สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 272

สรุปบท บทที่ 272 ราชากระบี่: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา

สรุปเนื้อหา บทที่ 272 ราชากระบี่ – สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา โดย เฮยเย่เต๋ถอง

บท บทที่ 272 ราชากระบี่ ของ สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา ในหมวดนิยายนิยายปัจจุบัน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เฮยเย่เต๋ถอง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“พี่เหวิน วันนี้เป็นวันมงคล ผมว่าคุณออกไปต้อนรับแขกก่อนเถอะ เรื่องเล็กแค่นี้ไว้ค่อยว่ากันทีหลังก็ได้! เรื่องใหญ่สำคัญกว่า” ยิงโพหล้างพูด

“คุณชายยิง ต้องขออภัยด้วยที่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมดูแลไม่ทั่วถึงต้องขออภัย” เหวินไห่พูดด้วยความรู้สึกผิด

“ไม่เป็นไร แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกสงสัย เฟิงเลี่ยน่าจะไม่รู้จักนางแพศยาคนนั้น ทำไมเฟิงเลี่ยถึงยอมเสี่ยงเป็นศัตรูกับลัทธิฉงจงเพื่อช่วยเธอ?” ยิงโพหล้างพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

“เรื่องนี้ผมก็คิดไม่ตกเหมือนกัน” เหวินไห่ลูบปลายคางแล้วพูด

“ช่างเถอะ ช่างเถอะ คิดไม่ตกก็ไม่ต้องคิดแล้ว ก็แค่บุคคลเล็กๆแบบนี้ไม่ต้องไปสนใจ พี่เหวิน รีบไปเถอะ” ยิงโพหล้างยิ้มแล้วพูด

“ได้ คุณชายยิง งั้นผมขอตัวก่อน มีเรื่องอะไรก็บอกได้เลย”

“ฮืม!”

“ดูแลคุณชายยิงให้ดี ถ้าเกิดมีอะไรที่คุณชายยิงไม่พอใจ ผมมาคิดบัญชีกับพวกคุณแน่!” เหวินไห่พูดกับลูกศิษย์ของลัทธิฉงจงด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา หลังจากนั้นหันหลังแล้วเดินออกจากบ้านหลังนั้น

กำลังจะถึงฤกษ์มงคล ภายในลิทธิฉงคงคึกคักมาก

ตรงประตูทางขึ้นเขามีรถหรูเข้าออกไม่ขาดสายเหมือนกับตลาด

กลุ่มคนที่มาวันนี้ไม่ได้มีแต่ตระกูลการแพทย์ที่มีชื่อเสียงจากทุกสารทิศ ยังมีเจ้าพ่อธุรกิจที่มีชื่อเสียงอีกมากมายมาเป็นแขก โดยเฉพาะตระกูลที่อยู่ในวงการศิลปะการต่อสู้ก็มากันไม่น้อย

อย่างไรก็ตามลัทธิฉงจงมีเครือข่ายที่กว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นทักษะการแพทย์หรือการต่อสู้พวกเขาล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

“ฮ่าฮ่าฮ่า ยินดีด้วยยินดีด้วย!”

“ประธานฟางเกรงใจเกินไปแล้ว! มามา เชิญทางนี้!”

“ฮืม อาจารย์ชู่? คุณก็มาด้วยเหรอ? เชิญนั่ง เชิญนั่ง!”

“หัวหน้าจางมาถึงแล้ว? เชิญด้านใน!”

“เร็วเข้า เอาเหล้ามา! เหล้าอยู่ไหน?”

ภายในห้องจัดเลี้ยงคึกคักมาก งานแต่งครั้งนี้ลัทธิฉงจงจัดเป็นงานเลี้ยงขนาดใหญ่ มีโต๊ะจีนมากกว่าหนึ่งร้อยโต๊ะ แน่นอน โต๊ะหลักของงานมีเพียงสิบโต๊ะที่อยู่ด้านในเท่านั้น แขกที่นั่งอยู่ด้านในล้วนแต่เป็นบุคคลที่ขับรถขึ้นมาถึงบนภูเขาโดยตรง เห็นได้ชัดว่ามีสถานะที่ไม่ธรรมดา

เหวินไห่เดินเข้ามาทักทายแขกสำคัญ

ส่วนพ่อของเขาหรือก็คือเจ้าลัทธิฉงจงยังไม่ได้ปรากฏตัว

เขาไม่ชอบโอกาสแบบนี้มากเท่าไหร่ แต่ถ้าหากมีบุคคลสำคัญอะไรมาจริง ถ้าเหวินไห่ไม่สามารถรับมือ เขาก็จำเป็นต้องออกโรง

ในตอนนั้นเองมีลูกศิษย์คนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ เขากระซิบที่ข้างหูของเหวินไห่ “คุณเหวิน ราชากระบี่มาถึงแล้ว!”

