เสียงของเขาแหบแห้ง แต่ก็ยังเย็นชาและดูน่ากลัว “ผมเคยบอกไว้แล้วว่าถ้าเข้ามาคุณตายแน่ ... “
เย้นหว่านรู้สึกเจ็บที่คอมาก ราวกับว่า การหายใจของเธอถูกตัดขาดไปในวินาทีนั้นเลย
เธอรู้สึกได้ถึงไอสังหารของโห้หลีเฉินที่รุนแรงมากในขณะนี้
เธอพยายามอ้าปากด้วยความยากลำบาก และพยายามส่งเสียงพูดอย่างยากลำบากออกมาสองคำ“ ฉัน ... เอง ... ”
แรงบีบที่เพิ่มขึ้นบริเวณคอของเธอทำให้ตกใจ
โห้หลีเฉินพยายามขยับเปลือกตา และลืมตาที่พร่ามัวของเขามองไปที่เย้นหว่านด้วยความตกตะลึงอย่างหาที่เปรียบมิได้
เขามองตรงไปที่เธอด้วยความตกใจ เหมือนไม่อยากจะเชื่อ
เขาขมวดคิ้ว“ เย้นหว่านเหรอ”
เสียงของเขาทั้งงุนงงและสงสัย
เวลาผ่านไปกว่าสองชั่วโมงแล้ว ฤทธิ์ของยากลับยิ่งแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายของเขาเริ่มทรมานมากขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ในอาการพร้อมจะระเบิดได้ตลอดเวลา และยังมีอาการประสาทหลอนอยู่หลายครั้ง
เขาไม่มั่นใจจริงๆ ว่าคนตรงหน้า คือเย้นหว่านจริงๆหรือเปล่า
อาจเป็นไปได้ว่าเขารู้สึกทรมานจนถึงจุดสูงสุด จนเกิดภาพลวงตาเห็นเย้นโน่เป็นเย้นหว่านก็เป็นไปได้
เมื่อเห็นอาการต่อต้านและพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองอย่างหนักของโห้หลีเฉิน หัวใจของเย้นหว่านก็เหมือนจะถูกบีบรัดด้วยฝ่ามือใหญ่อย่างรุนแรง
มาจนถึงตอนนี้ เธอไม่ต้องคาดเดา ก็พอจะเดาเรื่องราวได้ซะส่วนใหญ่
เย้นโน่วางยาใส่โห้หลีเฉิน!
แล้วยังขังโห้หลีเฉินไว้ที่นี่ด้วย
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว แต่โห้หลีเฉินกลับซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ โดยใช้น้ำเย็น กับการทำร้ายร่างกายตัวเอง เพื่อควบคุมสติตัวเองไว้
ดวงตาของเย้นหว่านพร่ามัวไปด้วยน้ำตา และเสียงสะอื้น
“ใช่ค่ะ ฉันเอง ขอโทษค่ะ ที่ฉันมาสาย ฉันน่าจะมาให้เร็วกว่านี้…”
ทำไมเธอไม่ตื่นเร็วกว่านี้ ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกตัวว่าโห้หลีเฉินหายไปเร็วกว่านี้
อาการเขาในตอนนี้ จะได้รับความทุกข์ทรมานมากแค่ไหนกัน
หลังจากลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ ความรุ่มร้อนที่โห้หลีเฉินพยายามควบคุมอยู่ ก็แผดเผาเหมือนไฟลามทุ่งอีกครั้ง และมันกำลังทำลายสติที่เขาหลงเหลือทั้งหมดไป
มีแค่สวรรค์ที่รับรู้ ว่าเขาต้องลำบากแค่ไหนถึงจะควบคุมสติตัวเองไว้ได้
สายตาของเขาเบลอเล็กน้อย มองไปทางเย้นหว่านที่กำลังร้องไห้ ฟังเสียงสะอื้นของเธอ หัวใจของเขารู้สึกเจ็บไปด้วย
แล้วยังทำลายความวิตกกังวลในใจทิ้งไปทันที
เย้นหว่านจริงๆด้วย
มีเพียงเธอเท่านั้น ที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ได้
เส้นใยเส้นสุดท้ายในสมองของโห้หลีเฉินขาดลงทันที
ไฟในร่างกายของเขา เดือดปะทุขึ้นมาทันที
