หลินหยางเหลือบตามองเธอ: "เดี๋ยวผมไม่ไปบ้านตระกูลซูแล้ว คุณจะไปกับพ่อแม่ก็ได้ ใช้โอกาสคำพูดของคุณนายซูที่ยังไม่ได้เลยเถิดเกินไป บอกให้เธอรีบหยิน ไมงั้นเรื่องจะยิ่งบานปลาย และถ้าจัดการไม่ได้ ตระกูลซูก็จะไม่รอด"
เมื่อพูดจบ หลินหยางก็เก็บชามตะเกียบ จากนั้นนั่งบนโซฟาเพื่อดูทีวีต่อไป
ซูเหยียนสูญเสียเล็กน้อย
หลังจากนั้น เสียงดังของจางชิงหยูก็ดังเข้ามา เมื่อรู้ว่าหลิหยางจะไม่ไปที่บ้านก็ดุด่าสาปแช่ง
แต่โชคดีที่ซูเหยียนลากเธอไป
ทั้งสามคนโบกรถ มุ่งหน้าไปยังบ้านตระกูลซูด้วยความประหม่า
หลินหยางไม่ได้มา จางชิงหยูกำลังคิดว่าจะหาคำอธิบายอะไรให้กับคุณนาย
ซูเหยียนกลับคิดว่าจะหยุดคุณนายยังไง
ซูกวงยังคงเฉยๆ
ตระกูลซู
"อะไรนะ? หลินหยางนั่นจู่ๆ ก็ไม่มาหรอ?"
ซูจางหยางที่อยู่ในชุดสูทอาร์มานี่หน้ามืด กระแทกเสียง: "คุณย่าเชิญเขามา แต่เขายังกล้าอวดดี? นี่คือวิธีต่อต้านหรอ?"
เมื่อวานคุณนายซูเซ็นไปเจ็ดโครงการ ซูเป่ยรับมาอีกสี่ สี่โครงการนี้แต่ละอันมีกำไรเกือบหนึ่งล้าน เพื่อเป็นการให้รางวัลกับตัวเอง ซูจางหยางจึงไปเลือดชุดอาร์มานี่ราคาหมื่นหนึ่งมาเมื่อคืน
"ใช่ อย่าคิดว่าเขารู้จักตระกูลหนิงและตระกูลสวี่แล้วจะทำอะไรก็ได้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงเป็นลูกเขยตระกูลซู!" ซูเหม่ยซินพูดด้วยเสียงแปลกๆ
ซูหยูข้างๆ เอ่ยปาก
"เหม่ยซิน พูดอย่างนี้ก็ไม่ดีมั้ง หลินหยางเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่โครงการเขตชิงชานนะ..."
"ผู้ถือหุ้นใหญ่แล้วพิเศษหรอ? เขายิ่งใหญ่หรือคุณย่ายิ่งใหญ่? หรือว่าตอนนี้เขาโชคดีแล้วจะไม่สนใจอาวุโสเหล่านี้?" ซูเหม่ยซินพูดเสียงสูง
ซูหยูไม่พูดอะไร
จางชิงหยูเลยเข้าใจถึงเรื่องเมื่อคืน ตกใจอยู่พักหนึ่ง
ซูเป่ย ซูไท่ไม่ได้มา เหมือนว่าจะออกไปติดต่อกับหัวหน้าบริษัทเหล่านั้นแล้ว ที่นี่มีเพียงลูกหลานคนอื่นๆ ในตระกูลกับคุณนายอยู่
"ดังนั้น เหยียนเอ๋อ หลินหยางนั่นจะไม่สนใจพวกเราแล้วหรอ?" สีหน้าของคุณนายซูไม่เป็นธรรมชาติ
"คุณย่า อาศัยในขณะที่เรื่องยังไม่ใหญ่เกินไป ยังสามารถควบคุมได้ พวกเรารีบหยุดเถอะ!" ซูเหยียนพูดอย่างกังวลใจ: "ถ้าคุณปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไป ฉันเกรงว่ามันจะควบคุมไม่ได้!"
"นี่เป็นโอกาสอันดีที่ตระกูลซูของฉันจะเติบโตขึ้น ฉันจะยอมแพ้แบบนี้ได้อย่างไร?"
"แต่...คุณย่า..."
"เหยียนเอ๋อ เธอไม่ต้องพูดแล้ว จัดการเรื่องไปแล้ว ย่าจะมาหยุดได้ยังไง? อีกทั้ง นิสัยของหลินหยางย่าก็เข้าใจดี สามปีมานี้เขามีคุณธรรมยังไงพวกเราไม่รู้หรอ? บุคลิกของเขาอ่อนแอ ราวกับว่าไม่มีอารมณ์ใดๆ ทั้งยังไม่มีความตั้งใจ แม้ว่าจะไม่รู้ว่าเขากลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้ยังไง แต่ย่าเชื่อว่า ตระกูลซูมาถึงช่วงที่สำคัญแล้ว เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน!"
"คุณย่า ความหมายของคุณคือ..."
"กล้าที่จะทำ อย่ากลัว! หลินหยางจะช่วยอย่างแน่นอน! ย่ามองเข้าไม่ผิด! ฉันไม่เชื่อว่าชายคนนี้จะยืนเฉยๆ ดูตระกูลซูของพวกเราล่มสลาย เขาเป็นลูกเขยของตระกูลซู ถ้าตระกูลซูของเราจะไม่รอด เขาจะไปที่ไหนได้?"
"คุณย่า คุณจะเป็นแบบนี้ไม่ได้!" น้ำตาของซูเหยียนเกือบจะไหลออกมาแล้ว
แต่คุณนายก็ยังไม่ฟัง
เมื่อเห็นท่าทางของเธอ เธอดูเหมือนว่าเธอจะมั่นใจในหลินหยาง
ซูเหยียนเอ่ยปากเตือน แต่ก็ไร้ประโยชน์
"ชิงหยู กลับไปจัดการกับหลินหยางให้ดีๆ! ฉันรู้ว่าเขายังรักเสี่ยวเหยียนอยู่ บอกเขา ถ้ากล้าขัดขืนต่อตระกูลซูของฉัน ก็ให้เขาหย่ากับเสี่ยวเหยียนเสีย ถึงเวลานั้นเขาต้องยอมอย่างแน่นอน!"
"ได้ คุณแม่"
"กลับไป!"
คุณนายสะบัดมือ ทิ้งไม้เท้า
ซูเหยียนมองเงาหลังของเธออย่งอึ้งๆ เธอทำอะไรไม่ถูกแล้ว...
กินข้าวเช้าเสร็จ หลินหยางไปทำงานที่คลินิก
อาคารซานจือถังย้ายมาใจกลางเมืองหนึ่งปีกว่าแล้ว คนป่วยไม่มาก ส่วนมากเป็นคนชรา วัยรุ่นไม่ค่อยเจ็บป่วยไม่มาหาแพทย์แผนจีนหรอก
แต่ตอนเช้าก็นับว่ายุ่ง
เมื่อหลินหยางมาถึงคลินิก หยานหลางและลั่วเฉียนก็กำลังตรวจคนไข้อยู่
บริเวณนั่งรอเกือบจะเต็มแล้ว
หลินหยางหยิบไม้กวาดขึ้นมาและค่อยๆ กวาดพื้นที่ไม่ได้นับว่าสกปรก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...