สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 1429

“สำนักสวรรค์อินทนิลมีลูกศิษย์ที่น่ากลัวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” อาวุโสห้าอดไม่ได้ที่จะพูด

“ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน”

“บางทีอาจจะเป็นเพราะคนพวกนี้ใช้ยากระตุ้นพลัง! หรือบางทีสำนักสวรรค์อินทนิลอาจจะมีความลับอะไรซ่อนอยู่! แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง พวกเขาไม่ใช่บุคคลที่ลูกศิษย์ธรรมดาจะรับมือได้”

ทุกคนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์

“รีบไปเรียกลูกศิษย์สายในของอาวุโสใหญ่มา ดูว่าพวกเขาสามารถรับมืออัจฉริยะสุดยอดฝีมือของสำนักสวรรค์อินทนิลได้หรือเปล่า” อาวุโสสามพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

“รับทราบอาวุโส!”

มีลูกศิษย์คนหนึ่งยกมือขึ้นคำนับ จากนั้นวิ่งออกไป

แต่ไม่ตอนนั้นเอง เจิ้งถงหยวนรีบพูด “ช้าก่อน!”

ลูกศิษย์คนนั้นหยุดชะงัก

“เจ้าตำหนักเจิ้ง มีอะไรเหรอ?” อาวุโสสามหันไปถาม

“อาวุโส! ผมคิดว่าคุณเชิญยอดฝีมือของเราออกมาก็ไร้ประโยชน์!” เจิ้งถงหยวนพูด

“หมายความว่ายังไง?”

“อาวุโสสาม คุณก็ได้ยินแล้ว พวกเขาใช้คนเหล่านี้มาท้าลูกศิษย์ของสำนักเรา ถ้าหากแพ้ พวกเขาจะไม่พูดถึง ‘ตำราเทพลำพอง’ อีก สามารถพูดได้ว่าพวกเขาใช้ ‘ตำราเทพลำพอง’ มาเดิมพันกับพวกเรา! ถ้าหากอีกฝ่ายไม่ใช่คนโง่ พวกเขาต้องมีวิธีที่สามารถชนะพวกเราได้แน่นอนถึงมาท้าพวกเรา! ไม่อย่างนั้นพวกเขาไม่เพียงแต่สูญเสีย ‘ตำราเทพลำพอง’ แม้กระทั่งศักดิ์ศรีของสำนักสวรรค์อินทนิลก็จะถูกทำลาย! ผมคิดว่าถึงคุณส่งยอดฝีมือที่ดีที่สุดของสำนักออกไป ก็น่าจะช่วยอะไรได้ไม่มาก” เจิ้งถงหยวนพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

อาวุโสสามเงียบไปสักพัก

ทุกคนก็เงียบเช่นกัน

สิ่งที่เจิ้งถงหยวนพูดมาสมเหตุสมผล

ถ้าหากสามารถอาศัยยอดฝีมือของสำนักเอาชนะอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย มันไม่สมเหตุสมผล ในเมื่ออีกฝ่ายกล้ามา แสดงว่าพวกเขามั่นใจว่าต้องชนะ แม้ลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์นิรันดรแข็งแกร่งก็จริง แต่ก็ต้องแลกกับความเจ็บปวดที่แสนสาหัส

“แล้วคุณมีวิธีอะไรหรือเปล่า?”

อาวุโสสามเริ่มกังวลใจ ถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“มี และเป็นวิธีที่ง่ายมาก” เจิ้งถงหยวนหรี่ตาลงแล้วพูด

“หืม? รีบพูดมา” อาวุโสสามได้ยินแบบนี้ รีบหันไปจ้องเจิ้งถงหยวน

เจิ้งถงหยวนกลับยิ้มเล็กน้อยแล้วหันไปพูดกับอาวุโสห้าอย่างใจเย็น “อาวุโสห้า ผมจำได้ว่าก่อนหน้านี้คุณบอกว่าอาการของหลินหยางกำลังแย่ลง ตามสถานการณ์ปกติ เขาน่าจะอยู่ได้อีกไม่เกินหนึ่งเดือนใช่หรือเปล่า?”

“ใช่! พิษเป็นแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของเขาแล้ว ขั้นต่อไปก็คือกระดูก ถ้าหากแทรกซึมเข้าไปในกระดูกอย่างสมบูรณ์ บนโลกใบนี้ ไม่มีวิธีสามารถรักษาเขาได้อีกแล้ว!” อาวุโสห้าพูด

“ในเมื่อพิษเป็นได้เข้าสู่เส้นเลือดของเขาแล้ว หมายความว่าหลินหยางไม่สามารถใช้กำลังภายใน เมื่อไหร่ที่โคจรกำลังภายใน พิษเป็นของเขาก็จะกำเริบ ส่งผลให้เขาตายเร็วขึ้นใช่หรือเปล่า?” เจิ้งหยวนถงถามอีกครั้ง

“เรื่องนี้…มันก็ใช่…” อาวุโสห้าลังเลสักพัก พยักหน้าแล้วพูด

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี! เชิญอาวุโสรีบไปเรียกตัวหลินหยางมา! ให้เขาเป็นตัวแทนสำนักสวรรค์นิรันดรสู้กับสำนักสว่านอินทนิล!” เจิ้งถงหยวนตะคอก

คำพูดประโยคนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง

“เจ้าตำหนักเจิ้ง คุณกำลังจะทำอะไร? ต้องการแก้แค้นหลินหยางเหรอ? เขาเป็นแค่คนที่กำลังจะตาย ทำไมคุณต้องทำเรื่องที่ไม่จำเป็นด้วย? เขาจะตายด้วยมือของคนสำนักสวรรค์อินทนิล!” มีคนทนดูไม่ไดhจึงพูด

แต่เจิ้งถงหยวนกลับหัวเราะฮ่าฮ่า “ทุกท่าน ใช่แล้ว ผมต้องการให้หลินหยางตายด้วยมือของคนสำนักสวรรค์อินทนิล!”

“หา?”

อาวุโสห้าและคนอื่นตกใจ

แต่อาวุโสสามเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง หันไปพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “เจ้าตำหนักเจิ้ง หรือว่าคุณ…ต้องการเกิดความขัดแย้งกับสำนักสวรรค์อินทนิลอย่างสมบูรณ์?”

“ใช่!” เจิ้งถงหยวนยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด “ผมไม่ได้ทำเพราะเรื่องส่วนตัวแน่นอน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสำนักสวรรค์นิรันดรของเรา! หลินหยางถูกพิษเป็น พิษได้เข้าสู่เส้นเลือดแล้ว ถ้าหากส่งตัวเขาออกไป เขาจะต้องโคจรกำลังภายในแน่นอน ถึงเวลานั้นอาการของพิษก็จะกำเริบ และทำให้เขาตายไปในที่สุด พวกเราสามารถใช้โอกาสนี้หาว่าคนของสำนักสวรรค์อินทนิลฆ่าหลินหยาง! ก่อนหน้านี้สำนักสวรรค์อินทนิลพูดแล้ว ประลองอย่างเป็นมิตร ไม่ถึงขั้นต้องมีคนตาย! แต่ถ้าหากหลินหยางตาย พวกเราสามารถใช้โอกาสนี้จัดการเจิ้งฮั่นซานและคนอื่น! ถึงเวลานั้นใครก็ว่าพวกเราไม่ได้ ถึงเป็นสำนักสวรรค์อินทนิลก็ไม่มีอะไรจะพูด! อาการของหลินหยางในตอนนี้หนักมากแล้ว ถึงช่วยยังไงก็ไม่รอด! ในเมื่อยังไงเขาก็ต้องตาย ทำไมไม่ให้เขาสร้างผลประโยชน์ให้กับสำนัก?”

คำพูดประโยคนี้ทำให้ดวงตาของทุกคนโดยรอบเป็นประกาย

“เป็นแผนที่ดี! เป็นแผนที่ดีมาก!”