หลังจากกลับมาจากตระกูลพันแซ่ หลินหยางก็รีบเข้าไปในห้องปรุงกลั่นยาพร้อมกับนำพืชสมุนไพรยาที่เขานำมาออกมาศึกษาวิจัยด้วยความตื่นเต้น
ไป๋หนานหลีและเสิ่นเหนียนหัวจ้องมองหลินหยางด้วยความสงสัยอยู่หน้าเตาเผา
"ดูเหมือนว่าที่หมอเทวดาหลินมาทักษะการแพทย์อย่างทุกวันนี้ได้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเพราะความหมกมุ่นอย่างบ้าคลั่งของเขาแน่นอน" ไป๋หนานหลีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"จริงด้วย แต่หมอเทวดาหลินที่กำลังตั้งใจช่างดูหล่อและน่าดึงดูดอย่างมากเลย" เสิ่นเหนียนหัวจ้องมองหลินหยางด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
ไป๋หนานหลีตกใจ "เธอคงไม่ได้ตกหลุมรักหมอเทวดาหลินเข้าแล้วสินะ?"
"ฮึ คนที่มีทักษะการแพทย์ชั้นสูงและยังหน้าตาดีอย่างหมอเทวดาหลินแบบนี้ ใครบ้างจะไม่ชอบ? แต่น่าเสียดายที่คนอย่างเขาไม่เหมาะกับคนอย่างเรา" เสิ่นเหนียนหัวถอนหายใจ "ต่อให้ฉันชอบ แต่คนอื่นก็อาจจะไม่ได้ชอบฉันก็ได้"
ไป๋หนานหลียิ้ม "เธอรู้ตัวก็ดีแล้ว ความสำเร็จของหมอเทวดาหลินที่น่าทึ่งขนาดนี้ อนาคตของเขาจะต้องยิ่งเจริญก้าวหน้ามากแน่ อนาคตเขาจะต้องเก่งกาจขึ้นเรื่อยๆ และผู้หญิงธรรมดาก็คงไม่มีทางเข้าตาเขาหรอก"
"เฮ้อ ไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า ปรุงกลั่นยาๆ ฝึกฝนเร็วเข้า"
เสิ่นเหนียนหัวทำการเป่าพลังปราณเพื่อควบคุมไฟอย่างหงุดหงิด
ไป๋หนานหลีเองก็รีบลงมือด้วยเช่นกัน
การเดินทางไปตระกูลพันแซ่ครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกตกใจอย่างมาก
เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะสามารถเอาชนะหลานชงได้อย่างง่ายดายขนาดนี้
แม้ว่าจะพ่ายแพ้อย่างราบคาบต่อกงซูฉีหลิน แต่ก็คิดว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้ว
ต้องรู้ว่าหากเป็นไป๋หนานหลีคนก่อน คงไม่กล้าแม้แต่จะไปยืนอยู่หน้าของกงซูฉีหลินอย่างแน่นอน!
ทว่าตอนนี้กลับสามารถต่อสู้กับเขาได้
และนี่ก็เป็นผลจากการได้รับการฝึกฝนอยู่ที่หมอเทวดาหลินมากว่าครึ่งเดือนนั่นเอง
หากทำการฝึกฝนไปีอกหนึ่งปีครึ่ง เช่นนั้นความสามารถของเขาจะเพิ่มขึ้นไปมากระดับไหน?
เกรงว่าแม้แต่กงซูฉีหลินเองก็ไม่สามารถสู้ได้ และอาจรับมือกับยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งในบรรดายอดฝีมือทั้งสิบสามได้แน่ๆ
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ไป๋หนานหลีก็รู้สึกมีกำลังใจและตั้งใจกับการควบคุมไฟขึ้นมา
"ไม่เลวๆ ดีมาก!"
ขณะนี้เอง หลินหยางก็ยิ้มและละสายตาจากเหล่าพืชสมุนไพรที่เก็บมาได้
เขาหยิบพืชสมุนไพรบางตัวขึ้นมาและเล่นกับมันสักพักหน้าหม้อขนาดใหญ่ที่สุดตรงกลางห้องเตาหลอมยา จากนั้นจึงใส่พืชสมุนไพรลงไปเป็นชุดๆ หยิบพืชสมุนไพรสองสามอย่างออกมาจากด้านล่างของกล่องและยัดเข้าไปพร้อมกันแล้วกล่าวว่า "พวกคุณสองคนหยุดก่อน"
"หมอเทวดาหลิน ทำไมเหรอ?"
ทั้งสองหยุดการกระตุ้นพลังปราณพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย
"ผมมีอะไรจะบอกพวกคุณทั้งสอง ตั้งแต่วันนี้ไปพวกคุณอาจต้องเหนื่อยหน่อย เพราะเรากำลังจะปรุงกลั่นยาที่มีจำนวนมหาศาล" หลินหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสองมองหน้ากัน
"จำนวนมหาศาล?"
"จะมีจำนวนมหาศาลมากแค่ไหนเหรอครับ?"
"อาจจะ...ถึงขั้นที่พวกคุณอาจไม่ได้หลับได้นอนเป็นเวลากว่าสิบวันเลย" หลินหยางกล่าว
"อ๋า? ไม่ได้พักผ่อนเป็นสิบวัน?"
