กลางดึก ที่ชั้น 33 ของโรงแรมเซิ่งหลุน
งานเลี้ยงกำลังดำเนินอยู่ ส่วนด้านนอกหน้าต่างบานใหญ่ทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันพลุกพล่านของเมืองอวิ๋น
งดงามจับใจ
เสียงเปียโนอันไพเราะลอยมาเข้าหู ฉู่เหมียนเอนกายพิงเคาน์เตอร์บาร์อย่างเกียจคร้าน แกว่งแก้วไวน์แดงในมือไปมาอย่างเบื่อหน่าย ดวงตาอันเย้ายวนเหลือบมองไปรอบ ๆ เป็นครั้งคราว
สายตาของชายหนุ่มในงานต่างก็จ้องมองเธออย่างหิวกระหาย พวกเขาต้องการจะเข้ามาพูดคุย แต่ไม่มีใครกล้า
วันนี้เธอสวมชุดเดรสยาวสีดำสายเดี่ยว ชายกระโปรงออกแบบให้มีระบายเล็กน้อย เผยให้เห็นปลีน่องขาวเนียนสวย
ชุดเดรสยาวทรงหลวมห้อยอยู่บนร่างของเธออย่างลงตัว อวดให้เห็นสัดส่วนร่างกายที่สมบูรณ์แบบอย่างชัดเจน ผมหยิกยาวสลวยแผ่ลงมากลางหลัง รอยสักรูปผีเสื้อปรากฏให้เห็นราง ๆ ดูโดดเด่นเกินกว่าจะละสายตา
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉู่เหมียนก้มดู เป็นข้อความ
ฉู่เทียนเหอ [ ถึงงานเลี้ยงหรือยัง ]
ฉู่เหมียนถอนหายใจ ตอบกลับข้อความ [ ค่ะ ]
เมื่อคืนนี้ฉู่เทียนเหอเป็นคนมารับเธอกลับบ้าน ตอนที่เธอเมาได้ที่เขาก็เกลี้ยกล่อมให้เธอยอมมาร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้และยังจะจัดแจงจับคู่ให้เธออีก
ประเด็นสำคัญคือเธอดันเผลอตกลงไปจริง ๆ
คววามเมาทำให้เกิดเรื่องยุ่งยากตามมาไม่รู้จบ!
"ฉู่เหมียน?" จู่ ๆ ก็มีเสียงพูดภาษาจีนที่ไม่ค่อยคล่องปากดังขึ้นจากข้างหู
ฉู่เหมียนหันศีรษะไปมองเล็กน้อย เห็นชายหนุ่มชาวต่างชาติผมสีทองตาสีฟ้า
ชายหนุ่มเบิกตาโตด้วยความประหลาดใจ พูดว่า "คุณจริง ๆ ด้วย?"
ฉู่เหมียนก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน "จอห์น? มาที่นี่ได้ยังไงคะ?"
ผู้ช่วยของจอห์นอดสงสัยไม่ได้ "คุณจอห์น รู้จักกับคุณฉู่ด้วยเหรอครับ?"
ฉู่เหมียนยิ้ม เมื่อห้าปีก่อนตอนที่เธอไปเที่ยวต่างประเทศ จอห์นประสบอุบัติเหตุก็ได้เธอเป็นคนช่วยเขาไว้
ผู้ช่วยอธิบายว่า "คุณจอห์นเป็นแขกรับเชิญพิเศษของงานเลี้ยงในวันนี้ครับ คุณฉู่อาจจะไม่ทราบแต่ตอนนี้เขาเป็นนักลงทุนด้านการเงินมือฉมังที่โด่งดังในต่างประเทศ”
ฉู่เหมียนรู้สึกมึนงง ไม่น่าเชื่อว่าจอห์นที่เธอรู้จักจะเก่งขนาดนี้
เมื่อห้าปีก่อน เขายังเป็นแค่คนจรจัดที่ไม่มีแม้แต่บ้านซุกหัวนอน ต้องออกไปขอทานข้างนอก
จอห์นโบกมือ เขามีนิสัยถ่อมตัวและขี้อายเหมือนเด็กหนุ่ม "ผมไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกครับ ตอนนั้นต้องขอบคุณ ฉู่เหมียนมาก ๆ..."
