เย้นหว่านมองไปที่โห้หลีเฉินอย่างมึนงง และตระหนักถึงอะไรบางอย่างได้ เธอถาม
"นายคาดการณ์ไว้อยู่แล้วใช่ไหมว่าฝู้เหวยข่ายจะมา?"
ความสงบนิ่งของเขา คิดดูแล้วก็เพราะเขามีแผนอยู่ในใจนั่นเอง
โห้หลีเฉินยกยิ้มแล้วพยักหน้า "อืม"
เป็นอย่างที่คิด
ถ้าอย่างนั้น โห้หลีเฉินก็ต้องคิดวิธีตอบโต้ไว้แล้วแน่ ดังนั้นต่อให้ฝู้เหวยข่ายจะมาสักกี่สิบคนมันก็คงไร้ประโยชน์
หัวใจที่ห้อยต่องแต่งของเย้นหว่านก็กลับเข้าที่
เธอยกชามที่โห้หลีเฉินส่งให้และกำลังจะดื่มซุปกลืนอาหารที่สำลักเข้าไป
ทว่าสีหน้าของเว่ยชีนั้นกลับไม่ดีเลยแม้แต่น้อย
เขาลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนพูดอย่างเป็นกังวล
"คุณหนูกู้ไม่รู้ว่าทำไมถึงไปปรากฏตัวที่ประตูโรงแรมและบังเอิญชนเข้ากับฝู้เหวยข่าย ตอนนี้ถูกฝู้เหวยข่ายจับตัวไว้แล้ว"
น้ำที่เย้นหว่านเพิ่งจะดื่มเข้าไป พุ่งออกมาในคำเดียว
เธอยืนขึ้นอย่างตื่นตระหนกโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ เธอถาม
"ตอนนี้กู้จื่อเฟยเป็นยังไงบ้าง? ได้รับบาดเจ็บไหม? ฝู้เหวยข่ายได้ทำอะไรกับเธอรึเปล่า?"
สีหน้าของเว่ยชีค่อนข้างเคร่งขรึม เขาเอ่ยเสียงขรึม
"บนหน้าของคุณหนูกู้ มีแผลเป็นรอยนิ้วครับ"
"ไอ้ห่ารากฝู้เหวยข่าย!"
เย้นหว่านระเบิดในพริบตา คาดไม่ถึงว่าฝู้เหวยข่ายจะกล้าทำร้ายกู้จื่อเฟย
เธอพูดอย่างตื่นตัว "ไปกันเถอะ ฉันจะฆ่าเขา!"
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วลุกตามขึ้นมา
เขาคิดไว้แล้วว่าฝู้เหวยข่ายจะมา แต่กู้จื่อเฟยถูกจับไปกะทันหันแบบนี้ เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายจริงๆ
เขาถามเสียงเข้ม "กู้จื่อเฟยไม่ได้อยู่กับเย้นโม่หลินหรอกเหรอ? ทำไมถึงไปปรากฏตัวที่ประตูโรงแรมกัน"
เว่ยชีก็มีสีหน้างงงวยเช่นกัน "ผมเองก็ไม่ทราบ ตอนที่มาผมก็ตรวจตราดูแล้ว ตอนนี้คุณชายเย้นก็อยู่หน้าห้องของกู้จื่อเฟย เหมือนกำลังรอหล่อนอยู่"
เกรงว่าตอนนี้เย้นโม่หลินจะยังไม่รู้ว่ากู้จื่อเฟยหายไปแล้ว
แล้วยังเกิดเรื่องขึ้นด้วย
ให้ตายเถอะ
โห้หลีเฉินเดินตามเย้นหว่านไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แล้วออกคำสั่งกับเว่ยชี
"ไปแจ้งเย้นโม่หลิน"
เรื่องเกี่ยวกับกู้จื่อเฟย เขายิ่งใส่ใจ
ในเวลาเดียวกัน เย้นโม่หลินยังคงยืนอยู่ที่ทางเดินข้างประตู เอนหลังพิงกำแพง
เขากำลังรอกู้จื่อเฟยอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เธอเข้าไปนานมากแล้ว แต่น่าแปลกที่เขาไม่ได้ใจร้อนเลยแม้แต่น้อย
เขารออยู่อย่างนั้นด้วยความสงบ
รอให้เธอจัดการทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ค่อยออกมาพูดคุยกับเขาเรื่องเมื่อคืนกันอย่างช้าๆ
ป่ายฉีเดินเข้ามาก็ได้เห็นฉากนั้น
ชายผู้หนึ่งพิงอยู่กับกำแพงด้วยสีหน้าสงบสุข
สีหน้าที่สงบเยือกเย็นนี้ เขาที่อยู่กับเย้นโม่หลินมายี่สิบกว่าปียังไม่เคยได้เห็นเลยสักครั้ง
เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ความรักนั้นช่างเหลือเชื่อจริงๆ แม้แต่ผู้ชายที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดนั้นก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดาย
ละลายน้ำแข็งชิ้นหนึ่งลง
เพียงแต่การเปลี่ยนแปลงในเวลาเดียวกันนั้น ยังมีใครบางคนที่ไอคิวปรอทแตกอีกด้วย
กู้จื่อเฟยเข้าไปนานขนาดนี้แล้วยังไม่ออกมา หรือเขาจะไม่รู้สึกว่ามีตรงไหนผิดปกติเลยงั้นเหรอ?
ไม่ได้สังเกตเลยสักนิดว่าผู้หญิงคนนั้นได้ปีนหน้าต่างหนีไปแล้วงั้นเหรอ?
ตอนนี้ก็ถูกฝู้เหวยข่ายจับไปแล้ว กลายเป็นตัวประกันของชาวบ้านแล้วนะ?
ป่ายฉีเริ่มจะเชื่อคำกล่าวที่ว่า คนที่อยู่ในความรัก ไม่ว่าชายหรือหญิง ไอคิวก็กลายเป็นติดลบไปหมด
เย้นโม่หลินช่างเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนจริงๆ
ถ้าเขาเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่มีสมองแล้วจากนี้จะทำยังไงเล่า?
ป่ายฉีกังวลกับความก้าวหน้าในอนาคตของตัวเองอยู่ลึกๆ กำลังคิดพิจารณาว่าต้องเปลี่ยนพี่ใหญ่หรือไม่
"พี่ใหญ่ ไม่ต้องรอแล้ว...."
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...