สกัดตัวเซอร์ยุนซีออกไปได้แล้ว และดึงตัวโห้หลีเฉินออกมาจากตรงหน้าซาอินติ เย้นหว่านรู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
คิดอยู่ว่า ในบ้านแม้เธอจะขวางไว้ได้ แต่ตอนที่โห้หลีเฉินเข้าวัง องค์หญิงคนนี้ก็จะหาวิธีโน้มตัวเข้าไป เธอก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี?
ถ้าเธอคิดอะไรได้ก็คงจะดี
แต่ทว่า เย้นหว่านยังคิดวิธียิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวไม่ได้เลย พอเดินมาถึงห้องอาหาร ในตอนที่เห็นสองคนนั่งอยู่ตรงนั้น ก็ไม่มีอารมณ์กินอาหารอีก
ช่วยบอกเธอหน่อย ทำไมซาอินติกับเซอร์ยุนซีจะอยู่ในห้องอาหาร?
เธอขนหัวลุกไปหมด แทบจะกลับหลังหันไปซะเดี๋ยวนั้น
“หลีเฉิน เสี่ยวหว่าน พวกเธอมาแล้วเหรอ!”
ซาอินติรีบลุกขึ้นจากที่นั่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เซอร์ยุนซีก็ลุกขึ้นตาม เดินก้าวยาวเข้าไปหาเย้นหว่าน น้ำเสียงอ่อนโยนอย่างมาก
“เสี่ยวหว่าน คุณเวนเดลล์เชิญพวกเรามาทานข้าว ฉันดีใจมากจริงๆนะ เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมทานอาหารกับพวกเธอเลย”
เวนเดลล์ขมับกระตุกอย่างแรง
เขาเชิญพวกเขามาทานข้าวงั้นเหรอ? โดยเฉพาะเซอร์ยุนซี ตั้งใจมาอยู่กินข้าวไหม
เวนเดลล์พูดไม่ออกกันเลยทีเดียว ถูกบีบไว้ตรงกลางเหมือนกับขนมสอดไส้
สายตาเขามองเย้นหว่านกับโห้หลีเฉิน พูดด้วยเสียงอ่อนว่า
“องค์หญิงกับท่านดยุกนานๆทีจะมาครั้งหนึ่ง แล้วถึงเวลาอาหารเที่ยงพอดี ก็มากินด้วยกันเลย คุณโห้ คุณหนูเย้น มาทานอาหารด้วยกันเถอะ พวกคุณไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ?”
เวนเดลล์ที่ปากบอกว่าไม่ว่าอะไร แต่กลับกะพริบตาให้กับโห้หลีเฉินอย่างบ้าคลั่ง
ในช่วงเวลาสำคัญนี้ ต้องร่วมมือกับเขานะ
โห้หลีเฉินไม่คิดว่า เวนเดลล์จะจัดการให้สองคนนี้มากินข้าวด้วยกัน
เขารับรู้ได้ถึงอาการที่ไม่พอใจและไม่สบายใจของเย้นหว่าน
ขมวดคิ้วเป็นปม
เย้นหว่านไม่อยากอยู่ในห้องเดียวกับเซอร์ยุนซี ไม่อยากฟังคำพูดจีบของเขา และไม่อยากร่วมโต๊ะกับซาอินติด้วย ให้ซาอินติอ่อยโห้หลีเฉิน
แต่มองดูเวนเดลล์ที่ลำบากใจ ข้อดีข้อเสีย กลับเด่นชัดในใจเธอ
ในพื้นที่ประเทศเบียนหนาน ก่อนที่ยังไม่ได้ยา เธอกับโห้หลีเฉินต้องอดทนให้ได้ แผนการถึงจะสำเร็จ
สูดหายใจเข้าลึกๆ เย้นหว่านจีบมือโห้หลีเฉิน พูดเสียงเบาว่า
“ฉันไม่เป็นไร ทานข้าวด้วยกันเถอะ”
เธอรู้ว่าถ้าเธอไม่ยอมอดทน โห้หลีเฉินจะพาเธอออกไปทันที
โห้หลีเฉินสายตาหนักอึ้ง อารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก
ท่าทางที่เย้นหว่านคิดถึงคนอื่นก่อนแบบนี้ ทำให้เขาปวดใจจริงๆ
เงียบอยู่หลายวิ โห้หลีเฉินถึงจับมือเย้นหว่านไว้ และใช้แรงบีบเล็กน้อย
“ถ้าไม่อยากกิน กินเล็กน้อยก็ไปได้แล้วล่ะ เดี๋ยวดึกๆฉันเอาของไปให้กิน”
ความหมายก็คือ ทานข้าวร่วมโต๊ะเป็นการมารยาทเท่านั้น
เย้นหว่านอดทนไว้ เพราะคำพูดนี้ ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นมามาก
โห้หลีเฉินยังคงเป็นโห้หลีเฉินคนเดิม คิดเพื่อเธออยู่เสมอ
เย้นหว่านพยักหน้า “มีนายอยู่ด้วย แค่มองนายฉันก็อยากกินข้าวแล้วล่ะ”
คนอื่นก็ไม่ต้องสนใจ
ทั้งสองพูดคุยกันเงียบๆเสร็จแล้ว ภายใต้สายตาคาดหวังของซาอินติ และเซอร์ยุนซี ถึงเดินไปนั่งตรงหน้าพวกเขา
ซาอินตินั่งอยู่ตรงหน้าเย้นหว่านพอดี มองดูเย้นหว่านก็นั่งอยู่ด้วย ก็ต้องตะลึง
พูดอย่างสงสัยว่า “เธอ……ทำไมมากินข้าวที่นี่ล่ะ?”
ทั้งประเทศเบียนหนาน นอกจากเธอกับราชินีแล้ว ไม่มีหญิงคนไหนร่วมโต๊ะทานอาหารได้หรอกนะ
อีกอย่าง ตอนนี้ข้างห้องอาหารก็ปูพรมไว้ตามปกติ มีอาหารสามสี่อย่างวางไว้ ให้พวกผู้หญิงกิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...