ถ้าไม่มีฉู่เหมียน เขาคงนอนตายอยู่ใต้สะพานนั้นไปแล้ว ฉู่เหมียนเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขาไว้
"คุณมาประเทศจีนครั้งนี้มีธุระอะไรเป็นพิเศษเหรอคะ?" ฉู่เหมียนถามอย่างสุภาพ
จอห์นกำลังจะตอบ แต่แล้วก็ชี้ไปที่ชายหนุ่มที่เดินเข้ามาจากทางประตูด้วยรอยยิ้ม กล่าวอย่างร่าเริงว่า "มาเพื่อเจรจาความร่วมมือกับคุณกู้น่ะครับ"
เมื่อฉู่เหมียนได้ยินคำนี้ เธอก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
คุณกู้ ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองอวิ๋นก็มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้น
ฉู่เหมียนเงยหน้าขึ้นมองออกไปด้านนอก แล้วก็เห็นคนที่เธอไม่อยากเจอที่สุดนั่นก็คือกู้ว่างเชิน
ชายหนุ่มสวมชุดสูทสั่งตัด รูปร่างสูงเพรียวสง่า ไหล่กว้าง เอวคอด สัดส่วนดีมาก
ทันทีที่เข้ามาในงานเลี้ยง เขาก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคน หลายคนเข้ามาทักทายเพื่อสร้างความคุ้นเคย หวังว่าจะได้มีความสัมพันธ์ด้านธุรกิจกับกู้ว่างเชิน
อย่ามองว่าเขาอายุยังน้อย เพราะสถานะของเขาในแวดวงธุรกิจนั้นมั่นคงมาก แม้แต่รุ่นพี่ที่อาวุโสกว่ายังต้องเรียกเขาว่าคุณกู้ด้วยความเคารพ
ในสายตาของฉู่เหมียน นอกจากเรื่องที่กู้ว่างเชินไม่รักเธอแล้ว ก็ไม่มีข้อบกพร่องใด ๆ ที่จะยกมาติเตียนได้
ข้างกายเขายังมีหญิงสาวในชุดเดรสสีขาวคนหนึ่ง เธอคือลู่เจียวลูกสาวของบริษัทตระกูลลู่
ตระกูลลู่มีภูมิหลังที่โดดเด่น เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองอวิ๋น พ่อแม่ของตระกูลลู่ตามใจลูกสาวมาก
ลู่เจียวมีพี่ชายสามคน ทุกคนต่างก็รักและตามใจลู่เจียวมากเช่นกัน
ฉู่เหมียนและลู่เจียวเป็นเพื่อนกันมาหลายปี แต่ดันโชคร้ายไปชอบผู้ชายคนเดียวกัน
นอกจากจะไม่ได้รับความรักแล้ว ยังสูญเสียมิตรภาพไปด้วย
เธอเป็นผู้แพ้อย่างสิ้นเชิง
ลู่เจียวเกี่ยวก้อยกับกู้ว่างเชิน ทั้งคู่สบตากัน กู้ว่างเชินแสดงอารมณ์ผ่อนคลายออกมา
ทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าลู่เจียวเขามักจะอ่อนโยนเสมอ
ฉู่เหมียนมองฉากนี้ หัวใจของเธอเจ็บปวดรวดร้าว
หลังจากแต่งงานกับกู้ว่างเชินมาหลายปี เขาไม่เคยยิ้มให้เธอแบบนี้เลย
ราวกับว่าการแต่งงานของทั้งสองไม่เคยได้รับการยอมรับจากเขา
"ฉู่เหมียนครับ นั่นไงคุณกู้ เขาดังมากเลยนะ ผมจะพาคุณไปทำความรู้จักกับเขาสักหน่อย" จอห์นจับมือ
ฉู่เหมียนเดินไปทางกู้ว่างเชิน
ฉู่เหมียนหัวเราะ เธอยังต้องทำความรู้จักกับกู้ว่างเชินอีกเหรอ
ตลอดเจ็ดปี เธอเคยเห็นมุมอ่อนโยนและมุมที่กระตือรือร้นของเขา เคยเห็นมุมเย่อหยิ่งและมุมที่สง่างามของเขา ทั้งยังเคยเห็นมุมไร้หัวใจและมุมที่เขาใช้คำพูดคำจารุนแรง
เธอรู้จักกู้ว่างเชินดีกว่าใคร ๆ
"ไฮ คุณกู้!" จอห์นร้องเรียกกู้ว่างเชิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