“อะไรนะ?”

เหวินไห่รู้สึกอึ้ง หลังจากนั้นพูดด้วยความดีใจ “เร็วเข้า รีบไปเรียกผู้อาวุโสทุกตามผมออกไปต้อนรับ”

“ครับ!”

ลูกศิษย์คนนั้นวิ่งออกไป

ผ่านไปสักพัก อาวุโสของลัทธิฉงจงที่นั่งดื่มเป็นเพื่อนแขกทยอยกันลุกขึ้นตามเหวินไห่ออกไปที่ประตูใหญ่

เห็นเพียงชายชราผมเผ้ายุ่งเหยิงแต่งตัวธรรมดาคนหนึ่งกำลังเดินตรงเข้ามา

เสื้อผ้าของชายชราที่สวมใส่ซีดจนเหลือง บนกางเกงมีดินคนโคลนอยู่เล็กน้อย รองเท้าผ้าใบของเขามีรอยปะเต็มไปหมด ให้ความรู้สึกที่เหมือนกับคนใช้ชีวิตเรียบง่าย เมื่อเทียบกับความหรูหราที่อยู่โดยรอบไม่เข้ากันเลยสักนิด

แต่หลังจากที่รู้สถานะของชายชราคนนี้ ทุกคนแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคารพออกมาโดยไม่รู้ตัว

และถึงขั้นมีคนบางกลุ่มหยุดบทสนทนาวางแก้วที่อยู่ในมือลงแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้

“เขาคนนี้ก็คือราชากระบี่โน่งไคซาน?”

“เขาคนนี้เป็นถึงตำนานของประเทศเรา!”

“พระเจ้า เขาก็มาด้วยเหรอ!”

“มันน่าเหลือเชื่อมาก!”

ผู้คนแอบพากันซุบซิบ

มีคนเหมือนจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้จึงอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ราชากระบี่เป็นใคร?”

ทันทีที่พูดออกมา มีผู้คนไม่น้อยหันมามองเขาเหมือนกับกำลังมองคนโง่

“ทำไม? ไม่รู้จักแม้กระทั่งราชากระบี่เหรอ?”

“พูดมา พูดมา!”

“เหอะ กบในกะลา รู้จักหมอเทวดาหลินหรือเปล่า?”

“ต้องรู้จักอยู่แล้ว เขาเอาชนะแพทย์เกาหลีด้วยความสามารถของตัวเอง กอบกู้ชื่อเสียงวงการแพทย์แผนจีนเอาไว้”

“เขาในตอนนี้ก็สามารถพูดได้ว่าเป็นตำนาน ส่วนผู้อาวุโสราชากระบี่คนนี้ก็เหมือนกัน แต่เขามีชื่อเสียงก่อนหมอเทวดาหลินประมาณสามสิบปี ตอนนั้นคนของประเทศญี่ปุ่นส่งคนเข้ามาท้าทายยอดฝีมือภายในประเทศ ตอนนั้นสำนักและตระกูลในวงการศิลปะการต่อสู้พ่ายแพ้อย่างยับเยิน เพราะมีผู้อาวุโสราชากระบี่ออกหน้า จึงเอาชนะพวกญี่ปุ่นกอบกู้ชื่อเสียงของวงการศิลปะการต่อสู้กลับมาได้ คราวนี้เข้าใจหรือยัง?”

“อะไรนะ? มีชื่อเสียงจากการต่อสู้เมื่อสามสิบปีก่อน?” คนคนนั้นอ้าปากค้าง

สามสิบปีก่อนก็ร้ายกาจถึงขนาดนั้น สามสิบปีหลัง…ไม่รู้ว่าราชากระบี่คนนี้จะก้าวหน้าไปถึงระดับไหนแล้ว?

