So Long ลารักร้ายผู้ชายสารเลว! นิยาย บท 10

“ขอบคุณนะคะวันนี้มิลค์สนุกมากเลย” ฉันยิ้มขอบคุณพี่ธาม ไม่ต้องเอียงคอสงสัยค่ะเราสนิทกันแล้ว คนหล่อกับคนสวยคุยกันแป๊บเดียวก็ต้องสนิทกันเป็นธรรมดา ฮ่า ๆ

“ครับ แต่ถ้าไม่รังเกียจวันหลังจะหนีบพี่ไปเที่ยวแก้เหงาอีกก็ได้นะ” พี่ธามยิ้มให้ฉันพร้อมกับบอกออกมา เสียงนุ่ม ๆ ทุ้ม ๆ เข้ากับบุคลิกสะอาดสะอ้านและรอยยิ้มสวยบาดใจหญิงของพี่เขาทำให้ฉันยิ้มกับคำพูดของเขาทันที

“โห ใครจะกล้าให้พี่ธามมาเป็นเพื่อนเที่ยวแก้เหงากันล่ะคะ”

“ฮ่า ๆๆ คนสวยแบบมิลค์ไงครับ” พี่ธามบอกมาแบบนี้อีมิลค์ก็เขินแย่สิคะ ถึงแม้จะสนิทกับคนหน้าตาดี มีคนหน้าตาดีมาจีบมากมายแต่สุดท้ายยังไงก็เขินอยู่ดี

“งั้นมิลค์ไม่เกรงใจแล้วกันนะคะ ดีเลยจะได้มีเพื่อน เที่ยวคนเดียวเหงาจะแย่” ฉันบอกพี่เขาทันที จากการพูดคุยกันมาทั้งวันพี่ธามดูท่าทางไม่ได้เลวร้ายอะไร พี่เขาเป็นนักเรียนนอกค่ะเรียนที่อังกฤษพอมีเวลาว่างก็ชอบเที่ยวตามโซนยุโรป อย่างเช่นวันนี้ที่เขาเลือกมาเที่ยวมิลานจนเราได้เจอกันไง ///“ยินดีครับ อย่าเบื่อพี่ก่อนแล้วกัน” คำพูดที่พี่ธามตอบออกมาทำฉันอยากจะบอกพี่เขามากมายเลยว่าหล่อขนาดนี้ไม่มีทางเบื่อหรอกค่ะ ให้มองทั้งวันก็ได้มิลค์เพลินตา อิอิ

“ขอบคุณมากนะคะ มิลค์ไม่เบื่อแน่นอนค่ะ วันนี้พี่ธามพามิลค์ทัวร์ได้สนุกมาก แต่วันนี้เราไปพักผ่อนกันดีกว่าไหมคะมิลค์เดินจนขาลากแล้ว แหะ ๆ” ฉันบอกเขาออกไปเพราะปวดขามาก เราเดินไปคุยไป ชมโน่นนี่นั่นไปเรื่อยจนระยะทางยาวเป็นกิโลเลยไม่รู้จะเพลินอะไรเบอร์นั้น

“ฮ่า ๆๆ ได้ครับ ถ้างั้นฝันดีนะพรุ่งนี้เจอกันครับ” พี่ธามบอกพร้อมกับโบกมือให้ฉันนิดหน่อยก่อนที่พี่เขาจะเดินไปที่โรงแรมที่พี่เขาพักซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากโรงแรมที่ฉันพักเท่าไหร่ห่างไปแค่ประมาณสองร้อยเมตรเอง

-หนึ่งอาทิตย์ต่อมา-

“ชะนี~” เสียงหล่อแต่ติดดัดจริตของอีแมนนี่ดังขึ้นทันทีที่ฉันลากรถเข็นกระเป๋าออกมา พอหันไปตามเสียงที่ดังแปดหลอดก็เจออีแมนนี่กับมินตราโยนโบกมือให้ฉันเลยรีบปรี่ไปหาพวกมันสองคนด้วยความคิดถึงทันที

“ฮาย~ ตุ๊ดตู่กับนางฟ้าคิดถึงเวอร์” ฉันเดินไปถึงก็ร้องทักทายเพื่อนทั้งสองคนไปตามประสา แต่รับรู้ได้ว่ามีสายตาหลายคู่มองมาที่พวกฉัน ก็แหมอีแมนนี่หล่อล่ำกล้ามแน่น มินตราก็สวยฉ่ำยังกับนางฟ้า ฉันก็แซ่บเหมือนนางแบบบวกนางร้ายขนาดนี้ใครจะไม่สนใจล่ะคะ ยิ่งแฟชั่นฉันที่ใส่กลับมาก็ยิ่งแซ่บคนเลยยิ่งมองกันใหญ่

“องค์อะไรลงคะแต่งซะเวอร์ขนาดนี้ ลงเครื่องเสร็จจะไปไหนต่อคะแห่นาคเหรออีมิ” อีแมนนี่กระแนะกระแหนทันทีพร้อมกับมองจิกฉันที่แต่งเต็มมาจนผู้ชายมองตามคอแทบเคล็ด

“ไม่อิจนะคะเทย ไปค่ะกูคิดถึงส้มตำมาก ที่สำคัญอยากเม้าท์กับพวกมึงจะแย่” ฉันยิ้มให้เพื่อนรักทั้งสองจนตาหยีแล้วก็รีบลากแขนมินตราให้เดินมากับฉัน ทิ้งอีตุ๊ดสุดหล่อไว้กับรถเข็นที่มีกระเป๋าใบโตสามใบ

“โอ๊ย! แล้วรถเข็นมึงเนี่ยไม่เข็นเองล่ะ ไปหนึ่งกลับมาสามมึงจะบ้าเหรออีมิ! แล้วกูเป็นตุ๊ด! กูเป็นตุ๊ดค่ะอีชะนี! ใช้กูจัง!” เสียงอีแมนนี่วีนไล่หลัง แต่อย่าไปสนใจเลยค่ะเพราะสุดท้ายมันก็เข็นให้อยู่ดี

“เอาล่ะอีมิลานกูทนไม่ไหวแล้วถามในไลน์ก็ไม่ตอบ ตอนนี้มึงเล่ามาเลยค่ะว่าผู้คนนั้นคือใคร น่ากินมาก~” อีแมนนี่พูดขึ้นทันทีหลังจากที่พวกเราขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว

จะใครล่ะคะที่มันพูดถึงก็พี่ธามไงล่ะ ตลอดระยะเวลาที่เที่ยวยุโรปพี่เขาอาสาเป็นไกด์พาเที่ยวเลยล่ะ ฉันก็ลงรูปที่ถ่ายคู่กับพี่เขาตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จนเพื่อนและใครต่อใครตามกรี๊ด อีแมนนี่ไลน์มาถามตั้งแต่ฉันลงรูปแรกได้ไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ แต่ฉันขี้เกียจพิมพ์เลยบอกมันว่ากลับมาไทยจะเล่าให้ฟัง

“เขาชื่อพี่ธาม” ฉันตอบมันไปสั้น ๆ ไม่รู้จะเริ่มเล่าตรงไหนก่อนดี

“เอออันนั้นกูรู้แล้วกูเห็นมึงเม้นท์จีบกันอยู่ค่ะ แต่เขาเป็นใครไปเจอกันได้ยังไง แล้วไปไงมาไงถึงแรดไปเที่ยวกับเขาทุกวัน ตอบ!” อีแมนนี่ถามเสียงใสด้วยความอยากรู้อยากเห็นทันที แต่ยิงคำถามรัวมากค่ะอีตุ๊ด รัวจนฟังแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว

“ฮ่า ๆๆ แมนนี่มึงก็ถามรัวจังมิลานมันฟังไม่ทันสักคำถามแล้วมั้งนั่น” มินตรามันหัวเราะออกมาทันที เรื่องสอดรู้สอดเห็นนี่ยกให้มันเลยค่ะอีแมนนี่เนี่ย

“เออ ๆ ไม่รัวแล้ว ถ้างั้นมึงเล่ามาอีมิ เล่ามาให้หมดอย่าบังอาจปิดบังแม้แต่นิดเด็ดขาด!” อีแมนนี่พูดจบฉันก็เล่าเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันเจอกับพี่ธาม แล้วก็เล่าเรื่องต่าง ๆ มากมายตลอดระยะเวลาที่ไปเที่ยวให้พวกมันฟัง

“ดีอ่ะมิลาน” มินตราเป็นคนเอ่ยขึ้นมาก่อนหลังจากที่ฉันบรรยายสรรพคุณความเป็นสุภาพบุรุษของพี่ธามให้พวกมันฟัง

“เออดี แต่ต้องดูนาน ๆ นะยะลูกสาว แล้วว่าแต่ตอนนี้สถานะไหน มึงคิดยังไงกับเขา แล้วเขามีท่าทียังไงกับมึง แต่ห้ามบอกกูว่าคบกันแล้วนะอีมิลานไม่งั้นก็จะตบให้นอหลุดเลยเพิ่งเจอกันอาทิตย์เดียวเอง” อีแมนนี่ถามแล้วหันมาจ้องหน้าฉัน อีนี่มันเป็นมนุษย์ตุ๊ดที่ห่วงเพื่อนสาวมากค่ะ มันไม่อยากให้เพื่อนโดนผู้ชายหลอก

“ยัง ๆ แค่คุยกันแบบพี่น้อง แต่พี่เขาก็โอเคนะเป็นคนที่คบได้คนหนึ่ง ส่วนเรื่องอื่นก็ให้เป็นเรื่องของอนาคตไปแล้วกันมึง” ฉันบอกเพื่อนไป ถึงแม้จะชอบพี่เขาอยู่บ้างแต่มันก็ไม่ได้เต็มร้อยหรอกค่ะ เพิ่งรู้จักกันเอง ขอดูไปนาน ๆ ก่อนไม่อยากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

“เออ ค่อย ๆ ดูไปนะมึง ว่าแต่คืนนี้ไปไหนดีคะกูอยากแดนซ์ อยู่กับลูกสาวมินตรามาอาทิตย์กว่า ๆ กูเหนื่อยมากกูจะเป็นแม่ชีแล้ว” อีแมนนี่ถามด้วยความกระดี้กระด้าพร้อมกับแอบบ่นเรื่องลูกสาวมินคราของมันนิดหน่อย นี่จะไม่ให้ฉันพักเหนื่อยเลยว่างั้น นั่งเครื่องข้ามทวีปมาตั้งสิบกว่าชั่วโมงแต่ก็เข้าใจมันนะมันอยู่กับมินตราที่ไม่เที่ยวเลยนานเป็นอาทิตย์ใจของมันคงร่ำร้องหาเพลงมัน ๆ สุราและผู้ชายจะแย่อยู่แล้ว

“ไม่ให้กูพัก?”

“กูจะพามึงไปชาร์จแบตค่ะ”

“อ่ะ โอเคค่ะ ไปไหนก็ไป” ฉันบอกมันออกไป เรื่องเที่ยวขอให้บอก ไม่ไหวก็ต้องไหว ฉันชอบเสียงเพลงและตอนนี้ฉันแซ่บมากมาย อยากโชว์ความแซ่บที่ไปบ่มเพาะมาทั้งอาทิตย์จะแย่แล้ว อิอิ

“แล้วมึงล่ะมิน ไปไหม” ฉันหันไปถามเพื่อนสาวที่ไม่ชอบเที่ยวของฉัน มันก็ไม่ได้เรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้อะไรขนาดนั้นหรอกนะคะ ต่มินตราค่อนข้างเป็นเด็กดีเลยไม่เที่ยวเท่าไหร่ ไม่ ๆ เรียกว่าไม่เที่ยวเลยต่างหากถึงจะถูก