ผ่านมาสองอาทิตย์กว่า ๆ แล้วค่ะกับการที่ภายในห้องของฉันจะมีไอ้ไบโพล่าร์นามว่าแอลฟ่าอาศัยอยู่ด้วย ทุกพื้นที่ของห้องจะมีข้าวของต่าง ๆ ของมันวางอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นไฟแช็ค ปากกา กระเป๋า หนังสือ บุหรี่ โมเดลรถที่ชอบเป็นบ้าเป็นบอซื้อมาไม่รู้มันซื้อมาตั้งทำไมให้รกห้อง แล้วก็สารพัดบลา ๆๆ ยันกางเกงใน! วางไปทั่วเหมือนต้องการประกาศอาณาเขต เปรียบเทียบง่าย ๆ ก็เหมือนไอ้ตูบที่ฉี่ไปทั่วเพื่อประกาศถิ่นนั่นแหละ
เรื่องฉันกับแอลฟ่ามีแค่แมนนี่กับเพื่อนเขาคือออสตินกับเควินที่รู้นะคะ ส่วนมินตราฉันไม่บอกเพราะมันก็มีเรื่องไม่สบายใจไม่ค่อยโอเคในชีวิตอยู่เหมือนกัน ต้นเหตุก็เกิดมาจากไอ้ออสตินหนึ่งในสามหล่อเลวชั่วของรุ่นนี่แหละค่ะ เชื้อไม่ทิ้งแถว เลวกับเลวมันคบกันได้จริง ๆ
“เมื่อไหร่จะเลิกทำห้องรกทำไมนายไม่เก็บของให้เป็นที่แอลฟ่า” ฉันเดินเก็บโมเดลรถที่ไอ้บ้านี่มันเอามาวางเรียงกันเล่นใส่กล่องแล้วก็บ่น ฉันเป็นพวกรักความสะอาดมากไม่ชอบอะไรรกหูรกตา
“รกตรงไหนวะ เฮ้ย ๆ วางเรียงดี ๆ มิลค์นี่โมเดลรุ่นลิมิเต็ด” แอลฟ่ารีบเดินเข้ามาหาฉันเพราะเกิดเป็นห่วงไอ้โมเดลรถรุ่นคุณปู่ยี่สิบกว่าคันที่เขาซื้อมือสองมาในราคาเหมารวมแล้วแพงกว่ารองเท้าลูบูแตงของฉันซะอีก ปัญญาอ่อนมากไอ้เฒ่าทารก
“มันเก่าจนเป็นของเล่นขยะแล้วจะมาถนอมทำไม” ฉันโยนมันใส่กล่องทันทีพร้อมกับมองแอลฟ่าตาขวาง ไอ้บ้านี่เลยได้แต่มองตามตาละห้อย
“เธอแม่งไม่เข้าใจ” แอลฟ่าบ่นแล้วก็เดินมาแย่งกล่องใส่โมเดลรถไปจากมือฉัน
“เออฉันไม่เข้าใจ โตเป็นควายแล้วยังเล่นของเล่นอยู่ได้”
“เล่นที่ไหนฉันสะสมต่างหาก ก็เหมือนเธอสะสมชุดชั้นในวิคตอเรียซีเคร็ทนั่นแหละ” แอลฟ่าบอกแล้วก็ยกกล่องไปเก็บทันที ไอ้บ้าแอลลามปามจริง ๆ เลย เมื่อไหร่ฉันจะโยนเขาออกจากห้องได้สักทีโว๊ย!
