เข้าสู่ระบบผ่าน

สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 2623

ความจริงตอนนี้หลินหยางอยากกลับเมืองเจียงเฉิน

แต่พูดตามความจริง กลับเมืองเจียงเฉินไปหลินหยางก็ไม่มีวิธีที่ดีที่จะรับมือกับตำหนักเทียนเสิน

กลอุบายฝีมือของตำหนักเทียนเสิน สำหรับเมืองเจียงเฉินมันหนักหนาสาหัสมาก

ตำหนักเทียนเสินเอายอดฝีมือมือออกมาคนหนึ่งมาที่เมืองเจียงเฉิน ถ้าหลินหยางไม่ออกหน้า เกรงว่ามีไม่กี่คนหรอกที่จะต้านทานได้

และสิ่งที่น่ากลัวคือทักษะทางการแพทย์ของตำหนักเทียนเสิน

ลองคิดดู ถ้าคนกลุ่มหนึ่งที่สามารถช่วยคนตายให้ฟื้นคืนชีพได้มารวมตัวกัน มันจะเป็นยังไง?

ถ้าเอาพวกเขาไปอยู่ในสนามรบของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เกรงว่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บล้มตายของรัฐบาลดินแดนมังกรน่าจะควบคุมอยู่ในหนึ่งร้อยคนไหม….

ยอดฝีมือแบบนี้ อยากจะฆ่าก็ทำได้เพียงต้องทำลายเนื้อหนังมังสาของพวกเขาแล้ว ไม่อย่างนั้น พวกเขาก็จะไม่ตาย

เกรงว่ามีแค่ดอกบัวขาวล้างโลกแล้วล่ะที่จะรับมือกับยอดฝีมือเหล่านี้ได้

แต่สิ่งแลกเปลี่ยนคือเมืองเจียงเฉินครึ่งหนึ่งแล้ว

แต่ถ้าหากนักปราชญ์เย่เหยียนลงสนามด้วยตัวเอง เกรงว่าดอกบัวขาวล้างโลกก็ไม่มีประโยชน์

คนระดับนั้น ในสายตาของเหล่านักรบดินแดนมังกรไม่ได้เรียกว่าคนแล้ว นั่นคือการเข้าใกล้เทพแล้ว

เทพเซียนแห่งแผ่นดิน….เกรงว่าก็แค่เท่านี้แหละ

เพราะฉะนั้นถ้าหากต้องการทำลายกระดาน หลินหยางทำได้เพียงหาในดินแดนแห่งความเงียบและความตายแล้ว

และการแข่งขันอวี่เจวี๋ยในตอนนี้ คือโอกาสที่ดีของหลินหยาง

อีกอย่างเย่เหยียนเป็นคนของดินแดนแห่งความเงียบและความตาย ตอนนี้หลินหยางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย ถ้าอยากจะรับมือกับเขา จึงจำเป็นต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับเขาในดินแดนแห่งความเงียบและความตาย ถ้าสามารถหาได้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก

ด้วยเหตุนี้ทั้งสองคนเลยเร่งไปบ้านของตระกูลอวี่ เมื่อการแข่งขันอวี่เจวี๋ยเริ่มขึ้น อ้ายหร่านตั้งใจจะให้หลินหยางเป็นตัวแทนของตระกูลอวี่เข้าร่วม

ระหว่างเดินทาง อ้ายหร่านอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

“คุณพูดถึงเทคนิคกลืนกินหลอมรวม มันคือเทคนิคอะไรเหรอ? ทำไมฉันไม่เคยได้ยิน?”

“มันเป็นเทคนิคต้องห้ามที่บันทึกไว้ในทักษะการแพทย์โบราณ หมอในสมัยโบราณต้องการใช้แขนขาและร่างกายของคนอื่นย้ายไปปลูกถ่ายในร่างกายของตัวเอง ต้องการจะปรับเปลี่ยนร่างกายที่อ่อนแอของตัวเอง แต่เขาไม่ระวังจนหลอมรวมมันอย่างสมบูรณ์ จนปลูกถ่ายร่างกายของอีกคนหนึ่งได้สำเร็จโดยไม่ต้องกำจัดแขนขาของตัวเองออก ด้วยเหตุนี้เขาเลยมีมือและเท้าเพิ่มขึ้น และมีอวัยวะภายในมากขึ้นและทำให้ร่างกายของเขามีพลังมากขึ้น "หลินหยางพูดอย่างราบเรียบ

“งั้นไม่ใช่กลายเป็นตัวประหลาดเหรอ?”อ้ายหร่านถามอย่างราบเรียบ

“พวกคนบ้าคลั่งมีความแต่งต่างอะไรกับตัวประหลาด?”

“ทำแบบนี้ ร่างกายจะไม่เกิดการกีดกันขับไล่เหรอ?”

“ถ้าใช้ร่างกายคนธรรมดาแน่นอนว่าไม่ประสบความสำเร็จหรอก แต่ในมือหมอเหล่านั้นมียาดีมากมาย พวกเขาใช้ยาควบคุมสิ่งเหล่านี้ก็ได้ละ แต่ถ้าต้องการขจัดปฏิกิริยาการต่อต้าน ขับไล่เหล่านี้มันเป็นเรื่องยากมาก ตามที่ผมมอง นักปราชญ์เย่เหยียนไม่สามารถกำจัดปฏิกิริยานี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบหรอก”หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“เมื่อพูดแบบนี้ นั่นก็คือทักษะต้องห้ามคนทั่วไปไม่สามารถใช้ได้”แววตาอ้ายหร่านแฉลบผ่านความตื่นตะลึง

ทักษะทางการแพทย์ของนักปราชญ์เย่เหยียนติดอันดับในดินแดนแห่งความเงียบและความตายแน่นอน

แม้แต่เขายังจัดการไม่ได้ แล้วคนระดับอย่างอ้ายหร่านไม่สามารถใช้เทคนิคการกลืนกินและหลอมรวมได้อย่างแน่นอน

“หมอเทวดาหลิน ในเมื่อคุณรู้เรื่องเทคนิคการกลืนกินและหลอมรวม งั้นคุณทำเป็นไหม?”เวลานี้อ้ายหร่านถามขึ้น

แต่หลินหยางก็แค่ยิ้มไม่ได้พูดอะไร

อ้ายหร่านมองเขา ไม่ได้พูดอะไรเหมือนกัน

ผ่านไปนาน ทั้งสองคนก็เดินมาถึงคูเมืองแห่งหนึ่ง

เมืองนี้สร้างขึ้นโดยเลียนแบบอาคารโบราณของดินแดนมังกร แม้ว่ารูปแบบจะค่อนข้างโบราณ แต่เสื้อผ้าของผู้คนภายในนั้นสวมใส่ไม่เหมือนกัน แตกต่างกันมาก และสามารถมองเห็นสิ่งของทันสมัยมากมายด้วย

หลินหยางมองไป

“เมืองไป๋เฉา?”

“ที่นี่เป็นเมืองที่คนตระกูลอวี่ของฉันอาศัยอยู่”

อ้ายหร่านพูดขึ้น

“คุณอ้ายหร่าน!”

“สวัสดีคุณอ้ายหร่าน!”

“คุณอ้ายหร่าน สวัสดี!”

พอทั้งสองเข้ามาบริเวณกำแพงเมือง ก็ได้ยินเสียงทักทายอ้ายหร่านจากผู้คนที่เดินผ่าน

อ้ายหร่านพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้พูดตอบโต้อะไร

แม้ว่าท่าทางและสีหน้าของเธอเย็นชา เหมือนหยิ่งไม่ยุ่งกับคนแปลกหน้า แต่เธอเหมือนเป็นคนมีอำนาจในเมืองไป๋เฉาเลยมีคนจำนวนมากรู้จักเธอ

แต่คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนธรรมดาทั่วไป

ตอนที่เจอกับคนแต่งตัวภูมิฐานดูดี สวมใส่เครื่องประดับ ท่าทีของพวกเขาก็ไม่เหมือนคนเหล่านี้แล้ว

หลินหยางเห็นท่าทางดูถูกเหยียดหยามบนใบหน้าของพวกเขา

สิ่งนี้ทำให้หลินหยางเกิดความสงสัยมาก

แต่เขาก็ไม่ได้ไปถามซอกแซกเยอะ

อ้ายหร่านลังเลใจ แต่ก็พยักหน้า พูดว่า“หมอเทวดาหลิน ขอโทษจริงๆนะคะ ต้อนรับคุณไม่ดีเลย”

