นั้นมันซูเปอร์สตาร์ระดับโลกเชียวนะ และเป็นไอดอลเดียวของกู้จื่อเฟย
เขาทั้งร้องก่งทั้งเต้นเก่ง และมีใบหน้าลูกครึ่งอันหล่อเหลาอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นชายหนุ่มไฟแรงที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและความสามารถกันเลยทีเดียว
กู้จื่อเฟยเคยซื้อตั๋วบินไปต่างประเทศ เพื่อไปดูคอนเสิร์ตของเขาโดยเฉพาะ ทั้งยังยืนอยู่กลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ พลางร่วมร้องสู้ๆกับแฟนคลับคนอื่นๆด้วย
กู้จื่อเฟยคาดไม่ถึงว่า ซูเปอร์สตาร์อย่างชิวเจ๋อจะยอมรับการเชิญ มาแสดงให้กับบุคคลเฉพาะกลุ่มด้วย?
ตระกูลเย้นมีอำนาจค้ำฟ้า ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้จริงๆ
เย้นโม่หลินสีหน้าไม่สู้ดีนัก จ้องมองเย้นซิวหย่าอย่างเย็นเยียบ
"อายังจำกฎของตระกูลได้หรือเปล่า ตระกูลเย้นไม่อนุญาตให้พาคนนอกเข้ามาโดยพลการ"
ซูเปอร์สตาร์ประเภทนี้มาเพื่อแสดงความสามารถ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลเย้นเลยสักนิด บุคคลอย่างนี้ไม่มีโอกาสปรากฏกายที่บ้านตระกูลเย้นเด็ดขาด
ไม่เช่นนั้นจะเปิดเผยแหล่งที่ตั้งบ้านตระกูลเย้นได้
เย้นซิวหย่าเตรียมตัวมาดี ไปยืนข้างกายกู้จื่อเฟยโดยเฉพาะ ยิ้มกล่าวว่า
"วันนี้จัดงานเลี้ยงต้อนรับจื่อเฟยไม่ใช่เหรอ?ฉันเห็นเธอคลั่งไคล้และชื่นชอบชิวเจ๋อ จึงเชิญชิวเจ๋อมาเพื่อให้เธอดีใจโดยเฉพาะเลยนะ
เสี่ยวโม่วางใจเถอะ เขาปิดตาเข้ามา ไม่รู้ว่าตระกูลเย้นของพวกเราอยู่ไหน"
เย้นซิวหย่ากล่าวอย่างจริงใจ
ต่อมาสายตาเย้นโม่หลินหยุดอยู่ที่ตัวกู้จื่อเฟย คนที่เธอเทิดทูนและชื่นชอบหรือ?
งั้นเธอได้ดูการแสดงของชิวเจ๋อคงต้องเบิกบานใจแน่
เมื่อไตร่ตรองดูแล้ว เย้นโม่หลินพยักหน้าพร้อมกับกล่าวเสียงเคร่งขรึมว่า"เริ่มเถอะ"
กู้จื่อเฟยยังยืนกับที่ด้วยความงงงวย ไม่อาจดึงตัวเองออกจากความตื่นเต้นประหลาดใจได้ ก็ได้ยินพวกเขาหารือกันเสร็จสรรพ ตกลงให้ชิวเจ๋อเริ่มแสดงแล้ว
หัวใจทั้งดวงของเธอเต้นตุ๊บๆต่อมๆด้วยจิตใจของแฟนคลับสาว
ชิวเจ๋อเอย
เธอเคยดูเขาในคอนเสิร์ตระยะไกลเพียงครั้งเดียวก็หลงใหลกับความหล่อและพรสวรรค์ด้านดนตรีของเขาอย่างโงหัวไม่ขึ้น
คาดไม่ถึงว่าตอนนี้จะได้ดูเขาแสดงใกล้ๆ ช่างรู้สึกตื่นเต้นยินดีเหลือคณานับ
ในความปรีดิ์เปรมเกษมสันต์ ทำให้กู้จื่อเฟยละเลยว่าเหตุใดเย้นซิวหย่าถึงได้ดีกับเธอเช่นนี้กะทันหัน
แสงไฟทั่วทั้งงานดับกะทันหัน ทิ้งไว้แต่เพียงความมืดมน
จากนั้นแสงไฟรวมอยู่ที่เดียวกัน ร่างเงาสูงโปร่งพลันปรากฏสู่สายตาผู้คนในบัดดล
เขาก้มหน้า เส้นผมที่ย้อนด้วยสีน้ำเงินแซมสีม่วงทิ้งตัวลงมาอย่างเป็นธรรมชาติ เขาถือกีต้าร์หรูหราและสวมใส่เสื้อผ้าที่ทันสมัย
นาทีที่ปรากฏตัว ราศีที่โดดเด่นเฉพาะตัวกลายเป็นจุดโฟกัสของทั้งงาน
"ตง......"
เมื่อนิ้วมือของเขาขยับ เสียงดนตรีอันไพเราะเสนาะหูก็ส่งเสียงออกมาจากกีต้าร์
จากนั้นเสียงเกิดขึ้นเป็นทอดๆติดต่อกันจนกลายเป็นจังหวะที่ไพเราะเพราะพริ้ง
เสียงร้องที่ไพเราะเปล่งออกมาจากริมฝีปากของเขาช้าๆ"ช่วงที่ดอกไม้นาๆพันธุ์ผลิบาน ต้นหลิวอันเขียวขจีแผ่กิ่งก้านสาขาจนเป็นแหล่งหลบฝนหลบแดด ผมถึงจะพบว่า มันเทียบกับรอยยิ้มของคุณไม่ได้......"
เมื่อร้องถึงประโยคสุดท้าย เขาเงยหน้ากะทันหัน สายตาจดจ่ออยู่ที่กู้จื่อเฟยอย่างแม่นยำ
หางตาของเขาสะท้อนแสงสว่างจากหลอดไฟ ดวงตาสีนิลของเขายิ่งสะดุดตามากขึ้น คล้ายกับทะเลอันงดงามที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา ช่างสะกดจิตสะกดใจยิ่งนัก
แค่ได้สบตากันแวบเดียวก็ราวกับถูกดูดวิญญาณไปในพริบตา
กู้จื่อเฟยมองเขาด้วยความอึ้ง ใบหน้าแดงระเรื่อทันที เอามือปิดปากอุทานด้วยความดีใจ
ไม่อยากจะเชื่อเลย
ซูเปอร์สตาร์ในดวงใจเธอกำลังมองเธออยู่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...