กู้หรงพูดเสียงดัง “ทุกคนต่างก็สามารถเลือกทำงานได้หลากหลาย แต่เธอกลับเลือกอาชีพหมอ ก็พิสูจน์แล้วว่าให้ใจของเธอ ในกระดูกของเธอนั้นเป็นคนโอบอ้อมอารีและชอบช่วยเหลือผู้คน”
ในชีวิตของฉันน่ะชื่นชมเด็กหนุ่มที่มีหัวคิดอย่างเธอที่สุดเลยล่ะ ไม่เลวเลยจริงๆ เยี่ยมมากๆ”
กู้หรงพูดไปพยักหน้าไป ยิ่งมองก็ยิ่งพึงพอใจ
สายตานั้น เต็มไปด้วยความรู้สึกของการเลือกได้ถูกคน มองจนป่ายฉีรู้สึกขนลุกขึ้นมาอย่างบอก
เขาเหลือมองแล้วรีบเงียบปาก ไม่พูดอะไรอีก
สัญชาตญาณบอกกับเขา คุณพ่อแปลกๆ คนนี้ เหมือนจะไม่ค่อยเป็นปกติเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ระวังอาจจะตกหลุมพรางได้
กู้จื่อเฟยมองพ่อของตัวเองอย่างแปลกประหลาดใจ เมื่อก่อนไม่เห็นจะสนใจในอาชีพของคนอื่นขนาดนี้ และก็ไม่ได้ประเมินแพทย์สูงขนาดนั้นด้วย กระทั่งเคยค่อนแคะเรื่องอุบัติเหตุทางการแพทย์ด้วยซ้ำ
วันนี้เป็นอะไรไป กินยาผิดรึยังไง?
“จื่อเฟย”
ขณะกำลังครุ่นคิด กู้หรงก็เรียกกู้จื่อเฟยอย่างใจดีอีกครั้ง ถึงกับเอื้อมมือไปกุมมือของกู้จื่อเฟยเอาไว้
ความอบอุ่นที่มือใหญ่ส่งผ่านมานั้น กลับทำให้กู้จื่อเฟยตัวแข็งทื่อขึ้นมา
มองไปยังกู้หรงอย่างระแวดระวังเหมือนกับเห็นผีอย่างนั้น
ผู้เฒ่าคนนี้ วันนี้เป็นอะไรไปน่ะ?
กู้หรงยิ้มอย่างอ่อนโยน สายตามองไปมาระหว่างกู้จื่อเฟยกับป่ายฉีแล้วเอ่ยอย่างสนิทสนม
“จื่อเฟย ลูกบอกพ่อมาตามจริงเถอะ ลูกกับพวกเขามีความสัมพันธ์อะไรกันงั้นเหรอ?”
ความสัมพันธ์อะไร?
ทันใดนั้นในใจของกู้จื่อเฟยก็มีเสียงชะงักกึกขึ้นมา
สายตาของเธอมองไปทางเย้นโม่หลินอย่างไม่รู้ตัว ในใจค่อนข้างสับสนและว้าวุ่น
คำถามนี้ของกู้หรงไม่ได้หมายความตามเนื้อผ้า หรือว่า เขาจะรู้เรื่องพวกนั้นระหว่างเธอกับเย้นโม่หลินแล้วงั้นเหรอ?
แต่ว่า เธอก็แค่คิดไปเองฝ่ายเดียวทั้งนั้น มันถูกตัดขาดไปหมดแล้ว ไม่มีทางบอกได้ว่าเป็นความสัมพันธ์อะไรอีกแล้ว
หรือว่า คุณพ่อจะไม่ได้รู้บทสรุปแล้วเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเย้นโม่หลิน
กู้จื่อเฟยใจเต้นระส่ำอย่างไม่สบายใจ เธอเอ่ยอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
“แน่ แน่นอนว่าเป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อนไงคะ หนูกับพวกเขาต่างก็เป็นเพื่อนกันทั้งนั้นค่ะ”
“แค่เพื่อนกันเท่านั้นเหรอ?”
น้ำเสียงของกู้หรงมีความสงสัยอย่างชัดเจน ถึงกับเปรยให้เธอสารภาพออกมาด้วย
การเต้นของหัวใจของกู้จื่อเฟยยิ่งวุ่นวายขึ้นไปอีก
พ่อของเธอรู้อะไรเข้าแล้วงั้นเหรอ? ต้องรู้อะไรแล้วแน่ๆ
แต่เขาถามจี้จุดออกแบบนี้แท้จริงคิดจะทำอะไรนอกจากจะทำให้เธอสุดทนก็เท่านั้น
กู้จื่อเฟยกุมมือของกู้หรงกลับ มองไปยังเขาด้วยแววตาวิงวอนก่อนเอ่ยเสียงเบา
“คุณพ่อ หนูกับพวกเขาเป็นแค่เพื่อนกันธรรมดาจริงๆ พ่อไม่ต้องถามอะไรอีกแล้วนะคะ? พ่อเชื่อหนูนะ”
เมื่อเห็นกู้จื่อเฟยเป็นเช่นนั้น กู้หรงก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
มาถึงจุดนี้แล้ว พากลับมาบ้านก็แล้ว กู้จื่อเฟยยังไม่คิดจะพูดอีกงั้นเหรอ?
ยังจะยืดเวลาออกไปถึงเมื่อไหร่กัน?
กู้หรงเพียงแค่เป็นกังวลเรื่องการแต่งงานของเธอเท่านั้น
สุดท้ายก็ไม่สามารถปฏิเสธคำขอร้องของลูกสาวได้ กู้หรงพยักหน้าก่อนหันไปมองทางป่ายฉี
เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ป่ายฉี เธอคือคู่ควงออกงานในคืนนี้ของเฟยเฟยใช่ไหม?”
ทุกคนในที่นั้นต่างเกินความคาดหมายอย่างมาก
ส่วนป่ายฉีเองนั้นก็มึนงงยิ่งกว่าเดิม คุณอากู้คิดได้ยังไงกันแน่ เขาดูเหมือนจะเข้ากับออร่าของกู้จื่อเฟยแล้วเป็นคู่ควงกันได้ตรงไหนกัน?
ขณะเดียวกับที่กำลังแขวะอยู่ในใจ เธอก็ยังรับรู้อย่างฉับไวได้ถึงลมหายใจเย็นยะเยือกอันอันตราย
ป่ายฉีร่างแข็งเกร็งขึ้นมาทันใด เขารีบเอ่ย
“คุณอากู้ ผมไม่ใช่คู่ควงในคืนนี้ของกู้จื่อเฟยหรอกครับ คนที่จะมาเป็นคู่ของเธอคือคุณชายเย้นครับ”
“คุณชายเย้น?”
สายตาของกู้หรงมองไปยังเย้นโม่หลิน รู้สึกเหลือเชื่ออย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...