ไป๋หนานหลีและเสิ่นเหนียนหัวตกใจ
"ใช่ ไม่เพียงแค่พวกคุณสองคน ผมเองก็จะไม่ได้พักผ่อนด้วย"
หลินหยางหยิบขวดยาจากมาจากชั้นวางจำนวนหนึ่งพร้อมกับหยิบเข็มมังกรหงเหมิงออกมาและเอ่ย "แต่พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะคอยเพิ่มพละกำลังให้พวกคุณอย่างเพียงพอ เพื่อให้พวกคุณสามารถยืนหยัดไปได้ในสิบวันนี้!"
"หมอเทวดาหลิน คุณกำลังปรุงกลั่นยาอะไรอยู่เหรอ? จำเป็นต้องลำบากขนาดนี้ด้วยเหรอ?" เสิ่นเหนียนหัวอดไม่ได้ที่จะถาม
"ยาคุ้มครองชีวิต" หลินหยางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวเสียงแหบแห้ง
ทั้งสองมองหน้ากันอีกครั้งด้วยความสงสัยอย่างมาก
ชายคนนั้นเดินออกจากห้องโถงใหญ่ที่โอ่อ่าสวยงาม
คนที่อยู่บริเวณหน้าประตูคุกเข่าลง
"ตรวจสอบได้ความยังไงบ้าง?"
"ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว เรื่องนี้หมอเทวดาหลินเป็นคนยุยงวางแผนทั้งหมด ลัทธิปีศาจสวรรค์ไม่เคยคิดลงมือจัดการแดนมรณะ แต่หมอเทวดาหลินกลับคอยยั่วยุอยู่ตรงกลางเท่านั้น" คนที่อยู่หน้าประตูกล่าวอย่างนอบน้อม
"คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าหมอนั่นจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ เขาคอยยั่วยุระหว่างลัทธิปีศาจสวรรค์และแดนมรณะให้ฆ่าฟันกันมานาน มีคนได้รับบาดเจ็บล้มตายนับพันคน...เจ้าหมอนี่...สมควรกำจัด!"
"ในเมื่อเป็นแผนการของหมอเทวดาหลิน แต่เราก็ประมาทต่อลัทธิปีศาจสวรรค์ไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้เรื่องราวก็มาถึงขั้นนี้แล้ว หากคิดจะจับมือกับอย่างมิตรก็เป็นไปไปได้ยาก" ชายที่คุกเข่าอยู่กล่าว
"ไม่มีทางนับลัทธิปีศาจสวรรค์เป็นมิตรเด็ดขาด! ผมคิดว่าคนที่ปรากฏตัวขึ้นวันที่มีการต่อสู้ขึ้น เหมือนถูกลัทธิปีศาจสวรรค์ใช้คาถาต้องห้ามทำให้คนแข็งแกร่ง หลายปีมานี้ลัทธิปีศาจสวรรค์มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด และเจ้าลัทธิเองก็ลึกลับอย่างไม่อาจคาดเดาได้ หากปล่อยไปแบบนี้และรอให้พวกเขาแข็งแกร่งพอที่จะจัดการกับแดนมรณะของเราได้ ถึงตอนนั้นเราต้องแย่แน่"
"หมายความว่า..."
"ไม่มีทางที่จะกำจัดลัทธิปีศาจสวรรค์ได้อย่างแน่นอน แต่จำเป็นต้องกำจัดพละกำลังของลัทธิปีศาจสวรรค์ลง"
คนที่คุกเข่าอยู่ไม่พูดอะไรและยกกำปั้นขึ้นมา "ได้รับข่าวมาเมื่อสักครู่ว่าคนของตระกูลพันแซ่ได้เข้าไปอยู่อาศัยในเจียงเฉินแล้วครับ"
"ตระกูลพันแซ่? ดูเหมือนว่าเจ้าหมอนี่จะรู้จักหากองกำลังสนับสนุนภายนอกอยู่เหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่ยอดฝีมือศิลปะการต่อสู้ชั้นสูงของตระกูลพันแซ่คนสุดท้ายได้ตายจากไปแล้วเมื่อหลายสิบปีก่อน ตระกูลพันแซ่ในตอนนี้กลับไม่มีอะไรให้น่าวิตกกังวลอีก"
"แต่ตอนนี้เจียงเฉินมีเทพบู๊คอยปกป้อง แถมยังมีคนของตระกูลพันแซ่คอยช่วยเหลือสนับสนุน รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐของอาณาจักรมังกร...เจียงเฉินในตอนนี้ เป็นอะไรที่จัดการได้ยากมาก"
"ฮึ แค่เจียงเฉิน คิดว่าแดนมรณะของเราจะจัดการกับกองกำลังที่มีความสามารถต้อยต่ำนี้ไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?" ชายคนนั้นโมโห
ชายที่นั่งคุกเข่าอยู่ก้มศีรษะลง
ชายคนนั้นครุ่นคิดอยู่นานและกล่าวเสียงแหบแห้ง "คุณเดินทางไปที่เจียงเฉินแล้วนำของชิ้นหนึ่งไปที่นั่นด้วย"
"อะไรเหรอครับ?" ชายที่คุกเข่าอยู่ถามด้วยความตกใจ
"ไข่มุกคืนชีพ" ชายคนนั้นกล่าวอย่างเคร่งขรึม
.....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...