บทที่673 คำพูดนั้นใครจะเชื่อ
ของสวย ๆ งาม ๆ ดูยังไงก็ไม่เบื่อ
เย้นหว่านมองอย่างมีความสุขอยู่สักพัก แล้วจึงขยับอย่างแผ่วเบา ค่อย ๆ ลุกจากผ้าห่มขึ้นนั่ง
การเคลื่อนไหวของเธอเบามาก ด้วยกลัวว่าจะทำเสียงดังไปปลุกโห้หลีเฉินเข้า
ที่เธอตื่นเช้า มันก็มีเหตุผลอยู่
วันนี้ถึงวันที่ต้องกินยาคุมกำเนิดแล้ว
แต่ทั้งวันเธออยู่กับโห้หลีเฉินตลอดเวลา เธอไม่มีจังหวะจะแอบกินได้เลย จึงได้แต่รีบตื่นเร็ว ๆ แล้วกินอย่างลับ ๆ
หลังจากลุกขึ้นนั่งแล้วก็มองโห้หลีเฉินอีกที เมื่อแน่ใจแล้วว่าเขายังไม่ตื่น เย้นหว่านจึงรีบหยิบกระเป๋าเป้ที่วางอยู่ข้าง ๆ มา
หยิบยาคุมกำเนิดที่ซ่อนอยู่ข้างในออกมาอย่างชำนาญ แล้วจึงกลืนลงไปพร้อมกับน้ำ
ทั้งหมดนี้เมื่อคืน เธอใส่ยาคุมกำเนิดกลับเข้าไป ในตอนนั้นเอง มือข้างหนึ่งที่เห็นข้อต่ออย่างชัดเจนกลับยื่นมาคว้ายาไปจากมือของเธอ
ในมือว่างเปล่า เย้นหว่านตกตะลึง
สมองของเธอว่างเปล่าไปชั่วขณะ
เธอหันอย่างแข็งเกร็ง ก็เห็นชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่แท้ ๆ ไม่รู้ว่าเขาตื่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขานอนตะแคงข้างถือขวดยาคุมกำเนิดไว้ในมือ
และสายตาของเขา ขณะที่มองยาคุมกำเนิดนั้นก็หนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ
เย้นหว่านตกใจจนหน้าถอดสี ไม่นึกว่าโห้หลีเฉินจะมาพบเรื่องที่เธอกินยาคุมกำเนิดเข้าตอนนี้
เธอพูดอย่างตื่นตระหนก “นั่นมัน ฉันอธิบายได้”
โห้หลีเฉินบีบยาคุมกำเนิดเอาไว้แน่น นิ้วมือออกแรงจนดูออก
สีหน้าของเขาหมองหม่น ย้อมไปด้วยสีหน้าที่โกรธแค้นอย่างซับซ้อน
เขาค่อย ๆ เบนสายตาไปที่เธอ
“พูด”
คำคำหนึ่งที่แสนเย็นชา ข่มอารมณ์ที่ปั่นป่วนในอกของเขา
ใจของเย็นหว่านยิ่งบีบรัด
เธอรีบอธิบายด้วยจิตใจตื่นตระหนก
“ฉันกังวลใสสภาพเส้นนี้มันไม่แน่นอนและอันตรายมาก เดิมทีฉันก็เป็นตัวภาระอยู่แล้ว ถ้าหากท้องขึ้นมาอีก ก็จะยิ่งทำให้ทุกคนเดือดร้อน เพราะอย่างนั้นถึงได้กินสิ่งนี้”
แววตาของเธอกระตือรือร้นและส่องประกาย กลัวว่าโห้หลีเฉินจะไม่เชื่อ
แต่เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของโห้หลีเฉินกลับยิ่งย่ำแย่
เขาไม่อยากสงสัยเย้นหว่าน แต่คำพูดนั้นของเธอไม่มีความน่าเชื่อถือเลยแม้แต่น้อย ฟังยังไงก็เหมือนเป็นการโกหกพกลม
ทั้งยังเป็นการโกหกที่ไม่จริงใจเลยสักนิด
เมื่อเย้นหว่านเห็นสีหน้าของโห้หลีเฉินยิ่งแย่ลง ในใจก็กระวนกระวายอย่างมาก
เธอเอื้อมไปคว้ามือของโห้หลีเฉิน รีบพูดอย่างจริงใจ “โห้หลีเฉิน ฉันไม่ได้มีความหมายอย่างอื่นเลยจริง ๆ นายเชื่อฉันนะ”
คิ้วของโห้หลีเฉินขมวดแน่นขึ้น
ผ่านไปพักใหญ่ น้ำเสียงทุ้มต่ำที่อัดอั้นของเขาถึงเปล่งลอดไรฟันออกมา
“ตอนนี้ฉันยังไม่มีความสามารถในการเจริญพันธุ์ เธอจะกินหรือไม่กินยา ก็ไม่สามารถท้องได้”
เสียงของเขาแข็งกร้าวมาก และยังพูดข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดในคำพูดของเย้นหว่านด้วย
โห้หลีเฉินเป็นหมันไปแล้ว แล้วจะไปท้องได้ยังไงล่ะ?
แววตาของเย้นหว่านสั่นระริก จิตใจยิ่งตึงเครียดมากขึ้น
เธอลังเลอยู่สักพัก ไตร่ตรองว่าจะพูดหรือไม่พูด
หากไม่พูด ด้วยสถานการณ์วันนี้ โห้หลีเฉินดีไม่ดีจะคิดฟุ้งซ่าน ในเมื่อเขาเป็นหมันแล้ว ทำไมเธอต้องกินยาคุมกำเนิดอีก? หรือบางทีจะไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นแน่
เข้าใจผิดแบบนี้จะไปกันใหญ่
แต่ถ้าพูดไป แรงกดดันของโห้หลีเฉินก็จะสูงมาก คงจะรู้สึกผิดมากเลย
เธออยากจะคำนึงถึงจิตใจของเขา แต่เขากลับอยู่ดีไม่ว่าดีมาพบยาคุมกำเนิดเข้าซะได้
สายตาของโห้หลีเฉินมองตรงไปยังเย้นหว่าน ดูการเปลี่ยนแปลงของการแสดงที่ซับซ้อนและยุ่งเหยิงบนใบหน้าของเธออย่างละเอียด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...