เสร็จสิ้นการประชุม
ฟู่เจิงนั่งนวดคิ้วอยู่บนพนักพิงเก้าอี้
ในจังหวะนี้เองเสียงริงโทนโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ฟู่เจิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองหน้าจอทีหนึ่งก่อนจะรับสาย “ฮัลโหล”
“อาเจิง คุณอยู่ที่บริษัทหรือเปล่าคะ? ฉันจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้”
ฟู่เจิงมองปฏิทินบนโต๊ะ “วันนี้ถ่ายงานเสร็จเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”
ฉู่ซืออี๋ทำทีอยากจะพูดแต่ก็ชะงักไป “วันนี้...วันนี้ไม่ได้ถ่ายค่ะ”
“ไม่ได้ถ่ายงั้นเหรอ? ทำไมล่ะ?” ฟู่เจิงถาม
ตอนที่เขาเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ ยังเห็นห้องทำงานของเวินเหลียงถูกล็อกเอาไว้ เห็นชัดว่าออกไปทำงานข้างนอก
ทุกครั้งที่มีการถ่ายโฆษณา เวินเหลียงจะไปดูที่สถานที่ถ่ายทำ
ในเมื่อวันนี้เธอก็ออกไปสตูดิโอ ทำไมถึงไม่ได้ถ่ายล่ะ?
“ตอนที่เราไปถึงสตูดิโอ จู่ ๆ อาเหลียงก็บอกกับเราว่ามีเรื่องด่วนไม่ถ่ายแล้ว พูดจบเธอก็ออกไปเลย เราเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“คงจะมีเรื่องอะไรด่วนจริง ๆ แหละมั้ง ไหน ๆ ก็ไม่ได้ถ่ายแล้ว คุณมาหาผมที่บริษัทสิ”
ในสามปีนี้ ฟู่เจิงรู้ท่าทีในการทำงานของเวินเหลียงมาตลอด
ถ้าไม่ได้เกิดเหตุการณ์พิเศษขึ้นมาจริง ๆ เธอไม่มีทางบอกว่าไม่ถ่ายก็ไม่ถ่ายเด็ดขาด
เมื่อได้ยินว่าในน้ำเสียงของฟู่เจิงไม่มีทีท่าจะตำหนิเวินเหลียงเลยแม้แต่น้อย ฉู่ซืออี๋ที่อยู่ปลายสายก็หัวเราะเสียงเย็น ทว่ากลับพูดอย่างอ่อนโยน “ฉันเองก็เดาว่าคงเกิดเรื่องอะไรที่พิเศษขึ้นบางอย่าง จริงสิ อาเจิงฉันอยากจะขอร้องคุณเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องอะไรเหรอ?”
“การถ่ายทำครั้งนี้ ฉันอยากพาช่างแต่งหน้าไปเอง หลายปีนี้ฉันอยู่ต่างประเทศตลอดเพิ่งจะกลับมา เลยปรับตัวไม่ได้อยู่นิดหน่อย สภาพผิวก็ไม่ได้ดีมาก ฉันกลัวว่าช่างแต่งหน้าที่นี่จะไม่เข้าใจสภาพผิว แล้วการแต่งหน้าที่ออกมาจะไม่ได้ผลอย่างที่คาดไว้ ถ่ายออกมาคงไม่สวยแน่ ๆ ช่างแต่งหน้าของฉันเข้าใจสภาพผิวฉันดีที่สุด แสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่มากกว่า”
ฟู่เจิงยังแอบคิดว่าเรื่องใหญ่โตอะไรกัน “เรื่องแค่นี้ คุณก็ต้องรายงานผมด้วยเหรอ?”
ทว่าอู่ซืออี๋กลับพูดว่า “เรื่องเล็กที่ไหนกันคะ? เรื่องงานไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ต้องสื่อสารกันให้ดี ตอนนี้ควรเคารพซึ่งกันและกัน เป็นความจริงใจในการร่วมงาน อาเจิง ฉันให้ความสำคัญกับการเป็นแอมบาสเดอร์ตัวนี้มาก แน่นอนว่าเลยใส่ใจกับทุกเรื่อง ถ้าฉันไม่รายงานก่อนล่วงหน้า อาจมีคนหาว่าฉันเล่นตัวก็ได้”
“คุณพูดถูก”
แม้แต่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ฉู่ซืออี๋ก็ยังมาอธิบายให้ฟู่เจิงฟัง แต่เวินเหลียงกลับไม่แจ้งเรื่องที่วันนี้ไม่ถ่ายทำให้รู้ ไม่ได้บอกให้ชัดเจน
ฟู่เจิงเชื่อมั่นในการทำงานของเวินเหลียงมาตลอด การพัฒนาของเอ็มคิวก่อนหน้านี้ฟู่เจิงก็แทบจะแทรกแซงเข้าไปช่วยน้อยมาก เขามอบอำนาจในการตัดสินใจเองให้กับเวินเหลียงมากพอตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารักผูกหัวใจท่านประธานปากแข็ง