ลมปราณอันน่าสะพรึงกลัวนี้......
จะต้องเป็นนักปราชญ์เย่เหยียนอย่างแน่นอน!
หลินหยางมีแววตาเคร่งขรึม ฉับพลันเข็มเงินที่จะแทงเข้าร่างกายก็หยุดชะงักลง และจ้องมองไปยังต้นกำเนิดของพละกำลังนั้น
ดูเหมือนนักปราชญ์เย่เหยียนจะไปพบอ้ายหร่านแล้ว
เช่นนี้จึงกล่าวได้ว่า ในส่วนสถานการณ์บาดเจ็บของเทียนเจียวสูงสุดก็ถูกเย่เหยียนทำให้คงที่เป็นการชั่วคราว
การบุกเข้าไปในตอนนี้ก็ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบมากมายต่อเทียนเจียวสูงสุดได้
อีกทั้งยังมียอดฝีมือมากมายทั้งในและนอกวิหารความเป็นความตาย หากหลินหยางโจมตีเข้าไป มันจะเป็นวิธีการที่โง่เขลาที่สุดเลยจริงๆ
ถ้าสามารถแอบเข้าไปในวิหารความเป็นความตายอย่างเงียบๆ และมาในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดที่เย่เหยียนกำลังรักษาให้เทียนเจียวสูงสุด เช่นนั้นจะเป็นการทำงานหนักเพียงครั้งเดียวแต่สบายไปตลอดชีวิต
นึกถึงตรงนี้ หลินหยางก็เก็บเข็มเงิน ภายใต้แววตาที่สั่นไหว ได้จ้องมองไปยังมุมตะวันตกเฉียงใต้ของวิหารความเป็นความตาย
ตรงนั้นมีพื้นที่โล่ง เนื่องจากมีขอบเขตกว้างมาก ด้วยเหตุนี้ผู้แข็งแกร่งของตำหนักเทียนเสินจึงจำเป็นจะต้องมีคนเฝ้าตรวจตราไปมา
แต่ลู่ทางในการตรวจตรา ยังมีช่องว่างให้ผ่านไปได้
ฮวา!!!
เวลานี้ พละกำลังได้สิ้นสุดลงแล้ว ทันทีหลังจากนั้นก็มีแสงสว่างแวววับส่องลงมาตรงหน้าวิหารความเป็นความตาย
ผู้คุมทุกคนคุกเข่าลงกับพื้นไปตามๆ กัน
"คารวะนักปราชญ์!"
เสียงเรียกราวกับลูกคลื่น ดังขึ้นทั่วสารทิศ
หลินหยางที่อยู่ในความมืดเงยหน้าขึ้นทันที
เขาเห็นคนคนหนึ่งในชุดขาวขอบทอบ รูปร่างสูงโปร่งยืนอยู่ที่ประตูใหญ่ จากนั้นก็ค่อยๆ เดินเข้ามา
นั่นคือนักปราชญ์เย่เหยียนเหรอ?
สายตาของหลินหยางแข็งทื่อ หัวใจเต้นแรง
ถึงแม้ว่าจะอยู่ไกล แต่หลินหยางก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน เขาพบว่าตนเองไม่สามารถเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ได้เลย และมองไม่เห็นถึงศักยภาพแม้แต่น้อย อีกฝ่าเหมือนบ่อน้ำอันมืดมิด ไม่รู้ว่าลึกแค่ไหน......
