ผมปลุกมิลาน แต่ปลุกเท่าไหร่เธอก็ไม่ยอมตื่นจนต้องตัดสินใจอุ้มยัยงี่เง่าของผมขึ้นมาส่งที่ห้อง แล้วก็จัดการเปิดแอร์พร้อมกับห่มผ้าให้เธอเรียบร้อย แต่พอจะหันหลังเดินออกมาจากห้องก็รู้สึกว่ายังกลับไม่ได้ครับ ผู้หญิงเวลาไปเที่ยวทำไมต้องแต่งหน้าจัดเต็มกันด้วยวะแล้วมิลานเป็นคนที่ใส่ใจกับความสะอาดของหน้ามาก เวลาจะอาบน้ำเธอจะเช็ดล้างเครื่องสำอางจนสะอาดหมดจด เธอเคยบอกว่าถ้าไม่เช็ดให้หมดผิวหน้าจะอุดตันเป็นสิวอักเสบได้เลยต้องเช็ดต้องล้างให้มันสะอาดที่สุด
บางทีผมแม่งก็ไม่เข้าใจผู้หญิงว่าจะทำให้ชีวิตตัวเองยุ่งยากทำไม จะต้องเสียเวลาแต่งหน้าเป็นชั่วโมงเพื่ออะไรกันเพราะสุดท้ายคนที่เป็นผัวก็ต้องเจอสภาพยัยเพิ้งหัวฟูหน้าสดเป็นอาซิ่มอยู่ดี แต่ถึงยังไงพวกผู้ชายอย่างเราก็รักเมียมาก รักมากจนทนเห็นหน้าสดได้แค่นี้ไม่พอเหรอวะ แต่ดีหน่อยที่เมียผมหน้าสดก็ยังสวย
“มันคือขวดไหนวะ!” เวลาผ่านมาหลายสิบนาทีตอนนี้ผมกำลังนั่งเป็นไอ้โง่ที่หยิบขวดเครื่องสำอางใส ๆ มากมายขึ้นมาดู แม่งเอ้ยทำไมกูต้องมาเป็นแมวแบบนี้ด้วย นั่งหยิบขวดนั้นขวดนี้ขึ้นมาอ่านสุดท้ายก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี แม่งจะเยอะไปไหนวะ
“เชี่ย Cleanser กับ Cleansing ต่างกันยังไงวะ” ผมนั่งพูดกับตัวเองเหมือนคนบ้าเลยครับ แล้วแม่งมีหลายแบบโคตร ๆ แบบน้ำ แบบแผ่น แบบเจล แบบน้ำมัน แบบโลชั่น แล้วก็แบบเนื้อครีม มิลานซื้อมาทำบ้าอะไรเยอะแยะวะ ผมเลือกไม่ถูกเลยตัดสินใจยกไปทั้งหมดนี่แหละ
ผมกวาดไอ้คลีนเซอร์คลีนซิ่งบ้าบอคอแตกเป็นสิบขวดมากองลงที่เตียงข้างมิลานแล้วก็ต่อสายถึงแมนนี่ทันที
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
ติ๊ด!
“ฮัลโหลแมนนี่”
“ฮัลโหลค่าแอลฟ่าที่รัก มีอะไรให้แมนนี่คนสวยรับใช้คะ” แมนนี่ตอบกลับมาเสียงหวานตามสไตล์นั่นแหละครับ
“แมนนี่ว่างรึเปล่า” ผมรีบถามแมนนี่ด้วยความเกรงใจ เพราะนี่มันก็ตีหนึ่งแล้ว
“ว่างเสมอค่ะ ขอแค่แอลฟ่าเรียกใช้ อิอิ”
“โอเค งั้นบอกหน่อยสิว่าต้องใช้อันไหนเช็ดเครื่องสำอางเดี๋ยวส่งไลน์ให้ดู”
“ฮะ! เดี๋ยว ๆ จะอยากรู้ไปทำไม” แมนนี่ถามด้วยน้ำเสียงสงสัยทันที เออเรื่องที่ผมหอบเสื้อผ้าออกมาจากห้องมิลานพอมันรู้มันก็โทรมาด่าผมทันทีครับที่ถอดใจง่าย ๆ แต่แมนนี่ก็คือแมนนี่ มันไม่เซ้าซี้อะไรแค่ด่าจนพอใจแล้วมันก็เคารพการตัดสินใจของเพื่อนเสมอ
“จะเช็ดเครื่องสำอางให้มิลค์”
“ฮะ! โอ้มายก๊อด อีดอก อีแอลฟ่า ไหนหอบผ้าหอบผ่อนถอยทัพแล้วยะ! ตกลงมึงเป็นไบโพล่าร์เหมือนที่เมียมึงเอามานินทาใช่ไหมคะ” แมนนี่กัดผมรัว แต่คำว่ามิลค์เอาผมไปนินทาว่าเป็นไบโพล่าร์นี่มันยังไงวะ
“ไม่ใช่แบบนั้น มิลค์ไปกินเหล้าที่ผับคนเดียวไอ้เควินมันโทรบอกเลยตามไปดูแต่เห็นเมาเลยพามาส่ง นี่ก็หลับไปแล้ว” ผมรีบอธิบายให้แมนนี่ฟัง
“โถ~ จะตัดก็ตัดให้ขาดค่ะลำไย ไม่ใช่หอบผ้าหนีแต่ยังตามไปเฝ้าเป็นเงาแบบนี้ แล้วนี่ยังไงเมาก็ปล่อยมันนอนสิคะไปวุ่นวายอะไรต่อเพื่อ?”
“เออน่าบอกมาเหอะ” ผมบอกปัดไปเพราะจะให้พูดว่ายังไงครับ บอกแมนนี่ว่า กูปล่อยไม่ได้ครับนี่เมียกู ห่างกันกูก็จะคอยตามเฝ้าไปเรื่อย ๆ แบบนี้เหรอ ไม่ได้หรอกผมก็เกรงใจคนที่นอนเมาอยู่ตรงนี้เหมือนกัน
“ก็ปล่อยให้มันนอนตายเป็นชะนีหน้าหนาด้วยแป้งและรองพื้นไปเถอะคะ หรือไม่ก็เอาทุกอย่างเทรวมกันแล้วก็เช็ด ๆ ไป อีดอกจะมากลัวเมียเป็นสิวอะไรตอนนี้คะ ให้มันเป็นบ้างเถอะมันจะได้รู้จักสิวกับชาวบ้านชาวช่องเขาบ้าง”
“พรุ่งนี้น้ำหอม Creed ทุกกลิ่นจะส่งตรงไปถึงหน้าห้อง”
“โอเคค่ะแอลฟ่าที่รักส่งรูปมาให้แมนนี่เลยค่ะ” แมนนี่แม่งเปลี่ยนน้ำเสียงเร็วยิ่งกว่า 4G หลังจากนั้นผมก็ได้รู้สักทีว่าควรใช้ตัวไหนเช็ดหน้าให้เธอ ก่อนที่จะค่อย ๆ เช็ดเครื่องสำอางอย่างเบามือจนมองเห็นใบหน้าใส ๆ ของมิลาน
“อื้อ! จะนอน!” เสียงยัยงี่เง่าดังขึ้นแล้วก็ปัดมือผมออกด้วยความรำคาญ
“อยู่เฉย ๆ เถอะน่ายัยขี้เมา” ผมบอกเธอเบา ๆ แล้วก็ยิ้มให้ เวลานอนเหมือนเด็กชะมัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: So Long ลารักร้ายผู้ชายสารเลว!