ที่แท้ฟู่เจิงก็ตอบตกลงแล้วนี่เอง
ทันใดนั้นเวินเหลียงก็รู้สึกน่าขันเป็นอย่างมาก
เพราะฉู่ซืออี๋ ฟู่เจิงถึงแทรกแซงเรื่องของเอ็มคิวครั้งแล้วครั้งเล่า
เพราะฉู่ซืออี๋ ฟู่เจิงจึงทำแผนของเธอพังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่ากลับให้เธอมาเก็บกวาดทุกสิ่ง
แผนของการตลาดในก่อนหน้านี้ก็เตรียมจะลงมือทำเรียบร้อยแล้ว แต่เพราะเปลี่ยนแอมบาสเดอร์เลยต้องกลายเป็นเศษกระดาษ เขาไม่เห็นว่าเธอลงทุนลงแรงไปเท่าไร ถึงจะรักษาสถานการณ์ในตอนนี้เอาไว้ได้
เขาต้องการเพียงแค่เอาใจฉู่ซืออี๋ก็พอแล้ว
ส่วนจะกลายเป็นเรื่องวุ่นวายหรือเปล่านั้น ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวินเหลียง
แล้วเขาจะมาสนใจได้ยังไง?
เมื่อถังซือซือได้ยินดังนั้น ก็ยิ่งรู้สึกว่าเกินไปแล้ว “ประธานฟู่ตกลงแล้วงั้นเหรอ? ประธานฟู่สนใจเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้ด้วยเหรอ?”
ฉู่ซืออี๋หัวเราะ “คุณถังเองก็รู้ว่านี่เป็นแค่เรื่องเล็ก เพราะงั้นอาเจิงถึงบอกให้ฉันเป็นคนตัดสินใจเองได้เลย”
ถังซือซือ “คุณฉู่คะ ทุกคนต่างรู้ดีว่าเรื่องเล็กสำหรับประธานฟู่ที่จริงมันสำคัญมาก ๆ ในการถ่ายทำการแต่งหน้าและทรงผมสำคัญมาก หวังว่าคุณจะเข้าใจนะคะ ฉันแค่สงสัยในตัวประธานฟู่ ว่าทำไมถึงมาสนใจเรื่องแบบนี้ด้วย?”
หวังเหยียนเอ่ย “ความหมายของคุณคือ ซืออี๋กำลังโกหกงั้นเหรอ? ผู้อำนวยการเวิน ถ้าพวกคุณไม่เชื่อ จะโทรเช็กกับประธานฟู่ให้มั่นใจก็ได้ เรื่องนี้ประธานฟู่เป็นคนให้สิทธิ์พวกเรา พวกเรายืนกรานว่าจะทำแบบเดิม ที่เหลือพวกคุณไปจัดการกันเอาเอง ถ้าจัดการไม่ได้ จะยกเลิกสัญญาก็ไม่มีปัญหา ซืออี๋ของพวกเราไม่ได้หวังจะเป็นแอมบาสเดอร์นี่หรอก”
ฉู่ซืออี๋ยืนเงียบไม่พูดไม่จาอยู่ข้าง ๆ
ถังซือซือถูกหวังเหยียนทำให้เดือดดาลเป็นอย่างมาก
หลังเดินออกมาจากห้องแต่งตัว เธอกำหมัด “ทำงานในวงการนี้มาตั้งหลายปี ร่วมงานกับดารามาก็ตั้งมากมาย นี่เพิ่งเป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเจอคนหน้าไม่อายขนาดนี้ ในเมื่อไม่ได้หวังอยากจะเป็นแอมบาสเดอร์ แล้วทำไมต้องไปแย่งมาจากหลินเยียนหรันด้วยล่ะ? อยากเป็นกะหรี่แต่ยังอยากมีหน้ามีตา ทุเรศชะมัด!”
ถังซือซือเองนับว่าเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพที่มีชื่อเสียงในวงการคนหนึ่งเช่นกัน และเธอเคยร่วมงานกับดาราหนังนักแสดงซีรีส์มามากมาย
ปีที่แล้วเว็บซีรีส์เรื่องหนึ่งมีพระเอกฮอต และระดับความดังของนางเอกที่อยู่ในนั้นก็พุ่งขึ้นมาอย่างมาก แต่มักถูกคนวิจารณ์รูปลักษณ์ว่าดูพื้น ๆ เส้นกรอบหน้าทู่เกินไป ต่อมาในภายหลังจึงแต่งหน้าถ่ายรูปหมู่ตามการแนะนำของถังซือซือ เธอจึงดังขึ้นมาในวงการทันที
จูฝานเองก็เห็นภาพเมื่อครู่มากับตาอยู่ข้าง ๆ เธอปลอบถังซือซือ “อย่าโมโหไปเลย มาคิดกันดีกว่าว่าจะจัดการเรื่องนี้ต่อไปยังไง ถ้าเธอยังยืนกรานว่าจะไม่เปลี่ยนการแต่งหน้าและทรงผม ถ้างั้น...อาจจะต้องเปลี่ยนแผนการถ่ายรูปไปอีกแบบ”
ถังซือซือหันไปถามเวินเหลียง “อาเหลียง คุณคิดจะจัดการยังไง?”
“พวกคุณไปรอที่ห้องพักกันก่อนนะ ฉันจะไปโทรศัพท์หน่อย กลับมาค่อยหารือกันอีกที”
“ได้ คุณไปเถอะ”
เวินเหลียงเดินไปตรงพื้นที่ว่างไม่มีคนของสตูดิโอ ก่อนจะล้วงโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาฟู่เจิง
ไม่นานเบอร์ที่โทรออกก็รับสาย
ปลายสายมีเสียงของชายหนุ่มแสนเคร่งขรึมแว่วดังขึ้นมา “ฮัลโหล”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารักผูกหัวใจท่านประธานปากแข็ง