สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน นิยาย บท 945

หยูฉู่สองเองก็ประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าย่ำแย่จนดูแทบไม่ได้

สายตาแหลมคมกวาดมองผู้คนกว่าพันคน จากนั้นสายตาเย็นสะท้านก็มาหยุดอยู่บนเหล่าลูกน้องที่ควบคุมคอมพิวเตอร์

ไม่ ไม่ใช่สิ พวกเขาเป็นคนรับใช้ที่ภักดีต่อเขา อีกอย่างก็ถูกหลายสายตาจับจ้องขนาดนั้น มีแค่ช่วงต้องแสดงผลถึงได้แตะต้องเมาส์ ไม่มีทางทำอะไรตุกติกได้แน่นอน

ถ้าไม่ใช่ปัญหาทางเทคนิค แบบนั้นก็แปลว่ามีคนที่สนับสนุนโห้หลีเฉินอยู่หลายคนน่ะสิ

ขนาดเขาขู่ คนพวกนั้นยังกล้าสนับสนุนโห้หลี่เฉิอีกเหรอ

สีหน้าของหยูฉู่สองคล้ำเครียดจนเหงื่อแทบจะผุดออกมาเป็นสีหมึก เขาพยายามฝืนความกรุ่นโกรธเอาไว้ จากนั้นก็ไหวตัวอย่างรวดเร็ว แล้วพูดเสียงหนักแน่นและน่าเกรงขามขึ้นมาว่า

"ถึงแม้คะแนนโหวตจะห่างกันไม่มาก แต่ในเมื่อจัดประชุมขึ้นมาแล้ว เรื่องนี้อย่างไรก็ต้องมีผลตัดสินที่แน่นอน เนื่องจากจำนวนคนที่โหวตสนับสนุนให้โจมตีตระกูลเย้นมีมากกว่าสิบคน เพราะฉะนั้นแล้วผลตัดสินสุดท้าย ก็ควรเป็นโจมตีตระกูลเย้น"

"แบบนี้ไม่ได้นะ!"

ท่านอาวุโสรองรีบลุกขึ้นมาทันที เอ่ยโต้แย้งว่า "การจัดประชุมของคนรุ่นก่อนก็เคยมีมาให้เห็น ถ้าหากว่าคะแนนของทั้งสองฝ่ายไม่ต่างกันมาก จะถือว่าคะแนนโหวตเท่ากัน สิ่งที่ตระกูลหยูเคารพคือความคิดเห็นของคนหมู่มาก ให้ความสำคัญกับความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของวงศ์ตระกูล ไม่มีทางปฏิเสธเสียงของคนอีกครึ่งหนึ่ง เพียงเพราะคะแนนโหวตห่างกันไม่เท่าไหร่หรอกนะ มันไม่เป็นผลดีกับอนาคตและความกลมเกลียวของวงศ์ตระกูลแน่ๆ"

สีหน้าของหยูฉู่สองพลันบิดเบี้ยวขึ้นมาอย่างดูไม่ได้ สายตาเย็นเฉียบมองทิ่มแทงไปท่านอาวุโสรอง แทบจะอยากสับเขาออกเป็นชิ้นๆ

ท่านอาวุโสรองกลับปีกกล้าขาแข็ง ไม่มีความเกรงกลัวต่อหยูฉู่สองแม้แต่นิด

เขารู้ดี ว่าตั้งแต่ที่เขาติดตามโห้หลีเฉิน ก็ทำให้หยูฉู่สองไม่พอใจ คนอำมหิตอย่างหยูฉู่สอง ไม่ช้าก็เร็วคงต้องกำจัดคนอย่างเขาให้สิ้นซาก

เขาอยากมีชีวิตอยู่ในตระกูลหยูต่อ การสนับสนุนโห้หลีเฉินสุดกำลังจึงเป็นเพียงทางออกเดียว

หยูฉู่สองระงับอารมณ์โกรธเขาไว้ พยายามบังคับให้ตัวเองสงบนิ่ง

เขาเอ่ยข่มขู่ว่า "เรื่องโจมตีตระกูลเย้นต้องมีผลตัดสิน เรื่องนี้มันเกี่ยวกับอนาคตของตระกูลหยู ไม่ควรปล่อยให้ยืดเยื้อ ถึงแม้คะแนนโหวตจะห่างกันไม่มาก แต่ก็ต้องมีผลตัดสินแค่อย่างเดียว"

สายตาเย็นเฉียบของเขามองรอบๆหอประชุม รังสีข่มขู่แผ่ซ่าน จนทำให้ทุกคนเริ่มหวาดกลัว

เขาเอ่ยพูดว่า "ในฐานะที่ฉันเป็นผู้นำตระกูล ผลตัดสินในวันนี้ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ ถ้าเป็นในกรณีแบบนี้ ถึงคะแนนจะห่างกันแค่สิบ แต่ก็ต้องยึดตัดสินตามคะแนนที่ได้"

ท่านอาวุโสรองเลือดขึ้นหน้าในทันที

ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าทำไมเรื่องมันถึงพลิกเปลี่ยนกลายเป็นมีคนสนับสนุนโห้หลีเฉินเยอะขนาดนี้ แต่พอเห็นสถานการณ์มันพลิกมาเป็นแบบนี้แล้ว ก็ไม่อยากแพ้ทั้งๆที่ห่างกันแค่สิบคะแนน

คะแนนห่างกันแค่เอื้อมมือแต่คว้าเอาไว้ไม่ได้

เขากำลังจะโต้กลับอย่างเดือดดาล ในตอนนี้เอง โห้หลีเฉินก็ส่ายหัวให้เขาเบาๆ

มุมปากของโห้หลีเฉินยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆอย่างไม่ใส่ใจ เอ่ยพูดอย่างใจเย็นว่า

"ในเมื่อห่างกันสิบคะแนนก็ต้องนับ ผมก็ต้องปฏิบัติตามที่ท่านประมุขบอกอยู่แล้ว"

ขณะที่พูด สายตาของเขาก็หันไปมองทางท่านอาวุโสเจ็ด "ท่านอาวุโสเจ็ดยังไม่ลงคะแนนโหวตใช่ไหม? ในเมื่อเป็นถึงท่านอาวุโสของตระกูลหยู หนึ่งเสียงของคุณมีถึงสิบคะแนน ในสถานการณ์ที่ผลการตัดสินมีความสำคัญต่อความเป็นความตายของตระกูลหยู คุณก็ควรที่จะออกสิทธิ์ออกเสียงเพื่อตระกูลหยูอย่างเต็มความสามารถสิครับ"

เมื่อถูกโยนไม้ต่อมาอย่างนี้ ท่านอาวุโสเจ็ดที่กำลังใช้เท้าราน้ำพลันถูกดันออกมาปะทะคลื่น

ทุกคนต่างหันมองมาที่เขาตามๆกัน

คนที่เลือกไม่ออกเสียงมีอยู่หลายคน แต่ตำแหน่งของพวกเขาไม่ได้สำคัญและสูงเท่าท่านอาวุโส

ถึงไม่ออกเสียงจึงไม่มีใครว่าอะไร

แต่ช่วงเวลาที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมใครอย่างนี้ ถึงแม้คะแนนเสียงจากท่านอาวุโสจะแค่สิบคะแนน แต่มันก็สามารถชั่งน้ำหนักความสมดุลได้

หากเขาสนับสนุนหยูฉู่สอง ให้โจมตีตระกูลเย้น ผลการตัดสินก็จะผ่านอย่างมีเหตุผล

หากเขาสนับสนุนโห้หลีเฉิน ถึงคะแนนจะเท่ากันก็จริง แต่นั่นก็เท่ากับว่าไม่สนับสนุนให้โจมตีตระกูลเย้น

เรื่องมาถึงขนาดนี้ นั่นหมายความว่าท่านอาวุโสเจ็ดคือผู้กุมอำนาจการตัดสินอยู่ในมือ

เมื่อเป็นบุคคลที่ถูกกล่าวถึง ท่านอาวุโสเจ็ดก็เริ่มท่าไม่ค่อยดี ใบหน้าแข็งทื่อไปหมด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน