บทที่ 692 นั่งรถเข็น
" เธอไม่รู้เหรอ "
ฉู่ฉู่ถามกลับอย่างแปลกใจ แต่มีสีหน้าชั่วขณะหนึ่งที่แสดงถึงความภูมิใจ
เหมือนเธอจะรู้ว่าเย้นหว่านไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน แค่ไม่เท่าไหร่ก็รู้สึกเหนือกว่าเย้นหว่านไปอีกระดับหนึ่งเสียแล้ว
เย้นหว่านหายใจไม่ถ้วนนัก คิดอยากฟังถึงความจริง ทำได้แค่ไหลไปตามทางที่เธอพูด
" ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องเลย เธอบอกฉันเถอะนะ "
" ฮ่าฮ่าฮ่า ถึงโห้หลีเฉินจะดีกับเธอยังไง ผู้หญิงก็เป็นผู้หญิงอยู่วันยังค่ำ เรื่องที่ผู้ชายเขาทำกัน ยังไงก็บอกให้เธอรู้ไม่ได้หรอกนะ "
ฉู่ฉู่มองเย้นหว่านอย่างสะใจ และพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ถากถางว่า ที่ผ่านมาเธอกับพวกเราก็ไม่เห็นจะมีอะไรที่เหมือนกันด้วยซ้ำ "
เย้นหว่าน " ..... "
แต่ตามที่ฉู่ฉู่พูด ผู้หญิงที่นี่เป็นเหมือนกันหมดเลยเหรอ ส่วนเรื่องต่าง ๆ ของผู้ชาย ผู้หญิงไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้เลยจริง ๆ น่ะเหรอ
เย้นหว่านกดความรู้สึกไว้ในใจ " ใช่ ๆๆๆ ถ้าอย่างนั้นเธอบอกฉันหน่อยได้ไหม "
เธออยากรู้จริง ๆ ว่าโห้หลีเฉินจะทำอะไรกันแน่
ฉู่ฉู่เชิดคิ้วขึ้นด้วยสีหน้าภูมิใจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงว่า " ถ้างั้นฉันจะใจดีบอกให้แล้วกันนะว่าโห้หลีเฉินน่ะ... "
" เรียบร้อยหรือยัง "
จู่ๆ ม่านประตูก็ถูกใครบางคนเปิดออกจากด้านนอก คุณป้าหน้าดำคร่ำเครียดเดินตรงเข้ามา
ฉู่ฉู่ไม่ได้สนใจเย้นหว่านแต่อย่างใด เพราะมัวแต่หันไปทางคุณนายอย่างลุกลี้ลุกลนแล้วพูดว่า
" ค่ะแม่ อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้วค่ะ "
คุณป้าไม่ชอบที่พวกเธออืดอาดยืดยาด ที่ยืนคุยกับเย้นหว่านเมื่อกี้ก็กินเวลาไปไม่ใช่น้อยๆ
กลัวว่าจะทำให้เธอโดนตำหนิ
คิดได้ดังนั้น ฉู่ฉู่ก็ถลึงตาใส่เย้นหว่านอย่างไม่พอใจนัก
คุณป้าเดินมายืนขนาบข้าง ก่อนจะต่อว่า
" ก็แค่แผลเล็ก ๆ ทำ ๆ ไปเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว รีบ ๆ เข้าหน่อย จะถึงมื้ออาหารแล้วยังให้ผู้ชายต้องมาคอยพวกเธออีกเหรอ "
ฉู่ฉู่ได้ยินก็ก้มหัว มือที่ทำงานอยู่ก็เร่งความเร็วขึ้นกว่าเดิม และก็ทำแบบขอไปทีเท่านั้น
เย้นหว่านย่นคิ้วขึ้น เวลาแบบนี้ คำพูดพวกนั้นมันเป็นไปไม่ได้หรอก
ฉู่ฉู่เก็บอุปกรณ์ทำแผลเข้าที่เสร็จ ก็มองเย้นหว่านแล้วพูดว่า
" เธอเดินไหวรึเปล่า " ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็พูดแบบไม่ค่อยเต็มใจนักว่า " ฉันพยุงเธอได้นะ "
ข้อเท้าเย้นหว่านตอนนี้บวมและแดงมาก เวลาเดินก็จะเกิดอาการปวด
ปกติแล้ว เธอควรจะได้นอนรักษาตัวอยู่บนเตียงนี่ เท้าไม่ได้วางบนพื้นต่ำก็จะหายเร็วกว่านี้
แต่ตอนนี้ตัวเธอหิวมากแล้ว
ตั้งแต่ตื่นมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ในขณะที่หลับไป อย่างมากก็คงถูกป้อนด้วยอาหารเหลวเพียงเท่านั้น
บวกกับอยู่ทุ่งหิมะก่อนหน้านี้ ก็ไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน ในตอนนี้ เย้นหว่านรู้สึกอยากหาอะไรร้อน ๆ กินให้เร็วที่สุด
จัดแจงท่าทางสักพัก เย้นหว่านก็ลุกขึ้นจากเตียงทันที
"ฉันเดินไหว"
เธอทนความเจ็บปวด ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้า
เท้าที่เธอเอียงลงบนพื้นเมื่อกี้ ก็ยกขึ้นมาข้างหน้าทันที ถึงแม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ เพียงหนึ่งถึงสองวิ ก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บจนหายใจแทบไม่ทัน
เธอยืนด้วยขาข้างเดียว ในใจนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและทรมาน
หิวก็หิว เท้าก็ปวด
อีกอย่าง ที่แห่งนี้ เธอไม่จำเป็นต้องถามก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า เอาอาหารมาให้เธอกินที่ห้องนี้ได้หรือไม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...