#MILAN END
#ALPHA TALK
ผมนั่งเช็ดโมเดลรถที่โคตรหายากด้วยความทะนุถนอม กว่าจะได้เซ็ทนี้มายัยงี่เง่าไม่รู้รึไงวะว่าผมต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน แม่งอย่าให้เผลอจะเอาให้เคลิ้มเลย แต่ช่วงนี้ไม่ได้เอาครับได้ครั้งเดียวตอนนั้นก็จอดสนิท ถ้าจะทำยัยงี่เง่าก็สู้ผมไม่ได้หรอกแต่ไม่อยากบังคับจิตใจเธอไปมากกว่านี้แล้วเดี๋ยวเมียไม่กลับมารักง่าย ๆ
“มิลค์ไปกินข้าวกัน” ผมนั่งเช็ดโมเดลไปแล้วก็ชวนเธอไปกินข้าวด้วย เมื่อกี้เห็นรีวิวร้านอาหารดูท่าทางน่าอร่อยว่าจะชวนยัยงี่เง่าแถมขี้บ่นคนนี้ไปกินสักหน่อย แม่งบ่นดีฉิบหายบ่นจนทำให้ผมที่โคตรขี้เกียจพูดอะไรยาว ๆ ต้องพูดมากตามไปด้วย ผมว่าผมเริ่มติดเชื้อพูดมากจากยัยนี่แล้วครับ
“เชิญไปกินคนเดียวเถอะจ้ะ” มิลค์หันมาตอบผมด้วยรอยยิ้มกวนตีน หลัง ๆ ไม่ค่อยตะโกนตะคอกด่ากันแล้วครับ เริ่มคุยด้วยเสียงเลเวลปกติแต่กวนส้นตีนแทน แม่ง! ชวนไปกินข้าวทุกวันไม่เคยไปสักวัน
“ร้านปิ้งย่างซีฟู้ดโคตรน่ากิน” ผมบอกเธอเพราะยัยนี่ชอบกินซีฟู้ดมากเผื่อจะเปลี่ยนใจไปกินข้าวนอกบ้านกับผมสักมื้อ
“ที่ไหน” มิลานหันมาถามผมทันที หึ ๆๆ บอกแล้วยัยนี่ชอบกินผมก็เลยยื่นโทรศัพท์ที่ไม่เคยให้ใครมายุ่มย่ามให้เธอดูเพจหนึ่งที่เขารีวิวร้านนี้เอาไว้
“น่ากินอ่ะ” มิลานมองแล้วก็กดดูรีวิวไปเรื่อย เสร็จกูครับวันนี้จะได้ดินเนอร์กับเมียสักที ดินเนอร์แรกในรอบปีกว่า ๆ ของเรา ถึงแม้จะเป็นร้านบุฟเฟ่ต์เตาถ่านย่างไปหัวเหม็นไปก็เถอะ
“อยากกินไหม” ผมถามเธอพร้อมยิ้มเอ็นดู มิลานที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักครั้ง เวลาเห็นของโปรดเธอจะโฟกัสกับมันแล้วก็ตาเยิ้ม
“อยาก”
“ถ้างั้นก็ไปแต่งตัวเร็ว”
“ใครบอกฉันจะไปกับนาย ขอบใจนะจ้ะแอลฟ่าที่แนะนำร้านน่าอร่อยให้” มิลานบอกผมแล้วก็โยนโทรศัพท์คืนให้
“กวนตีน” ผมพูดออกมาเบา ๆ พร้อมกับจ้องหน้ายัยนี่ไม่วางตา
“แล้วแต่” มิลานบอกแล้วก็เบ้ปากยักไหล่ให้ผม แม่ง! อย่าให้ใจอ่อนนะยัยงี่เง่าถึงเวลานั้นเมื่อไหร่จะเอาให้คลานเลย
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
“ว่าไงคะเทย โทรมาทำไมนี่ไม่ใช่เวลากรวดน้ำ” มิลานรับโทรศัพท์ที่พอคุยคำแรกผมก็รู้ทันทีว่าเป็นแมนนี่ เมียผมแม่งไม่ได้เก่งแต่กับผัวนะครับกับเพื่อนแม่งก็โคตรปากหมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: So Long ลารักร้ายผู้ชายสารเลว!