เย้นโม่หลินชะงักไปเล็กน้อย
จู่ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ว่า ถ้าเขาไปก็จะต้องเจอกับกู้จื่อเฟย
คนที่เดิมทีคิดว่าชาตินี้จะไม่เจอกันอีกต่อไปแล้ว.....
ในใจเกิดความรู้สึกที่แปลกประหลาดขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้ แยกไม่ถูกว่าเป็นความกังวลหรือร้อนรุ่ม
ลำคอของเขาตีบตัน ก่อนเอ่ยอย่างแข็งทื่อ
“เรื่องมันเกี่ยวพันถึงชั่วสุขชั่วชีวิตของเสี่ยวหว่าน ฉันก็ต้องมาจัดการด้วยตัวเองอยู่แล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฝั่งปลายของสายก็เงียบไป
ในสายโทรศัพท์ตกอยู่ในความเงียบสงัดอย่างแปลกประหลาด
เย้นหว่านมองพี่ชายของตัวเอง นึกถึงความสัมพันธ์ที่มีบุญและไร้วาสนาระหว่างเขากับกู้จื่อเฟย ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้กู้จื่อเฟยเจ็บปวดเสียใจแค่ไหน เธอก็ได้เห็นมากับตาแล้ว สุดท้ายกู้จื่อเฟยตัดใจยอมแพ้อย่างยากลำบากเท่าไหร่ เธอเองก็รู้
ตอนนี้กู้จื่อเฟยกลับเมืองหนานแล้ว แยกจากไม่พบเจอกับเย้นโม่หลิน เวลาสามเดือนอาจจะเพิ่งเดินออกจากความโศกเศร้าของการอกหักมาได้นิดหน่อย
ตอนนี้ถ้าเย้นโม่หลินจะไปอีก เกรงว่ากู้จื่อเฟยคงไม่รู้ควรจะเผชิญหน้ากับเขายังไง
ไม่อยากให้กู้จื่อเฟยเจอเย้นโม่หลินแล้วรู้สึกแย่อีก เย้นหว่านลังเลเล็กน้อยก่อนพูดขึ้น
“พี่ ในเมื่อคนคนนั้นอยู่ที่เมืองหนาน และก็เป็นเขตอิทธิพลของโห้หลีเฉิน พวกเราคุ้นเคยกับที่ทางที่นั่น งั้นฉันไปกับโห้หลีเฉินก็พอแล้ว”
“ไม่ได้”
เย้นโม่หลินแน่วแน่ “ที่เบียนหนานก็เพราะฉันไม่อยู่เธอถึงได้ไม่ได้รับความเป็นธรรมและการบาดเจ็บพวกนั้น ครั้งนี้ยังไงฉันก็ไม่ให้เธอไปเสี่ยงอยู่ลำพังหรอก”
เย้นหว่านพูดไม่ออกขึ้นมาทันที พูดมาแบบนี้เธอก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง
ในขณะที่เธอกำลังสับสน เย้นโม่หลินก็ตัดสินใจไปแล้ว
“ก็ตามที่ตกลงกันแบบนี้แหละ กู้จื่อเฟย คืนพรุ่งนี้พวกเราจะไปหาเธอที่นั่น”
ขมับของเย้นหว่านเต้นตุบๆ เธอไม่คิดมาก่อนว่าจะยังเกิดสถานการณ์ฉุกละหุกแบบนี้ขึ้นได้
หลังจากปลายสายเงียบไปสามวินาที ถึงส่งเสียงอันแสนแผ่วเบาของกู้จื่อเฟยออกมา
“ถ้าเป็นคืนพรุ่งนี้ ฉันคงจะไม่สามารถไปรับพวกคุณที่สนามบินได้ คืนพรุ่งนี้เป็นงานวันเกิดของคุณพ่อฉัน ฉันตกลงจะเป็นคู่ควงให้คนคนนั้นแล้ว”
รังสีรอบตัวของเย้นโม่หลินพลันเยือกแข็งในทันที
แววตาของเขาจ้องเขม็งไปที่โทรศัพท์ เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม “เธอยังไปตกลงอะไรกับเขาอีกไหม?”
กู้จื่อเฟยลังเลเล็กน้อยก่อนพูดเสียงเบา
“เสร็จจากงานเลี้ยง ก็ไปเดินเล่นกับเขา”
หยุดไปครู่หนึ่ง เธอก็พูดเสริมขึ้น “หลังจากพวกคุณมาแล้ว ไม่ต้องมาที่บ้านของฉันก่อนก็ได้ รอข่าวจากฉันก็พอ เดิมทีแล้วพรุ่งนี้ฉันวางแผนว่าจะรวบรวมข้อมูลจากเขาสักหน่อย....”
“ไม่จำเป็น”
เย้นโม่หลินเอ่ยอย่างเย็นชา “ก่อนเราจะไป เธออย่าทำอะไรทั้งนั้น”
“แต่ว่า......”
“ฉันจะไปถึงก่อนงานเลี้ยง”
เย้นโม่หลินเอ่ยค้านอย่างไม่ยินยอม พูดจบก็ยื่นมือไปตัดสายทันที
เย้นหว่านถือโทรศัพท์มือถืออยู่ มองพี่ชายของตัวเองที่โกรธควันออกหูด้วยสีหน้างงงวย
ทำไมเขาถึงโมโหขนาดนั้น?
โกรธอะไรกัน?
ยังไม่ทันรอให้เธอเข้าใจ ก็พบว่าเย้นโม่หลินออกคำสั่งกับบอดี้การ์ดที่กำลังกินข้าวอยู่อย่างหน้าดำคร่ำเครียด
“สามนาที เก็บกวาดขึ้นรถให้เรียบร้อย ออกเดินทาง”
กลุ่มบอดี้การ์ดตะลึงงัน แล้วมองไปที่อาหารที่เพิ่งจะเริ่มกินของตัวเอง แล้วเก็บไปด้วยใบหน้าหมดหวัง
เพราะเรื่องที่อยู่ในใจตกไป เมื่อขึ้นรถ เย้นหว่านก็กลับเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมา
ด้วยเมื่อครู่เธอเป็นคนพูดว่าไม่กินเอง จึงเกรงใจที่จะพูดออกมา
ขณะกำลังคิดจะนอนไปด้วยความหิวสักงีบ ในตอนนั้นเอง เค้กชิ้นเล็กกลับยื่นมาตรงหน้าเธอ
ใบหน้าของโห้หลีเฉินแต้มรอยยิ้มอบอุ่น “เพิ่งทำออกมา กินเถอะ”
แม้ว่าจะกำลังเร่งรีบ แต่รถคันนี้แทบติดตั้งอุปกรณ์สำหรับดำเนินชีวิตไว้ครบถ้วน เตรียมส่วนผสมเอาไว้ทั้งหมด การทำเค้กสักก้อนเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก
เย้นหว่านมองเค้กก้อนเล็กตรงหน้า ก่อนรับมาทันทีอย่างดีอกดีใจ
“ที่รัก นายดีจริงๆ เลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...