บทที่661 เห็นแล้ว
ถุง?
เย้นหว่านตะลึงไปเล็กน้อย สถานการณ์เมื่อคืนนี้ แน่นอนว่ามันไม่มีประโยชน์อะไร
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นเธอก็ลุกขึ้นนั่งแล้วพูดด้วยความตื่นตระหนก “แย่แล้ว ตอนนี้ฉันยังท้องไม่ได้นะ”
กู้จื่อเฟยมองเธอด้วยความประหลาดใจ “ทำไมล่ะ?”
เย้นหว่านขมวดคิ้ว รู้สึกหดหู่ขึ้นมาเล็กน้อย
“ทางที่จะไปประเทศเบียนหนานครั้งนี้อันตรายมาก ยังไม่รู้เลยว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่จึงจะผ่านไปได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้สถานการณ์ของประเทศเบียนหนานก็ยังไม่แน่นอน มีอันตรายเต็มไปหมด โห้หลีเฉินลำพังแค่ดูแลฉันก็อาจจะต้องเสียแรงไปพอสมควรแล้ว ถ้าฉันท้องอีกล่ะก็ จะต้องกลายเป็นภาระของทุกคนแน่”
เป็นเพราะเหตุผลนี้
กู้จื่อเฟยมองเย้นหว่านด้วยแววตาวูบไหว “งั้นเธอวางแผนว่ายังไง?”
“จื่อเฟย”
เย้นหว่านจูงมือกู้จื่อเฟยอย่างกระตือรือร้นแล้วพูดด้วยสีหน้าอ้อนวอน “เธอช่วยฉันหน่อยสิ ช่วยไปหายาคุมกำเนิดฉุกเฉินให้ฉันหน่อยได้มั้ย?”
“ยาคุมกำเนิด? ของแบบนั้นกินแล้วมันไม่ดีต่อร่างกายนะ”
“ไม่เป็นไร กินแค่ครั้งเดียวไม่ได้ทำอันตรายของร่างกายมากนัก ขอแค่ไม่เกินสามครั้งต่อปีก็ได้แล้ว”
เย้นหว่านพูดอธิบาย “พูดไปแล้ว ตอนนี้มันก็เกิดขึ้นแล้ว ก็มีแต่ต้องกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินถึงจะสามารถแก้ไขได้”
กู้จื่อเฟยคิดดูแล้วก็เป็นตามนั้น จึงได้แต่พูดว่า “งั้นเธอรอก่อน ฉันจะไปเอาที่ป่ายฉี”
พูดจบ กู้จื่อเฟยก็กำลังจะลุกขึ้น แต่ทันใดนั้นกลับถูกเย้นหว่านคว้าข้อมือเอาไว้
สีหน้าของเย้นหว่านเต็มไปด้วยตึงเครียด “อย่าไปหาป่ายฉี แค่แอบไปขอที่เสี่ยวฮวนมาสักกล่องก็พอแล้ว ให้ดีอย่าให้พวกพี่ชายของฉันรู้เลยจะดีที่สุด”
ป่ายฉีกับเย้นโม่หลินนั้นเหมือนกางเกงตัวเดียวกัน ถ้าไปเอาจากป่ายฉี งั้นคนทั้งบ้านก็ได้รู้กันหมดแล้ว
กู้จื่อเฟยมองเย้นหว่านอย่างค่อนข้างงุนงง “เธอคิดจะไม่ให้พวกเขารู้เหรอ? แล้วโห้หลีเฉินล่ะ?”
“อย่าให้เขารู้ด้วยเหมือนกัน”
เย้นหว่านพูดอย่างไม่ลังเล
กู้จื่อเฟยมองเธออย่างสงสัยและไม่เข้าใจ
เย้นหว่านสีหน้าหมองคล้ำลง พูดอธิบาย “ถ้าโห้หลีเฉินรู้ว่าฉันกินยาคุมกำเนิดเขาคงจะโทษตัวเอง”
คำพูดเรียบง่าย แต่กลับทำให้กู้จื่อเฟยเข้าใจความกลัดกลุ้มของเย้นหว่าน
ตอนนี้อาการของโห้หลีเฉินกำลังแย่ อาจตายได้ทุกเมื่อ ต้องพึ่งพาหยูกยาและเย้นหว่านเพื่อมีชีวิตอยู่ ที่เย้นหว่านไม่ต้องการลูก ก็เพราะกังวลถึงสภาพร่างกายของโห้หลีเฉิน
แต่สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ผู้หญิงของเขาต้องกินยาคุมกำเนิดเพราะเขา ในใจก็คงรู้สึกว่าเป็นความผิดของเขา เป็นเขาที่เป็นภาระของเธอ
เย้นหว่านไม่ต้องการให้โห้หลีเฉินมีภาระทางใจแบบนั้น
กู้จื่อเฟยมองเย้นหว่านด้วยแววตาสั่นไหว เอ่ยเสียงเบา “บางครั้ง ฉันก็อิจฉาความสัมพันธ์ของเธอกับโห้หลีเฉินจริง ๆ ”
แม้ว่าทางข้างหน้าจะยากลำบาก แต่ใจจริงที่เชื่อมกันของพวกเขา การได้เจอกันและกันนั้นสำคัญยิ่งกว่าชีวิต
ขอแค่อยู่ด้วยกันก็เป็นสุข อุปสรรคทั้งหมดก็ล้วนเอาชนะได้
สายตาของเย้นหว่านราวอยู่ในภวังค์ “ที่จริงแล้วการได้อยู่กับโห้หลีเฉิน ตอนนี้ฉันก็เหมือนกับอยู่ในความฝันแล้วล่ะ”
โห้หลีเฉินนั้นดีเกินไป ตั้งแต่แรก ไม่ว่าเขาจะดีกับเธอขนาดไหน เธอก็ไม่กล้าคิดไปว่าเขาชอบเธอ
ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน เธอก็ยังคงราวกับว่าถูกเทพเจ้าแห่งความโชคดีโจมตี ไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายที่ดีพร้อมขนาดนั้น จะกลายเป็นแฟนหนุ่มของเธอจริงๆ ผู้ชายของเธอ และสามีในอนาคตของเธอ
เย้นหว่านมักคิดบ่อยๆ ว่าชาติก่อนเธอคงกอบกู้ทางช้างเผือกเอาไว้ ชาตินี้ถึงได้โชคดีแบบนี้สินะ
กู้จื่อเฟยจับแขนของเย้นหว่าน พูดอย่างจริงจัง “ทะนุถนอมไว้ให้ดีล่ะ จะต้องมีความสุขแน่ ๆ ”
“อื้ม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...