เดิมทียังรู้สึกห่อเหี่ยวใจที่ต้องแต่งงานง่ายๆเช่นนี้ ทว่า ณ ตอนนี้ หัวใจกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขฤทัย
ยังเจือความรอคอยด้วยความหวังอีกด้วย
วันนี้เธอได้แต่งงานกับเย้นโม่หลินแล้ว
ทว่าเย้นโม่หลินเร่งเธอแต่งงานราวกับต้อนเป็ดเข้าเล้า เธอไม่มีทางให้เขาสมหวังอย่างสบายๆหรอก
ภายใต้บรรยากาศอวยพร กลับมีสองคนในฝูงชนมีใบหน้าเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
ซึ่งก็คือเจียงเป้ยนีกับเย้นซิวหย่านั่นเอง
แววตาที่เย้นซิวหย่ามองกู้จื่อเฟยนั่นเย็นยะเยือกและแค้นเคืองเป็นพิเศษ แทบอยากจะพุ่งเข้าไปฉีกกระชากกู้จื่อเฟยซะเลย
ทำร้ายลูกสาวเธอขนาดนี้ กู้จื่อเฟยยังแต่งงานกับเย้นโม่หลินอย่างเบิกบานเช่นนี้ คิดอยากจะบินขึ้นไปเป็นคุณนายตระกูลเย้นหรือ?
อย่าแม้แต่จะคิดเชียว!
เธอจะทำให้กู้จื่อเฟยอนาถกว่าเย้นจือฮวนร้อยเท่าเลย
ไม่ คือพันเท่าหมื่นเท่า
เจียงเป้ยนียิ่งอิจฉาจนหน้าบิดเบี้ยว นิ้วมือเกือบจิกทะลุฝ่ามือที่กำหมัดไว้แน่น
กู้จื่อเฟยยิ้มอย่างมีความสุขมันบาดตาเธอจนรู้สึกเจ็บแปลบ
เดิมที เดิมทีทุกอย่างควรเป็นของเธอ คนที่ยืนอยู่ข้างกายเย้นโม่หลินควรเป็นเธอ คนที่จะแต่งงานกับเย้นโม่หลินควรเป็นเธอ และคนที่ได้รับการเคารพเทิดทูนจากตระกูลเย้นทุกคนก็คือเป็นเธอ
ทว่าทุกอย่างถูกกู้จื่อเฟยแย่งชิงไปหมดสิ้น
เธอเกลียด เกลียดจนอยากขุดกระดูกของกู้จื่อเฟยออกมา
แต่ไม่เป็นไร กู้จื่อเฟยดีใจไม่นานหรอก ไม่ช้า ในไม่ใช่หล่อนก็จะ......
มุมปากเจียงเป้ยนียกโค้งขึ้นอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตถึงขีดสุด
เย้นโม่หลินนำกู้จื่อเฟยดื่มไวน์หนึ่งแก้ว เพื่อแสดงการให้เกียรติทุกคน
เทียบเท่ากับประกาศงานมงคลสมรสล่วงหน้าแล้ว
ผู้คนดื่มไวน์แล้วก็เท่ากับยอมรับคุณนายในอนาคตคนนี้แล้ว
จากนั้นเย้นโม่หลินไม่ได้ให้แยกย้ายไปสังสรรค์ตามอัธยาศัย
แต่เป็นการก้าวไปด้านหลังหนึ่งก้าว มองทุกคนด้วยสีหน้าเข้มขรึม พูดต่อว่า
"วันนี้ผมยังมีเรื่องสำคัญจะประกาศหนึ่งเรื่อง"
ผู้คนตั้งใจรับฟังทันที
เย้นโม่หลินมองพ่อแม่ของตน ก่อนจะลั่นเสียงกังวาน
"วันที่ 11 พฤศจิกายนจะจัดงานแต่งงานของเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินที่บ้านตระกูลหยู ถึงแม้พวกเราจะไปร่วมงานไม่ได้ แต่จะสามารถจัดงานฉลองในบ้านตระกูลเย้นได้"
"อะไรนะ?"
เมื่อเกิดประโยคนี้ออกมา ทั่วทั้งงานก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
สีหน้าผู้คนพลันเปลี่ยนไป ขมวดคิ้วพลางตกตะลึงอย่างไม่เห็นดีเห็นงาม
เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เบาๆไม่กี่ประโยคก็มีคนเอ่ยปากกล่าวว่า
"ตอนนี้พวกเราโดนตระกูลหยูโจมตี จนกลายเป็นดั่งน้ำกับไฟ ความเสียหายของตระกูลเย้นไม่อาจประมาณค่าได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคนตระกูลเย้นตายในเงื้อมมือตระกูลหยูจำนวนไม่น้อย พวกเรากับตระกูลหยู ไม่ว่าจะตอนนี้หรืออนาคตก็ต้องเป็นศัตรูแบบไม่ยอมอยู่ร่วมโลกเดียวกัน"
"คุณหนูเป็นดั่งไข่มุกในฝ่ามือของตระกูลเย้น และสื่อถึงเกียรติยศของตระกูลเย้น เธอควรจะร่วมต่อสู้กับศัตรูไปพร้อมกับตระกูลเย้นของพวกเรา จะแต่งงานกับลูกหลานตระกูลหยูได้อย่างไร?"
"ใช่แล้ว โห้หลินเฉินยังเป็นทายาทของตระกูลหยูด้วย หากคุณหนูแต่งงานกับเขา ไม่เท่ากับทรยศตระกูลเย้นของพวกเราหรอกหรือ?"
เกิดข้อครหากับทุกคน ต่างรู้สึกไม่พึงพอใจ
พวกเราไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องเฉลิมฉลองและอวยพรไปพร้อมๆกันเลย
มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยของเย้นโม่หลินเย็นเยียบชั่วพริบตา
ชั่วขณะนั้น ความเย็นยะเยือกแผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งงาน ทำให้อุณหภูมิในงานติดลบ ชวนให้ผู้คนตัวสั่นเทิ้มไม่ได้
ผู้ที่พิพากษ์วิจารณ์เสียงดังก็หุบปากทันที พลางมองเย้นโม่หลินด้วยความหวาดผวา
ถึงแม้เย้นโม่หลินยังเป็นนายน้อยอยู่ ยังไม่ได้กลายเป็นผู้นำประจำตระกูล ทว่าทั้งฝีมือและความสามารถของเขาได้เป็นที่ประจักษ์สู่สายตาทุกคนในตระกูลเย้นแล้ว
ตำแหน่งของเขาคือ อยู่ใต้ผู้นำประจำตระกูลและอยู่เหนือผู้คนนับหมื่นคน ไม่มีใครกล้าท้าทาย ลบหลู่เลยสักนิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน