So Long ลารักร้ายผู้ชายสารเลว! นิยาย บท 31

สรุปบท EP : 31: So Long ลารักร้ายผู้ชายสารเลว!

EP : 31 – ตอนที่ต้องอ่านของ So Long ลารักร้ายผู้ชายสารเลว!

ตอนนี้ของ So Long ลารักร้ายผู้ชายสารเลว! โดย Phat_sara ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง EP : 31 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“มึงพี่ธามเขาจะรู้ตัวไหมว่าเราแอบตามเขาอยู่” ฉันถามอีแมนนี่ที่เอาแต่จ้องถนนและมองรถพี่ธามไม่ให้คลาดสายตา ฉันกับมันขับตามพี่ธามมาได้ระยะหนึ่งแล้ว

“นี่ตอนกลางคืนค่ะอีมิงค์มันจะสังเกตเห็นไหมว่าคันไหนขับตาม นี่ชีวิตจริงไม่ใช่ละครที่มองกระจกหลังครั้งเดียวแล้วรู้ตัว” อีแมนนี่กัดฉันแล้วก็ขับตามพี่ธามไปเรื่อย ๆ

“ไหนบอกกูว่าจะกลับบ้านวะคะ นี่มาผับชัด ๆ” ฉันพูดออกมาด้วยความเจ็บใจ ไม่รู้ที่ผ่านมาไอ้พี่ธามหลอกฉันมากี่เรื่องแล้ว

“มันตอแหลไงคะ มึงยังจะกล้าเชื่อคำพูดมันอีกเหรอ”

ฉันกับแมนนี่เว้นระยะห่างพอสมควรแต่พี่ธามไม่ได้เลี้ยวเข้าไปจอดรถหรอกเขาเปิดไฟฉุกเฉินเหมือนกำลังจอดรถรอคน สักพักก็มีคนเดินมาขึ้นรถสองคนแต่มองหน้าไม่ชัดเพราะมันมืด

“ไปแล้ว ๆ อีแมน เร็วเลยค่ะเทย” ฉันบอกอีแมนนี่แล้วเราก็รีบดิ่งไปทันทีจนกระทั่งรถพี่ธามไปจอดอยู่ที่ร้านกาแฟร้านหนึ่งที่เปิด 24 ชั่วโมง

“มึงกูตื่นเต้นว่ะ วันนี้จะได้เรื่องไหม” ฉันหันไปถามอีแมนนี่ ตอนนี้ฉันกับมันจอดรถเรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนพี่ธามก็คงเข้าไปในร้านเรียบร้อยแล้วมั้งเพราะเมื่อกี้ทิ้งระยะห่างให้เขาเลี้ยวเข้ามาในร้านก่อนพอสมควร

“ใจเย็นมึง กูว่าคนที่มันไปรับต้องเป็นอีเมียมันนั่นแหละ รอก่อนเผื่อมันแค่แวะเข้าไปซื้อกาแฟ เดี๋ยวไปโป๊ะแตกเจอกันตรงประตูร้านนะคะ แต่กูว่ากูแอบย่องไปดูดีกว่ากูมีแมส รอกูที่รถกูโทรเรียกแล้วมึงค่อยลง” อีแมนนี่บอกฉันแล้วก็รีบลงรถทันที

ทำไมฉันต้องมาเสียเวลานอนเพื่อขับรถตามไอ้บ้านี่ด้วยวะ นึกแล้วโคตรขำตัวเองเลย แล้วก็ทำตัวอย่างกับเป็นสายลับจับบ้านเล็กอีกต่างหาก ทั้งที่ไม่รู้ว่าความจริงไอ้พี่ธามมันวางตัวให้ใครเป็นบ้านเล็กของมันกันแน่ คนนั้นหรือฉัน?

ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด

“ฮัลโหลเอาไงมึง”

“มาค่ะทางสะดวก มันไปนั่งคุยกันในสวน” อีแมนนี่พูดกระซิบกระซาบฉันเลยรีบลงรถแล้วเดินไปตามทางที่อีแมนนี่บอกทันที

“มึง ไหน ๆ” พอเดินมาก็เห็นแมนนี่ที่มองหาฉันอยู่ก่อนแล้ว มันกวักมือเรียกฉันทันทีที่เห็นแล้วก็ชี้ไปที่กำแพงต้นไทรเกาหลี

“มันอยู่ในกำแพงเหรอ” ฉันถามด้วยความงงทันทีทำเอาอีแมนนี่เบ้ปากทำหน้าเอือม

“อีดอก มันอยู่อีกฝั่ง โต๊ะด้านหลังน่ะ มันมีกำแพงต้นไม้กั้นเข้าใจไหม” อีแมนนี่พูดเสียงเบาฉันถึงได้เข้าใจ เออร้านนี้ตกแต่งเป็นส่วนตัวดีจังเลย มันดูเหมาะสำหรับการนั่งชิว อ่านหนังสือ หรือคุยธุระเพราะมันเงียบเป็นส่วนตัวมาก

“ตกลงจะเอายังไงคะพี่ธาม” พอฉันกำลังจะพูดอะไรกับอีแมนนี่ต่อเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นซึ่งฉันมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจำเสียงนี้ได้ เสียงยัยแพรวอะไรนั่นที่เดินชนฉันไง

“เสียงอีคนที่เดินชนกู” ฉันกระซิบบอกแมนนี่ทันทีแล้วก็หูผึ่งกันทั้งสองคนเพื่อตั้งหน้าตั้งตาฟัง แต่มันแค่ฟังไม่ได้ฉันเลยหยิบโทรศัพท์มาถ่ายวีดีโอ

“พี่ เอ่อ...” เสียงพี่ธามพูดออกมาเบา ๆ เหมือนกำลังน้ำท่วมปากอะไรแบบนั้น

“เชี่ยเมมเต็ม อีแมนนี่ยืมโทรศัพท์” ฉันบ่นออกมาเบา ๆ แล้วหันไปยืมโทรศัพท์อีแมนนี่

“แบตกูเหลือห้าเปอร์เซ็นต์” เวรแล้วไงแล้วจะเก็บหลักฐานยังไงดีวะ แต่พอนึกอะไรบางอย่างออกก็กดโทรศัพท์ยิก ๆ เอาแบบนี้แหละมิลค์เวลานี้คงไม่มีใครมานั่งดูหรอกมั้ง...นะ

“พูดมาเถอะค่ะ จะเอายังไงก็พูดมา คนที่รอฟังพี่ตัดสินใจมันเจ็บจะตายอยู่แล้ว” ยัยแพรวพูดเสียงเข้มขึ้นอีก มันคุยเรื่องอะไรกันวะ

“พี่...เฮ้อ! เราก็รู้ว่าพี่มีเหตุผลของพี่”

“พี่ธามบอกจะกลับมาหาเมียเพราะจะมาฉลองวันเกิดด้วยกัน จะไม่ให้ผู้หญิงคนนั้นรู้ แต่นี่อะไรคะแค่พี่เห็นรูปอีนั่นกับผู้ชายคนอื่นพี่ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนต้องแสดงตัวให้มันรู้ว่าพี่มาเมืองไทย ตกลงพี่คิดอะไรกับมันรึเปล่า”

ฉันแอบฟังด้วยใจที่สั่นระทึก เอาแล้วแอบนินทากูเหรอ แสดงว่าอีตัวเมียนี่รู้ดีเลยใช่ไหมว่าผัวมึงมาคบกับกูเนี่ย! ดีค่ะ กูอุตส่าห์จะจัดการไอ้ตัวผู้แค่คนเดียว พูดมาแบบนี้เหมือนมาคบอีมิลค์เพราะหวังผลประโยชน์อะไรสักอย่างทั้งสองคนก็เจอดีมันทั้งสองคนปเลย

สั่นแล้วค่ะ ตัวสั่นเพราะความโกรธแทบสงบสติอารมณ์ไม่อยู่จนอีแมนนี่ต้องเห็นมาพูดเบา ๆ ว่าให้เย็นไว้ก่อน

“ก็จะให้ทำยังไง ถ้าพี่ไม่เคลียร์ให้ชัดแล้วเกิดเขาทิ้งพี่กลับไปคบคนเก่าล่ะ” พี่ธามพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็ง ไม่ได้ไพเราะเหมือนเวลาที่เขาพูดกับฉันเลยสักนิด

“ก็หาคนใหม่สิคะ ทำไมต้องทำเหมือนมีใจให้มันด้วย”