ศัตรูเช่นนี้ น่ากลัวอย่างมาก
เนื่องจากเย่เหยียนเข้าไปในวิหารความเป็นความตายแล้ว เช่นนั้นเขาจะต้องรักษาให้เทียนเจียวสูงสุดจึงต้องดำเนินการทันที
หลินหยางไม่เฉยเมย ทันใดนั้นเขาก็เคลื่อนย้ายไปยัง'พื้นที่ว่าง'ทางด้านนั้น เตรียมหาโอกาสที่เหมาะสมที่จะแอบเข้าไปในวิหารความเป็นความตาย
เขาซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้นอกวิหารความเป็นความตาย ปกปิดลมหายใจของตนเองเอาไว้ กระทั่งหยุดหายใจ แม้แต่ลูกตาก็ไม่กล้าเคลื่อนไหว เพียงแค่จ้องมองบรรดายอดฝีมือของตำหนักเทียนเสินที่ตรวจตราอยู่ที่นี่
หลินหยางหาเป้าหมายได้อย่างแม่นยำแล้ว
ก็คือช่องหน้าต่างบนผนังสูงด้านขวาของวิหาร
ช่องหน้าต่างขนาดใหญ่นั้น ถูกเปิดออก และร่างของหลินหยาง ก็กระโดดเข้าไปในทันที
ใช้ระยะเวลาไปไม่ถึงหนึ่งวินาที
แต่สำหรับยอดฝีมือเหล่านี้ของตำหนักเทียนเสิน หนึ่งวินาทีนั้นถือว่านานมากแล้ว และปฏิกิริยาตอบสนองของพวกเขาจะถูกนับเป็นมิลลิวินาที
ตอนนี้หลินหยางปกปิดลมหายใจเอาไว้ หยุดการหายใจ แต่การพุ่งเข้าไปจะทำให้เกิดแรงลม การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของกระแสอากาศก็จะทำให้พวกเขาสงสัย สิ่งนี้จะต้องได้รับการแก้ไข
หลินหยางคิดอยู่พักหนึ่ง จึงตัดสินใจใช้ลมอีกครั้ง
เพียงแต่บริเวณทั้งหมดของวิหารความเป็นความตายเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำในพื้นที่ราบสูงแห่งนี้ การเกิดลมอย่างกะทันหัน ก็จะทำให้รู้สึกถึงความผิดปกติได้
จะทำยังไงดี?
หลินหยางคิดอย่างหนัก
แต่ในเวลานี้ จู่ๆ ก็มีลมกระโชกแรงพัดมาจากวิหารทางด้านนั้น
หลินหยางตกตะลึง เขามีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
ไม่มีสาเหตุ เพราะอะไรจึงมีลมพัดมาจากทางด้านนั้น
และเมื่อกล่าวถึงภูมิประเทศแล้ว เดิมทีไม่สามารถพัดมาถึงที่นี่ได้!
ในขณะที่หลินหยางกำลังไม่เข้าใจ ฉับพลันคนของทางด้านนี้หลายคนได้เดินออกมา และรีบไปที่วิหารอย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ที่ตรวจตราอยู่ด้านหน้าหลินหยางก็วิ่งเข้าไปด้วยเช่นกัน
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
หลินหยางตกตะลึง
หรือว่า......จะเกิดเรื่องขึ้นในวิหาร?
แน่นอนว่าต้องเป็นอ้ายหร่าน!
หลินหยางมีกำลังวังชาขึ้นมาทันที ไม่กล้าลังเลอีกต่อไป เขารีบมุ่งเข้าไปยังวิหารความเป็นความตายแห่งนั้น
เขาราวกับฟ้าแลบ เข้าไปในหน้าต่างทันที และมาถึงทางเดินของห้องโถงใหญ่
และสุดทางเดิน จะเป็นประตูบานใหญ่
นักปราชญ์เย่เหยียนกับเทียนเจียวสูงสุด ต้องอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน!
หลินหยางจ้องมองช่องว่างที่ประตูใหญ่ อย่างระมัดระวัง และเดินไปข้างหน้า
ในห้องโถงใหญ่ไม่มีใครอยู่เลย
หลินหยางไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้มีไว้ทำอะไร แต่เมื่อพิจารณาจากการป้องกันอย่างเข้มงวดภายนอกแล้ว เห็นได้ชัดว่าด้านในนี้ไม่ใช่สถานที่ที่คนธรรมดาจะเข้ามาได้
การเคลื่อนไหวของหลินหยางเชื่องช้ามาก ย่างก้าวของเขาไร้เสียง ลมหายใจและการเต้นของหัวใจก็ได้รับการปรับเปลี่ยน
เพียงแต่เขาเชื่อใจว่านักปราชญ์เย่เหยียนที่อยู่ข้างในจะไม่สังเกตเห็นตนเอง
เพราะเขาเข้าใจว่าคนที่มุ่งรักษาต้องจดจ่ออยู่กับคนที่รักษา และมีสมาธิอยู่กับคนไข้ตรงหน้าเท่านั้น กายใจมุ่งแต่การรักษา ทุกสิ่งรอบๆ ตัวจะไม่สามารถสังเกตเห็นได้
มิเช่นนั้น นักปราชญ์เย่เหยียนจะไม่ห่อหุ้มสถานที่แห่งนี้เอาไว้ราวกับถังเหล็กหรอก
หลินหยางหยิบเข็มเงินออกมาเงียบๆ และเดินไปที่หน้าประตูใหญ่
เขาแทงเข็มเข้าไปที่ร่างกายของตนเอง เพื่อเพิ่มศักยภาพ จากนั้นก็กลืนยาอายุวัฒนะลงไป
ปีศาจร้าย?
ไม่สิ นั่นคือรสชาติระหว่างความประณีตงดงามกับปีศาจร้าย
เขาต้องการทำอะไรกับเทียนเจียวสูงสุดกันแน่?
หลินหยางสรุปได้ว่า นี่ไม่ใช่การช่วยชีวิตเทียนเจียวสูงสุดอย่างแน่นอน!
เนื่องจากเทียนเจียวสูงสุดในขณะนี้ ได้พลาดโอกาสการรักษาที่ดีที่สุดไปแล้ว
ชีวิตของเขาเกินกว่าจะเยียวยาแล้ว!
ความตาย อยู่ห่างจากเขาเพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น!
เวลานี้ เย่เหยียนค่อยๆ ยกมือขึ้นช้าๆ มองไปที่เทียนเจียวสูงสุดอย่างเย็นชา และพูดเบาๆ ว่า : "เช่นนั้น หลงเทียนจื่อ เรามากล่าวอำลาครั้งสุดท้ายกันเถอะ"
"อืม"
เทียนเจียวสูงสุดไม่โกรธ แต่หลับตาลง และกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า : "ลาก่อน สหายของฉัน หวังว่าชาติหน้า เราจะได้เจอกันอีกนะ"
"ก็หวังเช่นนั้น หากฉันแสวงหาชีวิตที่เป็นอมตะได้จริงๆ ในท่ามกลางผู้คนนับหมื่นพัน ฉันจะหาคุณจนเจอ!" เย่เหยียนกล่าวเบาๆ
"ก่อนที่ฉันจะจากไป ฉันมีเรื่องสุดท้ายที่อยากจะถามคุณ"
"ฉันจะแก้แค้นให้คุณ ทุกคนที่ติดค้างต่อคุณ พวกเขาจะต้องตายตามคุณไป!"
"เช่นนั้น.....ฉันก็สบายใจ"
เทียนเจียวสูงสุดกล่าวด้วยเสียงแหบพร่า บนใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มจางๆ
หลินหยางที่อยู่ด้านนอก ถูกบทสนทนาของคนทั้งสองทำให้ตกใจ
นี่หมายความว่ายังไง?
เย่เหยียน......ท้ายที่สุดแล้วต้องการจะทำอะไร?
เวลานี้ เย่เหยียนนำมือซ้ายของตนเองออกจากหัวใจ มือขวาค่อยๆ ยื่นออกไป ลูบใบหน้าของเทียนเจียวสูงสุดอย่างอ่อนโยน
"ลาก่อน....."
เย่เหยียนกล่าวด้วยเสียงแหบพร่า ทันใดนั้นก็หยิบมีดที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมา ฉับพลันก็เปิดหน้าอกของเทียนเจียวสูงสุดออก จากนั้นมือที่ราวกับสายฟ้า ก็ดึงมันออกมาอย่างรวดเร็ว
"อึก....."
ร่างกายของเทียนเจียวสูงสุดกระตุกทันที ดวงตาที่ปิดสนิมเบิกกว้าง
เขามองเย่เหยียนอย่างเงียบๆ เย่เหยียนก็จ้องมองเขาอย่างเงียบๆ เช่นกัน
จ้องมองเช่นนี้อยู่สามวินาที ดวงตาทั้งคู่ของเทียนเจียวสูงสุดมืดมน ไร้ชีวิตชีวา
เย่เหยียนค่อยๆ ยกมือข้างนั้นขึ้นอย่างช้าๆ
หัวใจสีแดง ค่อยๆ ถูกเขาดึงออกมาจากร่างของเทียนเจียวสูงสุด.....
หลินหยางแข็งทื่อกลายเป็นหินไปเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...