ห้องโถงวุ่นวาย ผู้คนต่างวางแก้วเหล้าลงแล้วเดินเข้าไปดูกันให้เห็นกับตา
“โทรเรียก 1669 หรือยัง?”
“1669 จะมาเมื่อไหร่? ถ้าเกิดคุณหานเป็นอะไรไปที่นี่ ครอบครัวคุณหานคงไม่ปล่อยเราไปแน่!”
ฉู่เหมียนเงยหน้ามอง ชายคนนั้นอายุราวห้าสิบกว่าปี ตอนนี้เขานอนอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าซีดเผือด
ฉู่เหมียนดูเวลา ที่นี่ห่างจากโรงพยาบาลเมืองสิบห้านาทีถ้าเดินทางโดยรถยนต์ แถมยังเป็นช่วงเวลาที่รถติดมากพอดี
ถ้ารอรถพยาบาลมากลัวว่าจะไม่ทันแล้ว
ไม่มีใครในโรงแรมมาจัดการสักที เห็นได้ชัดว่าอาการของชายคนนั้นแย่ลงเรื่อย ๆ ฉู่เหมียนที่เรียนวิชาแพทย์มาตั้งแต่เด็กเริ่มใจร้อน
ฉู่เหมียนขมวดคิ้ว เดินเข้าไป “ให้ฉันดูหน่อย”
สายตาของผู้คนต่างจ้องมาที่ฉู่เหมียนในทันที ฉู่เหมียนเหรอ?
“เธอทำได้เหรอ? ใคร ๆ ก็รู้ว่าตระกูลฉู่ของเธอเป็นตระกูลนักวิชาการแพทย์ แต่มีเธอคนเดียวที่เป็นแจกันประดับ ไม่มีวิชาแพทย์ติดตัวเลย!”
ไม่รู้ว่าใครพูดขึ้น จากนั้นก็มีคนจำนวนหนึ่งตะโกนโวยวายตามมา
“นั่นสิ! ชีวิตคนนะ ยกคุณหานให้เธอรักษาเหรอ นั่นไม่ต่างอะไรกับการผลักคุณหานลงเหว!”
“ถ้าคุณหานเป็นอะไรไป เธอรับผิดชอบไหวเหรอ? นี่ไม่ใช่ของเด็กเล่นนะ!”
“ห้ามเธอรักษาคุณหานเด็ดขา่ด ไล่เธอออกไป!”
ฝูงชนโห่ร้องครึกโครมราวกับเป็นการกลั่นแกล้งที่วางแผนไว้ เสียงซักถามเต็มไปด้วยความสงสัย
ฉู่เหมียนยังไม่ทันได้แตะตัวใครเลยก็ถูกผลักออกไปแล้ว
“แต่เรารอช้าไม่ได้แล้วนะคะ!” ฉู่เหมียนขมวดคิ้วแน่น
“ถึงจะตาย เราก็ไม่ขอให้แจกันประดับไร้ค่าอย่างเธอมาช่วย!”
เสียงของผู้หญิงคนนั้นแหลมสูง ไหล่ของฉู่เหมียนถูกผลัก
ถึงจะตาย ก็ไม่ยอมให้เธอช่วย
ประโยคนี้เหมือนมีดกรีดหัวใจของฉู่เหมียนอย่างรุนแรง ทำให้เธอสงบลงในทันที
ฉู่เหมียนเซถอยหลังไปสองก้าว ฝูงชนที่อัดแน่นขวางทางเธออยู่
เธอเงยหน้ามองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของทุกคน หัวใจชาไปหมด
ไร้ค่า?
แจกันประดับ?
ตั้งแต่เด็กจนโต เมื่อไหร่กันที่เธอเคยถูกตั้งคำถามเรื่องทักษะทางการแพทย์?
แค่สามปีที่ไม่ได้ออกงานสังคม ทำไมชื่อเสียงของเธอถึงได้แย่ขนาดนี้?
“ฉันเป็นหมอ ฉันเองค่ะ!”
เสียงนี้เด็ดเดี่ยวเป็นพิเศษ พริบตาเดียวก็ดึงดูดความสนใจจากทุกคนได้สำเร็จ ทุกคนหันมองด้วยความประหลาดใจ
ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นลู่เจียว
ผู้คนรอบข้างต่างตื่นเต้น “คุณหนูลู่อยู่ที่นี่ทั้งคน คุณหานรอดแน่ เธอเป็นหมอศัลยกรรมหัวใจ!”
“คุณหนูลู่กล้าหาญมากที่ยืนหยัดในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้! สมกับในข่าวจริง ๆ คนสวยใจบุญ!”
ลู่เจียวราวกับเทพธิดาที่ลงมาโปรดสัตว์โลก ร่างกายเต็มไปด้วยออร่า ผู้คนจำนวนมากต่างยกย่องเธอตาม ๆ กันทันที
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การที่ฉู่เหมียนพุ่งเข้ามาก่อนหน้านี้กลายเป็นเรื่องไร้ค่า กลับกลายเป็นหนูในท่อระบายน้ำที่ผู้คนต่างตะโกนด่าทอ
ลู่เจียวคุกเข่าลงข้าง ๆ คุณหาน หยิบยารักษาโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันที่อยู่ในกระเป๋าออกมา สั่งว่า
“รบกวนทุกคนขยับออกห่างหน่อยค่ะ อย่าเข้ามาใกล้เกินไป”
“ญาติของคนไข้อยู่ไหมคะ? คนไข้มีประวัติโรคอะไรบ้างนอกจากโรคหัวใจ?” ลู่เจียวถามไปทั่ว แต่ไม่มีใครตอบ
“ผู้ช่วยของคุณหานมีธุระ เพิ่งจะออกไปก่อนหน้านี้ไม่นาน โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ค่ะ!” คนที่อยู่ด้วยกันตอบ
ลู่เจียวไม่สนใจเรื่องอื่นอีกต่อไป หลังจากป้อนยารักษาโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันแก่คุณหานก็ทำการปั๊มหัวใจ
งานเลี้ยงวันนี้มีคนดังมาร่วมมากมาย โอกาสเช่นนี้สำหรับลู่เจียวแล้วเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการแสดงตัว
เธอต้องพิสูจน์ให้คนในตระกูลกู้เห็น ว่าเธอ ลู่เจียวไม่ได้ด้อยไปกว่าฉู่เหมียน เธอต้องแต่งเข้าประตูบ้านตระกูลกู้ให้ได้
เวลาผ่านไปหลายนาที ทุกคนต่างก็ร้อนรน
กู้ว่างเชินยิ่งขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าเป็นห่วงคุณหานหรือเป็นห่วงลู่เจียว
ในตอนที่ทุกคนกลั้นหายใจอยู่ ก็มีคนร้องขึ้นว่า “ขยับแล้ว! ขยับแล้ว!”
นิ้วของชายคนนั้นขยับสองสามครั้ง แล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้น สีหน้ายังซีดเซียวอยู่
ลู่เจียวถามเสียงเบา “คุณหานเป็นยังไงบ้างคะ? ดีขึ้นหรือยัง?”
ชายคนนั้นขมวดคิ้ว มือข้างหนึ่งกุมหน้าอก
ลู่เจียวพูดขึ้นทันที “รถพยาบาลน่าจะใกล้มาถึงแล้ว คุณปลอดภัยแล้วนะคะ!”
เมื่อพูดจบ ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นในงาน จากนั้นก็มีเสียงสรรเสริญตามมา
“รถพยาบาลยังมาไม่ถึง ถ้าไม่มีคุณหนูลู่ ไม่อยากจะนึกภาพเลย!”
“คุณหนูลู่เก่งมากจริง ๆ ไม่เหมือนบางคน...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