“แล้วจะมีใครเพียบพร้อมแบบมิลค์ไหมล่ะ” เชี่ยยิ่งฟังยิ่งงง ทำไมต้องเป็นกูคะ ทำไมต้องหาคนเพียบพร้อม คืออะไรไม่เข้าใจ จะคบกับฉันเพราะฉันรวยเหรอ ไม่นะไอ้พี่ธามนี่ก็บ้านรวยนะคะ ลูกเจ้าของโรงแรมใหญ่ที่ฉันก็ไม่ได้เห็นว่าจะมีท่าทีว่าธุรกิจจะล้มอะไรเลย

“แล้วตกลงกับมันว่ายังไงคะ” อีแพรวถามขึ้นอีก มึงไม่รู้จักกูแถมพวกมึงยังรวมหัวกันหลอกกูแต่มาเรียกกูว่ามันว่าอีนี่นะ อีผี!

“พี่จะหมั้นกับมิลค์ให้เร็วที่สุด” พี่ธามหยุดนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะตอบออกมา

“ฮึก! ฮื่อ~” พอพี่ธามพูดจบก็มีเสียงร้องไห้ดังออกมาเบา ๆ เอ้า! อีบ้าร้องไห้ซะงั้น จะร้องทำไม ทำไมไม่ร้องตั้งแต่ผัวมึงมาจีบกูคะ!

“ที่รักอย่าร้องไห้ครับ หนูก็รู้ว่าพี่รักหนูคนเดียว หนูเป็นเมียพี่เข้าใจไหม แต่พี่ต้องหมั้นกับเขาเพราะความจำเป็น” จากเสียงแข็งของพี่ธามก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที อีดอก~ กูไม่ไหวแล้วโว๊ย!

“ไอ้ธาม มึงหลอกกู!” ฉันพุ่งออกไปแสดงตัวพร้อมกับตะโกนออกมาด้วยความโมโห แม้แต่อีแมนนี่ก็ห้ามไว้ไม่ทัน แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ฉันกับอีแมนนี่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูกไปเลย

“ว๊าย! อีดอก!” เสียงอีแมนนี่ดังขึ้นด้วยความตกใจที่เห็นภาพตรงหน้าเพราะมันเป็นภาพที่อียัยแพรวนั่งอยู่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม นิกกี้เพื่อนอียัยแพรวแล้วก็เป็นเพื่อนที่รู้จักกับอีแมนนี่นั่งอยู่อีกฝั่งโดยที่มีไอ้พี่ธามมันนั่งกอดแล้วก็เช็ดน้ำตาให้ พอพวกมันสามคนเห็นฉันกับแมนนี่ก็ตกใจไม่ต่างกัน

“มิลค์!” พี่ธามรีบผละจากนิกกี้ที่นั่งร้องไห้น้ำตาไหลพรากแล้วลุกขึ้นทันที ส่วนนิกกี้ก็มองการกระทำของพี่ธามด้วยแววตาเจ็บปวดมั้งนะ ฉันดูแววตาคนไม่ออกขนาดนั้นหรอกแต่เดาเอา

“ไม่ใช่ครับมิลค์”

“พี่กลัวพ่อแม่พี่ครอบครัวพี่รู้เรื่องที่พี่เป็นเกย์ใช่ไหมคะ” ฉันพูดต่ออีก กูจะกดดันมึงให้ดู

“ไม่มิลค์ พี่รักมิลค์จริง ๆ” พี่ธามยังคงปฏิเสธอยู่ท่าเดียว ดีค่ะ ด้านดี

“พี่เลือกมิลค์เพราะอะไร ทำไมต้องเป็นมิลค์ อ้อ! มิลค์รู้แล้ว เพราะมิลค์คงพอจะสู้กับผู้หญิงที่พ่อแม่พี่เลือกไว้ให้ใช่ไหม เลือกเองดีกว่าพ่อแม่เลือกให้เพราะต่อไปพี่จะได้ไม่อึดอัดถ้าต้องอยู่ด้วยกัน” ฉันพูดต่อเพราะฉันเองก็อยู่ในแวดวงไฮโซเรื่องแบบนี้เดาไม่ยากหรอก

“ไม่ใช่ครับมิลค์ มันไม่ใช่แบบที่มิลค์คิดจริง ๆ ขอร้องฟังพี่ก่อน”