“ไม่เป็นไรครับ ถึงยังไงก็มีธุระ รออีกหน่อยก็ไม่เป็นไร”

“ขอบคุณมากนะคะ”อ้ายหร่านพยักหน้าพูดขึ้นอีก

ทั้งสองคนพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยระหว่างรออยู่ในห้องโถง

แต่ชัดเจนว่าอ้ายหร่านมีเรื่องในใจ ไม่ได้พูดอะไรมากมาย

หลินหยางพูดคุยจนเบื่อ จึงหลับตาพักผ่อนสงบจิตใจ

รอแบบนี้ไปอีกสองชั่วโมงจนฟ้ามืด ถึงได้มีคนเดินมา

แต่คนที่เดินมาไม่ใช่ผู้นำตระกูลอวี่และคนระดับสูง แต่เป็นผู้ชายมองดูแล้วอายุอานามสี่สิบปี

“คุณอาห้า? มาได้ยังไงคะ? พ่อหนูล่ะคะ?”

อ้ายหร่านลุกขึ้นถาม

“พ่อของเธอพวกเขากำลังจัดงานเลี้ยงดูแลแขกอยู่ อ้ายหร่าน รีบตามอาไปที่งานเร็ว ไปคารวะเหล้ากับแขกกันก่อน”ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าอาห้าพูดขึ้น

อ้ายหร่านชะงัก พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“คุณอาห้า หนูให้พ่อบ้านไปแจ้งพวกคุณพ่อแล้ว ว่าให้เขามาหาแขกที่ห้องโถงใหญ่ ทำไมคุณพ่อไม่รีบมา กลับกันไปจัดงานเลี้ยงดื่มเหล้า?”

“ทำอะไรไม่ได้ เสี่ยวหร่าน เธอเข้าใจหน่อยสิ แขกพิเศษครั้งนี้ไม่ธรรมดา มีความสำคัญกับตระกูลอวี่ แน่นอนว่าพ่อของเธอจะต้องดูแลดีๆ”อาห้าพูดอย่างจนปัญญา

“แล้วแขกที่หนูเอามาล่ะคะ? พวกเรารออยู่ที่นี่ตั้งสี่ชั่วโมง!”อ้ายหร่านพูดอย่างอึมครึม

“พอได้ละๆ เสี่ยวหร่าน อาห้ารู้ว่าเธอรอนาน ไปๆๆ ไปงานเลี้ยงกับอา ช้ากว่านี้ พ่อของเธอจะตำหนิอาละ”อาห้ายิ้มพูดขึ้น และไม่หยุดที่จะเร่งเร้า

“งั้นแขกของหนูล่ะคะ?”อ้ายหร่านถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“แขกของเธอ?”

คุณอาห้าชะงักงัน มองพิจารณาหลินหยางอยู่สักพักหนึ่ง ยิ้มพูดว่า“เดี๋ยวจะมีคนดูแล เสี่ยวหร่าน เสียเวลา เวลายืดเยื้อแล้ว รีบไปกับฉันเถอะ”

พูดจบก็จะดึงมืออ้ายหร่านออกไป

อ้ายหร่านถอยหนึ่งก้าวทันที พูดอย่างราบเรียบว่า“คุณอาห้า หนูเอาแขกมาแล้ว หนูไม่รู้หรอกนะว่าคุณพ่อกำลังต้อนรับแขกพิเศษแบบไหนอยู่ แต่ถ้าพวกคุณเลือกจะดูแคลนเขา งั้นหนูก็ต้องขอโทษด้วย แขกทางด้านนั้น พวกคุณดูแลกันเลย หนูจะอยู่ดูแลแขกหนู”

“เด็กคนนี้นี่ ทำไมไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย? เธอรู้ไหม เพราะเธอมาพ่อของเธอเลยรีบไปเชิญแขกคนสำคัญมา ถ้าเธอไม่ไป งานเลี้ยงนี้จะกินต่อได้ยังไง?”คุณอาห้ารีบพูดขึ้น

อ้ายหร่านกับหลินหยางมองหน้ากันทันที

“เพราะฉะนั้นจะบอกว่า ที่พวกหนูรอกันสี่ชั่วโมง คุณพ่อไม่ได้รับแขกอะไรเลย แต่ไปเชิญแขกมา?”อ้ายหร่านพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา