สรุปตอน บทที่ 963 ไล่เธอไป – จากเรื่อง สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน โดย ถางเสี่ยวเถียน
ตอน บทที่ 963 ไล่เธอไป ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน โดยนักเขียน ถางเสี่ยวเถียน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ที่กู้จื่อเฟยคิดไม่ถึงก็คือ การรอนี้ จะรอถึงห้าหกชั่วโมง จนฟ้ามืดแล้วเธอยังไม่เห็นเย้นโม่หลินออกมาจากประตูบานนั้นเลย
ระหว่างนี้ เธอก็ได้รับวีดิโอของเย้นหว่านอีกครั้ง
เธอได้แต่โกหกว่าตอนนี้เย้นโม่หลินกำลังรับมือกับเรื่องยุ่งยากเสร็จแล้วจะติดต่อไป แล้วพูดเลอะเทอะกับเย้นหว่านไปแบบนั้น
แต่เวลายิ่งนานขึ้นเรื่อยๆ เธอมองประตูบานนั้นมีคนเข้าๆ ออกๆ เป็นครั้งคราว แต่มีแค่เย้นโม่หลินเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ออกมาและความอดทนของกู้จื่อเฟยค่อยๆ หมดลงช้าๆ
เธอก็ยิ่งรู้สึกว่า ที่ชายวัยกลางคนบอกว่าเย้นโม่หลินจะแบ่งเวลาออกมาเดิน ก็โกหกเธอทั้งนั้น
เป็นไปได้ว่า พอเย้นโม่หลินทำงานแล้วก็จะไม่รู้วันรู้คืน และไม่พักผ่อนเลยก็เป็นได้
และเป็นไปได้ว่า ต่อให้เย้นโม่หลินจะพัก เขาก็ไม่เดินออกมาข้างนอก แค่นอนคว่ำลงบนโต๊ะสักครู่หนึ่งหรือเดินอยู่ในห้องเท่านั้น
ดังนั้นไม่ว่าเธอจะรอนานแค่ไหน ก็อาจไม่ได้เจอเย้นโม่หลินออกมาจากห้อง
ในที่สุดกู้จื่อเฟยก็ไม่สามารถระงับเปลวไฟในอกของเธอได้
ถ้าเธอรอต่อไป เธอก็คงจะเป็นคนโง่แล้วล่ะ
กู้จื่อเฟยสีหน้ามืดหม่น เธอสาวเท้าเดินไปยังห้องห้องนั้น
ที่ประตูมีบอดี้การ์ดสองคนเฝ้าอยู่ เมื่อเห็นกู้จื่อเฟยเดินมาก็ตำหนิอย่างเย็นชาทันที
"ที่นี่คนนอกห้ามเข้า ไปซะ"
ไล่เธอไปอีกแล้ว
กู้จื่อเฟยเหลืออดแล้วพูดขึ้นเสียงดัง
"ฉันคือแฟนของเย้นโม่หลิน กู้จื่อเฟย ฉันอยากเจอแฟนของฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะเข้าไป"
บอดี้การ์ดได้ยินดังนั้นและเห็นสีหน้าของกู้จื่อเฟยเปลี่ยนไป
สีหน้ายิ่งมีความเหยียดหยามมากขึ้นและความรังเกียจอย่างไม่พึงประสงค์
"เธอเข้าไปไม่ได้"
คำพูดที่เย็นชาและแข็งกระด้างที่ปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา ไม่แม้แต่จะถามหาเหตุผล
กู้จื่อเฟยสีหน้ามืดหม่น
สองวันมานี้เธอได้รับการปฏิบัติแบบนี้มาพอแล้ว และก็รู้ว่าไม่ว่าเธอจะพูดยังไง พวกเขาก็ไม่มีทางให้เธอผ่านเข้าไป
เธอจึงไม่พูดอะไรทั้งนั้นแล้วเดินตรงไปข้างในเสียเลย
บอดี้การ์ดยื่นมือออกมาจะขวางเธอไว้อย่างรวดเร็ว "เธอเข้าไปไม่ได้ อย่าโทษเราที่หยาบคาย...."
คำพูดยังไม่ทันจบ กู้จื่อเฟยก็หลบอย่างคล่องแคล่ว แล้วถีบประตูเปิดเข้าไป
เสียง "ปัง" ดังขึ้น ประตูห้องชนเข้ากับผนัง
ในห้องหนังสือขนาดใหญ่ คนกลุ่มหนึ่งที่กำลังชุลมุนกันอยู่หันมองมาทางประตูอย่างประหลาดใจ
ชายวัยกลางคนที่พูดคุยกับกู้จื่อเฟยก่อนหน้านี้ อ้าปากต่อว่าทันที
"เธอทำอะไร? ที่นี่ใช่ที่ที่เธอจะมาอวดดีได้หรือยังไง?
ใครมาจับเธอโยนออกไปให้ที"
"หลีกไปให้พ้น!"
กู้จื่อเฟยผลักบอดี้การ์ดที่ขวางอยู่ข้างหน้าออกแล้วพุ่งเข้าไปในห้องหนังสือทันที
เธอรีบมองไปรอบห้องหนังสืออย่างรวดเร็ว ใบหน้างดงามนั้นยิ่งหม่นและมืดทะมึนลงเรื่อยๆ
ในห้องหนังสือมีคนมากมาย ในมือของแต่ละคนล้วนถือสิ่งของหรือคอมพิวเตอร์เอาไว้ เห็นได้ว่ากำลังยุ่งมากจริงๆ
แต่คนเยอะขนาดนี้ ภายในกลับไม่ใช่คนที่เธอต้องการตามหาเลยสักคน
เย้นโม่หลินไม่อยู่ที่นี่
ไฟแห่งความโกรธเกรี้ยวในอกของกู้จื่อเฟยโหมกระหน่ำ เธอมองชายวัยกลางคนอย่างเดือดดาล
"คุณหลอกฉัน?!"
ชายวัยกลางคนมีสีหน้าผวาไปชั่วขณะ ต่อจากนั้นเขาก็เผยสีหน้าโหดเหี้ยมออกมาทันที
เขาเอ่ยต่อว่าอย่าไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
"หลอกเธอแล้วมันยังไง? เธออยากพบคุณชายเย้นงั้นเหรอ ไม่มีทาง!"
นี่มันจงใจกลั่นแกล้งเธอนี่
กู้จื่อเฟยโกรธจนอยากจะฆ่าคน
"อย่าไปฟังหล่อนพูดเพ้อเจ้อ! แม้แต่ผู้นำตระกูลและคุณชายเองคุณหนูก็ยังไม่ได้ติดต่อมาเลย แล้วจะไปติดต่อเธอก่อนได้ยังไง?"
ชายวัยกลางคนเดินดิ่งเข้ามา แล้วยกมือขึ้นหยิบโทรศัพท์ขว้างลงกับพื้น
เขาพูดอย่างขุ่นเคือง "หล่อนจะต้องพูดเรื่องเพ้อเจ้อไร้สาระขู่เราแน่นอน! ผู้หญิงคนนี้ ใจทราม แล้วยังคิดจะยุแยงตะแคงรั่ว"
ทุกคนเมื่อได้ยินดังนั้น ก็มองไปที่กู้จื่อเฟยอย่างเคลือบแคลงอีกครั้ง
พวกเขาไม่อยากพลาดข่าวคราวใดๆ จากคุณหนู แต่ชายวัยกลางคนเป็นลุงห้าของคุณหนู ก็พูดยืนยันขนาดนี้แล้ว
พวกเขาไขว้เขวแล้ว
คนคนนี้ทำให้กู้จื่อเฟยเกือบจะโกรธจนหัวเราะออกมา
เขาชิงชังเธอแค่ไหนกันแน่ พุ่งเป้ามาที่เธอแค่ไหน ถึงได้ไม่สนใจแม้แต่ข่าวคราวเย้นหว่านแล้วยังมาเล่นงานเธอ
กู้จื่อเฟยพูดอย่างเย็นชา
"ถ้าไม่เชื่อฉันจะเปิดวีดิโอคอลกับเสี่ยวหว่านเดี๋ยวนี้แหละ จะต่อสายหาเธอให้พวกคุณดู!"
กู้จื่อเฟยเองก็หมดหนทางจริงๆ แล้ว เดิมทีเธอไม่อยากให้เย้นหว่านรู้สถานการณ์ที่ตระกูลเย้นพุ่งเป้ามาที่เธอเลย แต่สภาพในตอนนี้ ถ้าไม่ให้เย้นหว่านปรากฏมาให้เห็น เธอก็เลิกคิดที่จะทำธุระให้สำเร็จได้เลย
หากดึงเวลานานไปอีก เย้นหว่านก็จะเดาอะไรบางอย่างได้บ้างแล้วแน่
รังแต่จะทำให้ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้นเท่านั้น
กู้จื่อเฟยคิดจะหยิบโทรศัพท์บนพื้นขึ้นมา แต่ชายวัยกลางคนกลับเตะโทรศัพท์ลอยไปใต้โต๊ะ
ชายวัยกลางคนคว้าข้อมือของกู้จื่อเฟยเอาไว้ สีหน้าทั้งเย็นชาและดุร้าย
"ผู้หญิงไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอย่างเธอ ฉันไม่ให้โอกาสเธอเล่นลูกไม้อะไรอีกรอบหรอก! ตอนนี้ตระกูลกำลังถูกลมพายุสั่นคลอน มีศัตรูอยู่รอบทิศ ใครจะไปรู้ว่าเธอจะลอบติดต่อรายงานให้กับศัตรูหรือเปล่า?"
คำใส่ร้ายป้ายสีนั่นไม่มีมูลเลยแม้แต่น้อย
กู้จื่อเฟยคิดจะโต้แย้งอย่างโกรธเคือง แต่ชายวัยกลางคนกลับไม่ให้โอกาส เขาพูดต่อราวกับประกาศคำตัดสิน
"ตอนนี้ตระกูลเย้นของเราไม่อาจทนต่อความระทมทุกข์ ยิ่งไม่อาจให้ตัวหายนะนี่สร้างความวิบัติให้ตระกูลเย้นต่อไปได้ ตอนนี้เราจะต้องรีบขับไล่เธอออกไปเดี๋ยวนี้"
อะไรนะ?
กู้จื่อเฟยตกใจผวา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...