เขาคว้าตัวเธอไว้ แล้วดึงเธอมาตรงหน้าเขา ก่อนที่ริมฝีปากบางของเขาก็กดทับกับริมฝีปากเธออย่างแรง
มันเป็นจูบที่เร่าร้อนราวกับสามารถแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างลงไปได้
แขนของเขาโอบรอบร่างของเธอ แต่มันกลับเย็นราวกับก้อนน้ำแข็ง
เหมือนไฟกับน้ำแข็ง ร้อนกับเย็น ทำให้ร่างกายของเย้นหว่านตื่นตัวขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ และความรู้สึกแปลก ๆ ก็จู่โจมเข้าสู่หัวใจและร่างกายของเย้นหว่านทันที
พวกเขาไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการเฝ้าประตูไว้ แต่พวกเขายังปล่อยให้สิ่งต่างๆพัฒนาไปในทิศทางที่เลวร้ายที่สุดอีกด้วย
“แย่แล้ว ตอนนี้จะทำอย่างไรดี”
พวกเขามองหน้ากัน และเห็นว่าใบหน้าอีกคนต่างก็เหยเก กลัวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อจากนี้มาก
บอดี้การ์ดคนหนึ่งลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะกัดฟันพูดว่า “ฉันจะไปรายงานคุณผู้หญิงข้างใน ... “
หลังจากหยุดนิ่งไปนาน ก็กัดฟันพูดออกมาอย่างยากลำบาก
“ก่อนอื่นเราพาคุณหนูเย้นโน่ไปนั่งก่อน คอยดูแลด้วย รอฉันกลับมา “
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่มีความกล้าพอที่จะรีบเข้าไปเพื่อดูภาพที่ดุเดือดในห้องน้ำ
หลังจากพูดเสร็จ หนึ่งในบอดี้การ์ดก็รีบวิ่งออกไปข้างนอกทันที
บอดี้การ์ดอีกคนเดินมาหยุดตรงหน้าเย้นโน่แล้วยื่นมือเข้าไปช่วยประคองเธอขึ้นมาอย่างระมัดระวัง “คุณหนูเย้นโน่นั่งที่โซฟาดีกว่าครับ ที่พื้นมันเย็น”
ที่พื้นเย็น จะเทียบกับความหนาวเย็นในใจของเธอได้อย่างไรกัน
เย้นโน่หมดเรี่ยวแรง ปล่อยให้บอดี้การ์ดพยุงตัวขึ้นมา แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาด้วยท่าทางหมดแรง
กลอนประตูห้องน้ำเสีย ทันทีที่เธอเดินออกไป ประตูก็เลื่อนปิดอย่างช้าๆ
ไม่ได้ล็อค แต่กลับสามารถแยกออกเป็นโลกสองใบเป็นโลกภายในและโลกภายนอก
ภายนอกนั้นเยือกเย็นสิ้นหวัง ส่วนภายในกลับเร่าร้อนไปด้วยเสน่หา
เย็นกับร้อน
ฟ้ากับดิน
หลังจากนั้นไม่นาน กงจืออวีก็เดินตามหลังบอดี้การ์ดมาอย่างรีบร้อน
ใบหน้าของเธอบึ้งตึงเอามากๆ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแผนของเธอจะผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงขนาดนี้
“เย้นโน่ เธอทำงานประสาอะไรของเธอ”
ทันทีที่เดินผ่านประตูเข้ามา กงจืออก็ต่อว่าเย้นโน่อย่างโกรธเกรี้ยวทันที
ในขณะเดียวกัน เธอยังเห็นว่าภายในห้องไม่ได้เละเทะอย่างที่เธอจินตนาการไว้ ยกเว้นกลอนประตูห้องน้ำที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม
เย้นโน่ที่ก่อนหน้านี้นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความสิ้นหวัง ตกใจกลัวจนต้องรีบลุกขึ้นยืน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...