โห้หลีเฉินพูดอย่างไม่พอใจ “จะถ่ายก็ถ่ายผม อย่าถ่ายผู้ชายแบบนั้นทำไม”
เย้นหว่านมองหน้าโห้หลีเฉิน ด้วยความตะลึง
แต่ว่า ก็น่ารักดี
เย้นหว่านเปิดโหมดถ่ายภาพขึ้นอีก จากนั้นก็หันไปทางหน้าของโห้หลีเฉิน
พูดอย่างยิ้มแย้ม “มา คุณโห้มองกล้องหน่อย ให้ฉันถ่ายท่าทางขี้หึงของคุณหน่อย กลับไปแล้วล้างออกมาเพื่อความทรงจำหน่อย”
โห้หลีเฉินสีหน้าหวั่นไหวเล็กน้อย
จากนั้นก็ยื่นมือปรับเป็นกล้องหน้า แล้วดึงร่างของเย้นหว่านมายืนหน้าตัวเอง มองกล้องพร้อมกัน
พูดอย่างแผ่วเบา “ถ่ายเลย”
นี่เป็นภาพขี้หึง หรือว่าภาพคู่กันแน่?
เย้นหว่านมองดูผู้ชายอันหล่อเหลาในจอจนแทบจะลืมตาไม่ได้ ทนไม่ได้ที่จะกดปุ่มถ่ายภาพ
เวลาเดียวกัน โห้หลีเฉินก้มหน้าลงกะทันหัน ริมฝีปากบางก็ทับลงที่ปากของเย้นหว่าน
กล้องจับภาพได้บันทึกไว้พอดี
เย้นหว่านแก้มแดงขึ้นทันที ยืนอึ้งอยู่กับที่
เหมือนดั่งเวลาหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น
เย้นโม่หลินและกู้จื่อเฟยที่ยืนอยู่ด้านข้าง “......”
เดินห่างออกไปพร้อมกันนิดหน่อยอย่างใจตรงกัน รักษาระยะห่างจากพวกเขา
เกินไปจริงๆ ตอนนี้กำลังทำเรื่องสำคัญอยู่ อีกอย่างยังมีคนดูอยู่ ก็จูบกันแสดงความรักใคร่แบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเลยเหรอ?
รังเกียจ
ดูหมิ่น
เย้นโม่หลินสีหน้าไม่ดีเลย ขยับตัวออกห่างไปอีกนิด
ขยับครั้งนี้ กลับไปชนคนอย่างไม่ได้ตั้งใจ
กู้จื่อเฟยและเขาหันหน้าอย่างกะทันหัน ถึงปรากฏอย่างน่าตกใจ พวกเขาอยู่ดีๆก็เดินมาใกล้กันขนาดนี้ ไหล่ชนไหล่
กู้จื่อเฟยตกใจ รีบถอยหลังออกโดยสัญชาตญาณ “ขอโทษ ฉันไม่ได้.......”
“อย่าขยับ”
เย้นโม้หลินรีบไวจับตัวกู้จื่อเฟยไว้ ดึงตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง และเอามือปิดปากของเธอไว้
ด้านหลังของเธอก็คือต้นไม้ หากถอยหลังไปก็จะทำให้ต้นไม่สั่นไหวได้ ทำให้คนข้างนอกเห็นพวกเขาได้
ตอนนี้พวกเขาจะเปิดเผยตัวไม่ได้
และแล้ว ปฏิกิริยาอันรีบร้อนนี้ กลับมีผลลัพธ์อันใหญ่หลวง
วินาทีนี้ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน หญิงสาวอันอ่อนโยนในอ้อมกอดเขา และกลิ่นหอมอันน่าดมนั้น เหมือนดั่งแอลกอฮอล์ดีกรีสูง ซึมเข้าไปในทุกอนุร่างกายของเขา
ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวาย ใจเต้นเร็วอย่างควบคุมไม่ได้
กู้จื่อเฟยอึ้งไปทั้งร่าง เบิกตากว้าง ปากที่ถูกปิดไว้ออกเสียงอะไรไม่ได้เลย
และระหว่างความสัมผัสนั้น เต็มไปด้วยกลิ่นอายของผู้ชายคนนี้
เธอกลับอยู่ในอ้อมกอดของเขา
ถึงแม้จะเป็นการปิดปากเธอไว้เพราะสถานการณ์รีบร้อน แต่ว่า ก็พอที่จะทำให้หัวใจคนเต้นอย่างรวดเร็วได้
ทั้งสองเหมือนตะลึงค้างอยู่กับที่ เหมือนดั่งภาพนิ่ง ไม่มีการตอบสนองอะไรอีกเลย
เย้นหว่านเก็บมือถือด้วยอาการหน้าแดง ก็เลยเห็นภาพนี้เข้าพอดี
ทันใดนั้นตาก็เบิกกว้าง
เธอดูไม่ผิดใช่ไหม พี่ชายของเธอกอดกู้จื่อเฟยอยู่
ตอนนี้ให้พูดอีกว่าเย้นโม่หลินไม่รู้สึกอะไรกับ เธอก็ไม่เชื่อแล้ว
ทั้งๆที่มีใจให้กันและกันชัดๆ ต้องคบกันตรงนี้เลย
ดังนั้น ไม่รอเธอคิดมากไปกว่านั้น กู้จื่อเฟยก็เหมือนว่าจะตอบสนองทัน ดึงมือของเย้นโม่หลินออกด้วยความรู้สึกอึดอัด
“คุณ......ปล่อย.......”
เสียงของเธอเบามาก ตั้งใจกดเสียงเบาลง จนฟังไม่ค่อยชัด
แต่ก็พอที่จะเรียกสติของใครบางคนกลับมา
เย้นโม่หลินรีบปล่อยมือออก และรีบผลักกู้จื่อเฟยออก ถอยหลังออกไปสองก้าว รักษาระยะห่างที่พอดี
บนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา เต็มไปด้วยความทำตัวไม่ถูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...