“มันใช่ค่ะ มันใช่แบบที่มิลค์คิดแน่นอน พี่เอามิลค์มาเพื่อปิดบังตัวตนของพี่ว่าพี่เป็นเกย์!” ฉันตะโกนใส่เขา ฉันไม่เคยรังเกียจเพศที่สาม ตรงกันข้ามฉันรู้สึกดีกับพวกเขามากด้วยซ้ำ แถมฉันยังมีเพื่อนที่ฉันรักมากเป็นเพศที่สามด้วย แต่ฉันรังเกียจคนที่ไม่ยอมรับตัวตนของตัวเอง ไม่ยอมสู้เพื่อให้ได้อิสรภาพทางการใช้ชีวิตของตัวเองแต่กลับเลือกดึงคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยไปเป็นเครื่องมือเพื่อให้ตัวเองมีความสุข

“พี่ไม่ได้เป็นเกย์” พี่ธามปฏิเสธเสียงแข็งส่วนนิกกี้ก็ร้องไห้โฮออกมาเสียงดังทันที มันคงจี้ใจของนิกกี้พอตัวอยู่เหมือนกัน

“พี่เป็น ถ้าไม่เป็นพี่จะมีนิกกี้เป็นเมียได้ไง” ฉันพูดขึ้นเสียงดังเหมือนกัน

“พี่ไม่ได้เป็น แล้วนิกกี้กับพี่ก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน นิกกี้บอกมิลค์ไปสิว่าเรากับพี่เป็นแค่คนรู้จักกัน” พี่ธามรีบหันไปบอกนิกกี้ที่เอาแต่ร้องไห้ ช็อตนี้ทำไมฉันเริ่มสงสารนิกกี้แล้วก็ไม่รู้

“บอกสิวะนิกกี้ บอกสิ!” นิกกี้เอาแต่ร้องไห้พี่ธามก็เลยไปกระชากแขนแล้วก็เขย่าแรง ๆ

“บอกสิวะ กูบอกให้บอกมิลค์ไง มึงกับกูไม่ได้เป็นอะไรกัน บอกสิ!” พี่ธามเหมือนกำลังโมโหที่นิกกี้ไม่ยอมพูดแถมยังเอาแต่ร้องไห้เลยตะคอกนิกกี้แล้วก็จับไหล่นิกกี้เขย่าเต็มแรง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย

“หยุดเถอะพี่ธาม!” ฉันตะโกนขึ้นมาด้วยความเหลืออด

“วันนี้มิลค์เห็นธาตุแท้ของพี่ธามแล้วค่ะ ไม่ว่าพี่จะยอมรับหรือไม่ยอมรับก็ตามแต่มิลค์บอกได้คำเดียวว่าพี่ธามโคตรเห็นแก่ตัวเลย” ฉันพูดขึ้น แม่งเห็นแก่ตัวจริง ๆ ทั้งกับฉันแล้วก็นิกกี้ เหมือนเขาทำได้ทุกอย่างเพื่อปกปิดตัวตน แม้แต่ทำร้ายจิตใจของแฟนตัวเองก็ยอม

“มิลค์! พี่บอกให้ฟังพี่ไง” พี่ธามเริ่มเสียงดังใส่ฉันบ้าง คงโมโหที่ฉันไม่ยอมเชื่อเขา

“มิลค์ไม่ฟังคะ เพราะมิลค์มั่นใจแล้วว่าตัวตนของพี่เป็นยังไง มิลค์โคตรขยะแขยงเลย แต่ไม่ได้ขยะแขยงรสนิยมของพี่นะคะ มิลค์ขยะแขยงความเห็นแก่ตัวของพี่ต่างหาก” ฉันพูดช้า ๆ แล้วก็มองเขาด้วยความเกลียด ส่วนพี่ธามก็นิ่งไปแต่ฉันเห็นว่าตัวเขาเริ่มสั่นก่อนที่เขาจะตะโกนเสียงดังใส่ฉัน

“เออพี่เป็นเกย์! แล้วยังไงฮะ! เธอเองก็ไม่ได้สะอาดบริสุทธิ์ คิดว่าพี่จะดูไม่ออกเหรอว่าเธอแม่งไม่สดไม่ซิง ผู้หญิงที่โดนแฟนเก่าฟันแล้วทิ้งผู้ชายที่ไหนจะอยากได้ไปเป็นเมียวะ ถ้ากูไม่มาสงเคราะห์รับช่วงต่อใครจะเอาผู้หญิงมีตำหนิแบบมึง!”

“มึงด่าเมียกูว่าไงนะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: So Long ลารักร้ายผู้ชายสารเลว!