แควก…
เสียงฉีกขาดดังขึ้น
ปราณกระบี่ทั้งสิบสามเล่มแตกสลายโดยตรง
พลังที่น่าสะพรึงกลัวถาโถมเข้าใส่อาเสี่ยน
แต่อาเสี่ยนไม่ยอมแพ้ เธอกัดฟันส่งเสียงคำราม จากนั้นโคจรกำลังภายในต้านทานพลังของหลินหยาง
เธอเชื่อ ขอเพียงสามารถต้านทานกระบวนท่านี้ได้ เธอก็จะมีโอกาสโต้ตอบกลับ
เธอคำราม สายตาจ้องคนตรงหน้าไม่กระพริบตา
ปล่อยให้คลื่นพลังที่แหลมคมฉีกกระชากร่างกายเธอ แต่เธอไม่ยอมแพ้
ในตอนนั้นเอง สายตาของเธอเหลือบไปเห็นหลินหยางที่อยู่ไกลออกไป
ทันใดนั้น สมองของเธอว่างเปล่าไปหมด!
หลินหยางในตอนนี้ยังคงไอไม่หยุด สีหน้าดูน่าเกลียดมาก
แต่ตั้งแต่เริ่มจนจบ เขาไม่เคยมองมาทางนี้เลย!
เขาไม่ได้กำลังโคจรกำลังภายใน!
และไม่คิดจะจู่โจมทางนี้ต่อ
เขาในตอนนี้เหมือนกำลังยืนดูการต่อสู้
ไม่คิดจะไล่ตามหรือลงมือ
อาเสี่ยนตกตะลึง
เธอเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว
คนคนนี้…ไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดที่มี!
ตนเอง! ไม่คู่ควรที่จะทำให้เขาต้องใช้พลังทั้งหมด!
“หรือพลังของฉันในสายตาเขา มันไม่คู่ควรที่จะเอ่ยถึงเลยเหรอ?”
อาเสี่ยนรู้สึกเย็นวูบในใจ
จากนั้นเพียงแค่พริบตาเดียว…
แควก!
มีเสียงที่แปลกประหลาดดังขึ้น
แนวป้องกันพังทลาย!
คลื่นพลังทั้งหมดของอาเสี่ยนแตกสลาย
“แย่แล้ว!”
“อาเสี่ยนระวัง!”
“ศิษย์น้องระวัง!”
คนของสำนักสวรรค์อินทนิลตะโกนเสียงดัง
แต่มันไม่ทันแล้ว
ปัง!
ลมปราณปะทะใส่ร่างกายของอาเสี่ยน
พู่!
อาเสี่ยนกระอักเลือดอีกครั้ง ร่างกายลอยกระเด็นออกไปล้มลงบนพื้น
ทุกคนหันไปมอง พบว่าบนแขนทั้งสองข้างของเธอเต็มไปด้วยเลือด นอกจากนี้ผิวหนังตั้งแต่ขาทั้งสองข้างไปจนถึงใบหน้าครึ่งซีกของเธอปริแตก
เป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวเพียงใด!
ทุกคนตกตะลึง!
หลินหยางเดินเข้าไปหาอาเสี่ยน
สีหน้าคนของสำนักสวรรค์อินทนิลเปลี่ยนไปทันที เจิ้งฮั่นซานรีบตะโกน “ไอ้หนู! คุณคิดจะทำอะไร? ฆ่าคนเหรอ?”
“ไม่ ผมแค่จะหักแขนหักขาของเธอ!” หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“หักแขนหักขาอะไร? เธอแพ้แล้ว! คุณชนะแล้ว!” เจิ้งฮั่นซานไม่อยากพูดคำนี้ออกมา แต่เขาไม่มีทางเลือก
“ผมชนะแล้วเหรอ? ดีมาก!”
หลินหยางหันไปมองอาวุโสสามและคนอื่นที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูตำหนักผู้กล้า ยกมือขึ้นคำนับ “อาวุโสสาม ภารกิจลุล่วง!”
คำพูดประโยคนี้เป็นเหมือนกับฝ่ามือที่มองไม่เห็นตบใส่ใบหน้าของอาวุโสสามและคนอื่นอย่างแรง
โดยเฉพาะเจิ้งถงหยวน สีหน้าของเขาเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด อยากจะพูดอะไรแต่ก็พูดไม่ออก
“เจ้าตำหนักเจิ้ง!” อาวุโสสามหันไปพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ไหนคุณลองพูดมา ตอนนี้ควรทำยังไงต่อ?”
“คือ…อาวุโส ผม…” เจิ้งถงหยวนไม่รู้ควรจะตอบอย่างไรดี
“เรื่องบ่ายเบี่ยงเก็บเอาไว้พูดกับตัวเองเถอะ! ตอนนี้รีบช่วยกันคิดหาวิธีควรจะทำยังไงต่อ! ยาวิเศษพวกนั้นเป็นของที่สำนักสวรรค์นิรันดรใช้เวลาเกือบร้อยปีกว่าจะรวบรวมได้มากขนาดนี้ โดยเฉพาะเลือดวิญญาณลั่วหลินเพียงพอที่จะทำให้สำนักสวรรค์นิรันดรของเรากลายเป็นผู้อยู่ยงคงกระพัน! ล้วนแต่เป็นของสำคัญทั้งนั้น! คุณรีบคิดหาวิธีเดี๋ยวนี้ ทำให้ของพวกนี้กลับมาอยู่ในมือของเรา และห้ามทำให้ผู้คนสูญเสียความศรัทธาที่มีต่อพวกเรา! ไม่อย่างนั้นมันจะมีผลตามมาทีหลัง!” อาวุโสสามระงับความโกรธในใจ ตะคอกเสียงเบา
เจิ้งถงหยวนรีบก้มหน้า ท่าทางดูประหม่ามาก
อาวุโสสี่ อาวุโสห้าและคนอื่นก็เงียบ
เรื่องมันบานปลายมาถึงขั้นนี้ อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคน
พูดอะไรตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว
“หลินหยาง คุณทำดีมาก ดีมาก…” อาวุโสสามทำได้แต่กัดฟันพูด
“ขอบคุณอาวุโสที่ชม ตอนนี้อีกฝ่ายแพ้แล้ว ผมทำภารกิจที่คุณมอบหมายเสร็จแล้ว ผมขอตัวก่อน”
หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย จากนั้นหันหลังเตรียมไปจากที่นี่
“หลินหยาง…ช้าก่อน!” อาวุโสสามรีบตะโกน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...