ทุกคนส่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกตะลึงจนเกิดเป็นเสียงที่วุ่นวาย

หลังจากนั้นลุกขึ้นเดินเข้าไปรุมล้อม มองโต๊ะที่ถูกผ่าออกจากการเป็นสองท่อนด้วยความเหลือเชื่อ

เหวินไห่ก็ตกตะลึงเหมือนกัน

เขามองโต๊ะที่ถูกผ่าออกเป็นสองท่อนแล้วมองกระบี่ไม้ที่อยู่ในมือ ผ่านไปสักพักระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“กระบี่ชั้นยอด! กระบี่ชั้นยอด! สมกับที่เป็นราชากระบี่ มา ไปนำเหล้าหยวนจวงหยุนออกมาให้ผู้อาวุโสราชากระบี่ดื่ม!” เหวินไห่รู้สึกอารมณ์ดีมาก

ถึงแม้สมัยนี้จะไม่มีคนใช้กระบี่กันแล้ว แต่ของแบบนี้ถือว่าเป็นของดีคู่ควรแก่การเก็บสะสม ยังไงมันก็มีดีกว่าพวกเพชรพลอยหรือรถหรู

แขกทุกคนรู้สึกอิจฉามาก และอดไม่ได้ที่จะพูดชื่นชมราชากระบี่สมกับที่เป็นตำนาน

ถึงแม้จะเป็นเพียงกระบี่ไม้ แต่กลับมีอนุภาคที่น่ากลัวมากขนาดนี้

สายตาที่ทุกคนมองไปทางราชากระบี่เต็มไปด้วยความตกใจและอยากรู้อยากเห็น

ในตอนนั้นเอง มีลูกศิษย์คนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ

“คุณชายเหวิน คุณหมิงหยูจากบ้านโอสถฉีมา!”

“หา?” เหวินไห่รู้สึกอึ้ง เขารู้สึกตื่นเต้นและดีใจขึ้นอีกครั้ง

บุคคลสำคัญของลัทธิฉงจงก็ดูดีใจมากเหมือนกัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากขนาดนั้น อย่างไรก็ตามคนพวกนี้ล้วนแต่เป็นบุคคลที่ไม่ด้อยไปกว่าลัทธิฉงจง

โดยเฉพาะบ้านโอสถฉี มันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในใจของหมอแพทย์แผนจีนมากมาย

แม้กระทั่งฝ่ายใต้ ฝ่ายเหนือ พรรคโบราณ พรรคหยิน สี่กลุ่มใหญ่แพทย์แผนจีนให้ความสำคัญกับบ้านโอสถฉีมาก เหตุผลไม่มีอย่างอื่น เป็นเพราะบ้านโอสถมีการผลิตวัตถุดิบยาที่มีชื่อเสียงทุกอย่าง มีสมุนไพรหายากหลายชนิดหรือแม้กระทั่งสมุนไพรที่ว่ากันว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว พวกเขาก็สามารถนำมันออกวางอยู่ตรงหน้าของคุณ

เรื่องที่กล่าวมาข้างต้นไม่เกินจริงเลยแม้แต่นิดเดียว

หมิงหยูเป็นตัวแทนในนามของบ้านโอสถฉี การมาถึงของเธอเป็นเครื่องยืนยันว่าบ้านโอสถฉีก็ให้ความสำคัญกับลัทธิฉงจงเหมือนกัน

เหวินไห่เดินเข้าไปต้อนรับผู้มา บนใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

หมิงหยูเป็นหญิงวัยกลางคน สวมชุดเดรส ท่าทางดูสง่างามและหรูหรา เธอพูดพร้อมกับรอยยิ้ม “เหวินไห่ ยินดีด้วย”

“คุณป้าหยินเกรงใจเกินไปแล้ว มา เชิญนั่งก่อน! ผมจะรีบไปเรียกคุณพ่อออกมาต้อนรับพวกคุณเดี๋ยวนี้!” เหวินไห่พูดด้วยความตื่นเต้น

ราชากระบี่และหมิงหยูไม่ใช่คนระดับเดียวกับเขา จำเป็นต้องเหวินโม่ซิงเจ้าลัทธิออกมา

“ฮ่าฮ่า ช่างเถอะ พ่อของคุณไม่ชอบงานที่คึกคักแบบนี้ ไม่ต้องไปเรียกเขาก็ได้ ถึงเวลาที่ควรออกมาเขาก็จะออกมาเอง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา