“มานอนกับเมีย ไม่สิ มาอยู่ต่างหาก ขนเสื้อผ้ามาหมดตู้เลย” แอลฟ่าบอกฉันด้วยเสียงไร้อารมณ์ ตั้งใจจะกวนประสาทฉันแน่นอนแต่ประโยคสุดท้ายของเขาทำให้ฉันนั่งนิ่งอยู่ที่เตียงไม่ได้ ฉันรีบเดินออกไปยังห้องนั่งเล่นทันทีแล้วก็พบกับกระเป๋าใบใหญ่สองใบตั้งอยู่!
“นายเป็นบ้าอะไรเนี่ยฮะ!” ฉันตะโกนถามเสียงลั่นห้องแต่ก็ไร้วี่แววของคนที่จะตอบรับ พอเดินเข้าไปในห้องก็เจอไอ้บ้าแอลมันนอนกระดิกเท้าอยู่บนเตียง
“จัดเสื้อผ้าให้หน่อย ขี้เกียจ” ไอ้กร๊วกนี่มันไม่ได้สนใจฉันที่ยืนโมโหอยู่สักนิด แล้วยังมีหน้ามาใช้ฉันต่อ
“เอาไปเผาทิ้งแทนได้ไหม ขนมาทำบ้าทำบออะไร แล้วใครจะให้นายอยู่ไม่ทราบฮะ”
“ฉันนี่แหละอนุญาตตัวเองจบไหม ถ้าไม่เก็บให้ก็ไปกินข้าวกันได้แล้ว” แอลฟ่าพูดจบก็เด้งตัวลุกขึ้นแล้วเดินมาหาฉันก่อนที่เขาจะเอามือมาคล้องคอฉัน
“อย่ามาทำรุ่มร่าม” ฉันสะบัดตัวออก ไอ้บ้านี่จะมามุกไหนอีกนะ ฉันว่าเขาเป็นไบโพล่าร์จริงๆ แล้วล่ะเอาไว้มีเวลาว่างถึงแม้จะไม่อยากอยู่ใกล้หรือว่าวุ่นวายกับเขาแต่ฉันจะยอมเสียสละเวลาพาเขาไปหาหมอแน่นอนฉันสัญญา
“รุ่มร่ามไรวะ รุ่มร่ามต้องแบบนี้ต่างหาก”
หมับ~
“ว้าย!” ไอ้บ้าแอลฟ่าพูดจบกับกอดเอวฉันแน่น ทำไมฉันถึงเดาอารมณ์การกระทำเขายากจังเลยนะ
“ปล่อย!” ฉันตะโกนบอกเขาพร้อมกับพยายามบิดตัวออกแต่มันก็ไม่สำเร็จเหมือนเดิม
“จะไปกินข้าวได้ยัง” แอลฟ่าถามทั้งที่ยังกอดฉันแน่น มันคือการทำให้รู้ว่าฉันต้องยอมใช่ไหม
“ฉันคาราเต้สายดำเผื่อนายยังไม่รู้” ฉันขู่เขาออกไปเผื่อจะทำให้เขารู้บ้างว่าฉันไม่ได้ไร้หนทางต่อสู้
“ฉันก็สายดำเรียนตอน ป. 3 กับอาจารย์ประยุทธเผื่อเธอยังไม่รู้ ไม่ใช่สิ เผื่อเธอจำไม่ได้เพราะเราเรียนคลาสเดียวกัน” เขาบอกพร้อมกับน้ำเสียงที่เหมือนกลั้นขำ เออว่ะฉันลืมไปได้ไงวะ โอ๊ย!
“ไปกินข้าวกันดีกว่าที่รัก มีแต่ของโปรดที่รักทั้งนั้นเลย” แอลฟ่าบอกฉันที่ยืนทำหน้าแตกต่อหน้าเขา
“ที่รักพ่อง!” ฉันพูดใส่หน้าเขาทันที กูต้องหยาบอีกกี่ครั้งกับคนอย่างมึง ไอ้แอลฟ่า! ไอ้หล่อหน้าด้าน! ไอ้หล่อสารเลว!
“หึ ๆๆ งั้นไปกินข้าวกันดีกว่า...เมียจ๋า” แอลฟ่าบอกแล้วก็ยักคิ้วข้างหนึ่งให้ฉัน
“ไอ้แอลฟ่า!” ฉันตะโกนใส่หน้าเขาทันที มันมาอารมณ์ไหนอีกฮะ กวนประสาท กวนตีน!
“หนวกหูว่ะมิลค์ ไม่หนวกหูบ้างเหรอปากกับหูอยู่ใกล้กันแค่นี้” แอลฟ่าพูดแล้วก็เอานิ้วมาจิ้มที่ปากกับหู ฉันอยากจะกรี๊ดใส่อีกครั้งแต่โดนเขาพูดแบบนี้เลยทำให้ฉันแค่ฟึดฟัดใส่เขาเท่านั้น
“หึ ๆๆ ไม่กรี๊ดหน่อยเหรอ เสียงเธอหนวกหูน่ารำคาญดีออก” แอลฟ่าพูดเสร็จก็ผละจากฉันแล้วเดินออกไปที่โต๊ะทานข้าวทันที
OoO!
“ไอ้แอลฟ่า!” ฉันตะโกนด่าเขาเสียงดังลั่นแต่เขาไม่ได้หันหน้ามามองเลยสักนิด มีแค่เสียงที่พูดไปเดินไป
“ด่าอีกรอบจะจูบให้เลือดกบปาก” กรี๊ด!!! อีมิลค์ทำได้แค่กรีดร้องในใจ ใครก็ได้ช่วยเอาเจ้ากรรมนายเวรตัวนี้อีกไปจากชีวิตฉันที!
ฉันนั่งจมปุกอยู่ที่เตียงไม่กงไม่กินมันหรอกอาหารที่ไอ้บ้านั่นซื้อมา ต่อให้หิวตายอีมิลค์ก็ไม่กินค่ะ นั่งคิดหาวิธีที่จะหลุดพ้นจากเขาดีกว่า
“มากินข้าวดิเฮ๊ย!” ฉันที่นั่งคิดหาวิธีอยู่บนเตียงก็แทบสะดุ้งเมื่อไอ้บ้านั่นตะโกนดังลั่นขึ้นมา โอ๊ย! มึงจะอะไรกับกูนักหนาวะ!
“ฉันไม่กิน!” ฉันตะโกนตอบไปทันที
“ไม่ออกมาจะเข้าไปเคี้ยวป้อน อย่าคิดว่าไม่กล้านะมิลค์” ไอ้บ้านั่นตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง แล้วคือฉันต้องยอมใช่ไหม?
“ตักข้าวสิ” ฉันเดินปึงปังไปนั่งลงที่เก้าอี้ที่บนโต๊ะมีอาหารประมาณหกเจ็ดจานมองดูผ่าน ๆ มันมีแต่เมนูโปรดฉันทั้งนั้น ซื้อมาประจบเหรอไอ้เลว มุกละครไทยมากค่ะแต่เสียใจมันใช้กับคนอย่างมิลค์ไม่ได้หรอก
“ใช้ผัวมันบาป” แอลฟ่าพูดขึ้นเบา ๆ พร้อมกับตักข้าวไปด้วย แต่ฉันได้ยินเต็มสองหู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: So Long ลารักร้ายผู้ชายสารเลว!