เวินเหลียงรีบแก้สถานการณ์โดยใช้ตะเกียบกลางคีบอาหารให้คุณปู่ “คุณปู่คะ ลองชิมมะเขือผัดเปรี้ยวหวานนี่สิคะ หนูทำเองกับมือเลยนะ เมื่อก่อนคุณปู่ชอบกินที่สุดเลย”
คุณย่าก็สมทบอีกแรง “ดูสิ อาเหลียงยังจำได้ว่าคุณชอบ ฉันงอนแล้วนะ”
“ยังเป็นอาเหลียงที่กตัญญู” คุณปู่ชายหยิบตะเกียบ พยักหน้าหัวเราะชอบใจ “ไม่เหมือนใครบางคนที่ไม่มีหัวใจ ดีแต่ทำให้ฉันโมโห ฉันว่านะ คงต้องให้ฉันโมโหตายก่อนเขาถึงจะพอใจ”
ฟู่เจิงผู้ไม่มีหัวใจ “...”
“คุณปู่คะ คุณปู่อย่าพูดอย่างนี้สิคะ คุณปู่ต้องอายุยืนร้อยปีแน่ค่ะ”
พ่อแม่ของเวินเหลียงหย่ากันตั้งแต่ตอนที่เธอเด็กมาก เธอถูกตัดสินยกให้พ่อ แต่ถ้าจะพูดให้ถูกคือแม่ไม่ต้องการเธอ อย่างหลายปีมานี้ แม่ก็ไม่เคยมาเยี่ยมเธอสักครั้ง
พ่อทำงานยุ่งมาก ตอนแรกเธออยู่กับปู่ย่าที่บ้านนอก เพียงแต่ไม่กี่ปีให้หลังปู่กับย่าก็ทยอยจากไป พ่อจึงรับเธอมาอยู่ด้วย
ตอนที่เธออายุสิบหก พ่อก็จากไปเหมือนกัน เธอจึงตัวคนเดียวแล้วจริง ๆ
กระทั่งคุณปู่ คุณย่าในตอนนี้รับตัวเธอมา มอบความอบอุ่น มอบบ้านอีกหลังให้เธอ
ความทุกข์ที่ครอบครัวจากไปทีละคน เธอไม่อยากสัมผัสอีก
ไม่มีใครหวังให้คุณปู่สุขภาพแข็งแรงอายุยืนร้อยปีไปมากกว่าเธอแล้ว
มื้ออาหารหนึ่ง นอกจากฟู่เจิง สามคนที่เหลือสมานฉันท์กลมเกลียวเป็นพิเศษ
เวินเหลียงหาเรื่องมาทำให้คุณปู่คุณย่าอารมณ์ดี พูดกันคนละคำ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนครอบครัวเดียวกันอย่างแท้จริง
คนรับใช้ด้านข้างก็พูดเหมือนกัน “พอคุณเวินมา คุณท่านก็กระปรี้กระเปร่ากว่าเมื่อก่อนเยอะเลย”
หลังจากกินอาหารเสร็จ เวินเหลียงก็เดินหมากเป็นเพื่อนคุณปู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารักผูกหัวใจท่านประธานปากแข็ง