กู้จื่อเฟยหูดับโดยสิ้นเชิง เธอวิ่งเร็วอย่างกับสายลม
เย้นหว่านแค่จะหายใจก็ไม่ทันแล้ว
ในตอนนั้นเองก็มีมือใหญ่เอื้อมมาจากด้านหลังแล้วจับไหล่ของเธอเอาไว้ ทำให้การวิ่งไปข้างหน้าของเธอถูกบังคับให้หยุดลง
เพียงวินาทีเดียว ก็ห่างไกลจากกู้จื่อเฟยไปอีกครั้ง
เย้นหว่านหันกลับมาอย่างร้อนใจแล้วพูดกับโห้หลีเฉิน
"ฉันต้องรีบตามจื่อเฟยไป ชักช้าไม่ได้"
สถานการณ์หมิ่นเหม่ขนาดนี้ เธอเป็นห่วงว่ากู้จื่อเฟยจะไปเห็นภาพที่ไม่อาจรับได้เข้าแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเธออีก
โห้หลีเฉินพูดอย่างสบายๆ "วางใจเถอะ ไม่เป็นไรหรอก"
น้ำเสียงอันมั่นคงของเขาทำให้หัวใจที่ห้อยไปมาของเย้นหว่านพลันสงบลงไม่น้อย
โห้หลีเฉินบอกว่าไม่เป็นไร ก็คงไม่เป็นไร
แต่เย้นหว่านก็ยังวางใจไม่ลง "ยังไงฉันก็ต้องไปดูกู้จื่อเฟย"
"เธอไม่ต้องวิ่งแล้ว เดี๋ยวจะเหนื่อยเกิน"
โห้หลีเฉินมองสภาพหอบแฮ่กๆ ของเย้นหว่านอย่างไม่พอใจ ปกติก็ออกกำลังกายน้อยอยู่แล้ว จู่ๆ ก็วิ่งเร็วแบบนี้เดี๋ยวร่างกายจะได้ไม่ไหวเอา
เย้นหว่านกระวนกระวาย "แต่ว่าฉัน...."
เธอยังไม่ทันได้เอ่ยโต้แย้ง ทันใดนั้นร่างกายก็เบาหวิว เธอถูกโห้หลีเฉินอุ้มขึ้นมาด้วยท่าเจ้าหญิง
เย้นหว่านกอดคอเขาไว้โดยไม่รู้ตัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง "โห้หลีเฉิน นายทำอะไรน่ะ?"
"พาเธอไปไง"
ขายาวของโห้หลีเฉินก้าวเดินไปทางที่กู้จื่อเฟยวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
เขาใช้เพียงการเดิน แต่ความเร็วนั้นกลับเร็วกว่าเย้นหว่านวิ่งเสียอีก
เย้นหว่านมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย ในใจทั้งผ่อนคลายทั้งเบิกบานใจ แบบนี้ค่อยมีเวลาให้หายใจหน่อย
กู้จื่อเฟยพุ่งมาถึงห้องหนังสือของกู้หรงด้วยความเร็วที่สุดในชีวิต
เธอยืนอยู่ที่ประตูของห้องหนังสือแล้วมองประตูที่ปิดสนิท แต่กลับไม่ได้เปิดเข้าไปทันทีด้วยความประหม่า
เธอกังวลมาก
และยังรู้สึกกลัว
กลัวว่าจะได้เห็นภาพอะไรที่ไม่อยากเห็นเข้า
ถึงยังไงสองคนที่ไม่ถูกกันมาอยู่ด้วยทั้งคืนจนตอนนี้ยังไม่ออกมา พาให้ขนหัวลุกอย่างอดไม่ได้เลยจริงๆ
กู้จื่อเฟยสีหน้าซีดเผือด หลังจากลังเลอยู่หลายวินาทีเธอถึงจับลูกบิดประตูด้วยนิ้วสั่นเทา
เธอสูดหายใจลึกก่อนออกแรงบิดอย่างฉับพลัน
เสียง "แกร๊ก" ดังขึ้น ประตูเปิดออกเสียงก้อง ค่อยๆ เผยให้เห็นฉากที่อยู่ข้างใน
เห็นเพียงห้องที่เดิมนั้นสะอาดและกว้างขวาง แต่ในตอนนี้กลับเลอะเทอะยุ่งเหยิง
แต่ที่สะดุดตาที่สุดก็คือขวดไวน์เปล่าที่วางอยู่เต็มพื้น แค่มองดูไม่อาจรู้เลยว่าดื่มไปมากมายขนาดไหน
กลิ่นฉุนของเหล้าลอยมาเตะจมูกอย่างรุนแรงขึ้นไปอีก
ในเวลานี้กู้หรงนั่งอยู่บนพื้นราวกับก้อนของเหลวส่วนร่างกายท่อนบนนั้นอยู่บนโซฟาและกอดขวดไวน์เอาไว้ในอ้อมแขนแน่น
ท่าทางนั้นดูเหมือนว่าจะดื่มจนเมาปลิ้น
แต่ที่ทำให้กู้จื่อเฟยประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือข้างๆ ร่างของกู้หรง เย้นโม่หลินยังคงนั่งตัวตรง ในมือของถือขวดไวน์และกำลังรินไวน์ลงในแก้ว
แต่ได้สูญเสียความแม่นยำไปอย่างเห็นได้ชัด ไวน์เทลงอย่างง่อนแง่นและไหลออกนอกแก้วไปกว่าครึ่ง
ดูเหมือนเขาจะหงุดหงิดแต่กลับยังคงไว้ซึ่งความเป็นสุภาพบุรุษที่ต้องดื่มกับแก้ว แล้วพยายามรินไวน์ต่อไป....
ขมับของกู้จื่อเฟยเต้นตุบๆ
เธอไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่าได้เห็นอะไร
ภาพที่เละเทะขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่าจะมาจากพ่อของเธอและเย้นโม่หลิน
เพราะฉะนั้นเมื่อคืนพวกเขาสองคนก็ไม่ได้นัดดวลกัน และไม่ได้ประชันกันตาต่อตา ก็แค่สังสรรค์กันทั้งคืนแล้วดื่มกันจนฟ้าสว่างงั้นเหรอ?
ความกังวลในใจเธอได้ปล่อยวางลง แต่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกเลยจริงๆ
เย้นหว่านมาถึงในเวลาต่อมา เธอยืนอยู่ที่ประตูและได้เห็นภาพนั้นก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน
เละเทะแบบนี้
สองคนนี้ดื่มกันอย่างบ้าคลั่งเลยงั้นเหรอ?
นอกจากนั้นเมื่อพวกเขาเปิดประตูออกแล้ว เย้นโม่หลินเองก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ เขายังคงรินไวน์อย่างตั้งอกตั้งใจ เห็นได้ชัดว่าเมาแต่เพียงแค่ยังลืมตาอยู่เท่านั้น
เย้นหว่านกุมหน้าผาก "น่ากลัวชะมัด รีบเอาพวกเขาออกมาเถอะ"
กลิ่นของที่นี่เองก็ฉุนเกินไปแล้วจริงๆ
"เสื่อมโทรมเกินไปแล้ว!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...