บทที่72 ทำไมอึดอัดขนาดนั้น
โห้หลีเฉินมองหน้าฉินฉู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ ฉันรู้”
ฉินฉู่คิดได้ในทันที “ก็ใช่น้อ เธอกลับมาก็ต้องบอกนายเป็นคนแรกอยู่แล้ว”
เย้นเหวินหนานมองฉินฉู่ด้วยสีหน้ารังเกียจ “เพราะฉะนั้นนายมาทำไม?”
“นายก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?”
เหมือนตอนนี้ฉินฉู่ถึงเห็นเย้นเหวินหนาน น้ำเสียงเขาเรียบเฉยมาก“ฉันก็จะไปต้อนรับชิ่นกับหลีเฉินน่ะสิ ในเมื่อนายก็อยู่ด้วย งั้นก็พานายไปด้วยแล้วกัน”
เขาเป็นรองประธานของบริษัท ไปกับโห้หลีเฉินเป็นเรื่องปกติมาก ยังต้องให้ฉินฉู่วิ่งมาซะไกลแล้วแวะนำทางให้หรอ?
เย้นเหวินหนานหมั่นไส้และหันไปมองที่อื่น ไม่อยากจะเปลืองน้ำลายกับฉินฉู่
เย้นหว่านมองพวกเขาสามคน แล้วมองโห้หลีเฉินที่ได้วางงานในมือลงอีกครั้ง เขายืนขึ้นเหมือนเตรียมจะออกไปข้างนอก
เธอคิดแล้วคิด พูดว่า “ถ้างั้น คุณชายเย้น คะ เรื่องเปลี่ยนลุค รอให้คุณมีเวลาค่อยมาทำต่อก็ได้คะ ฉันไปก่อนนะคะ”
เย้นหว่านกำลังจะเดินออกไป ด้านหลังมีเสียงที่ทุ้มต่ำและเผด็จการของโห้หลีเฉินดังขึ้น
“คุณไปกับผมด้วย”
“พี่สะใภ้ก็ไปด้วย?”
ฉินฉู่ยิ่งตะลึงเลย มองหน้าโห้หลีเฉินด้วยสีหน้าแปลกๆ
หลังจากนั้น เขาเดินเข้าไปใกล้ๆโห้หลีเฉิน และพูดเสียงเบามาก
“ความสัมพันธ์ของนายกับชิ่นพาพี่สะใภ้ไปด้วยคงไม่ค่อยสะดวกมั้ง?”
“ไม่มีอะไรที่ไม่สะดวกหรอก”
โห้หลีเฉินมองหน้าฉินฉู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย แววตาที่เรียบง่าย ราวกับว่าคำถามที่เขาถามช่างปัญญาอ่อนจริงๆ
ฉินฉู่ “......”ด้วยความหวังดีแท้ๆ แต่กลับถูกมองว่าเป็นความหวังร้ายอีก
ถึงแม้เย้นหว่านไม่ได้ยินว่าฉินฉู่พูดอะไร แต่ปกติทุกครั้งที่ไปเที่ยวเล่นฉินฉู่มักอยากจะให้เธอไปด้วย แต่ครั้งนี้กลับเห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้เธอไปด้วย เกิดเรื่องผิดปกติ มันต้องมีเหตุผลบางอย่างแน่ๆ
แถมยังเป็นโห้หลีเฉินกับชิ่นคนนั้น
โห้หลีเฉินเดินมาที่ตรงหน้าของเย้นหว่าน มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า สุดท้ายสายตาหยุดอยู่ที่ขาที่ขาวนุ่มของเธอ
สวยมากๆ แต่ว่า.....
“เปลี่ยนลุคใหม่ แล้วเราค่อยออกไป”
เย้นเหวินหนาน “.....”เขาอยากจะลาออกจากงานจริงๆ
แต่เดิมเย้นเหวินหนานแค่รับผิดชอบเรื่องเปลี่ยนลุคให้กับเย้นหว่านเท่านั้น ตอนนี้กลับกลายเป็นดีไซเนอร์ส่วนตัวของเธอไปซะงั้น แม้แต่เรื่องออกงานเขาก็ต้องเป็นคนเหมาหมด
เขาอยากร้องไห้จริงๆ ครั้งนี้เลือกชุดที่มิดชิดหน่อยให้กับเย้นหว่านด้วยความระมัดระวัง
กระโปรงยาวสีขาวประดับด้วยเพชร เรียบง่ายแต่สง่างาม ที่ไหล่คลุมด้วยผ้าสีขาวโปร่ง ที่สำคัญที่สุดคือ ช่วงบนตั้งแต่ไหล่จนถึงช่วงต้นขาถูกปิดอย่างมิดชิด
คราวนี้โห้หลีเฉินถึงรู้สึกพอใจเสียที มองหน้าเย้นหว่านแล้วพูดว่า “คุณเหมาะกับกระโปรงยาวจริงๆ”
เย้นหว่าน “.....”จริงหรือ? แต่เธอกลับรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อ
เย้นเหวินหนาน “....”ไม่อยากจะแขวะจริงๆ
งานต้อนรับจัดที่บ้านของชิ่นตำแหน่งอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ข้างๆคฤหาสน์ตระกูลฉิน
การตกแต่งของคฤหาสน์ทั้งหมด คล้ายๆกับคฤหาสน์เก่าตระกูลฉิน ถึงแม้จะสร้างเป็นอาคารปราสาท ก็เป็นสไตล์เดียวกับคฤหาสน์ตระกูลฉิน
ว่ากันว่า เป็นเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ตอนนั้นบ้านทั้งสองหลังได้สร้างพร้อมๆกัน
บอกได้ว่าเป็นมิตรไมตรีกันตั้งแต่บรรพบุรุษ
เย้นหว่านกับโห้หลีเฉิน ฉินฉู่ เย้นเหวินหนาน ทั้งสี่คนเหยียบบนพรมแดง และเดินเข้าไปจากหน้าประตู
ห้องโถงเป็นที่รับแขกหลัก นาทีนี้ก็มีคนไม่น้อยแล้ว คึกคักจริงๆ
พวกเขาเพิ่งเดินเข้ามาในประตู วินาทีนี้ ก็มีคนใส่เสื้อสีแดงเดินออกมาจากข้างๆอย่างกระทันหัน กางแขนและพุ่งเข้าไปที่อ้อมกอดของโห้หลีเฉิน
“เฉิน ในที่สุดเราก็ได้เจอกันอีกแล้ว”
เย้นหว่านยืนอยู่ข้างๆของโห้หลีเฉิน เธอมองดูผู้หญิงกอดโห้หลีเฉินไว้อย่างใกล้ๆ
เธอรู้สึกค่อนข้างอึ้ง นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นโห้หลีเฉินใกล้ชิดกับผู้หญิงขนาดนี้ โดยปกติแล้ว ข้างกายเขาไม่มีผู้หญิงเลยแม้แต่คนเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...