“พี่เหวิน วันนี้เป็นวันมงคล ผมว่าคุณออกไปต้อนรับแขกก่อนเถอะ เรื่องเล็กแค่นี้ไว้ค่อยว่ากันทีหลังก็ได้! เรื่องใหญ่สำคัญกว่า” ยิงโพหล้างพูด
“คุณชายยิง ต้องขออภัยด้วยที่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมดูแลไม่ทั่วถึงต้องขออภัย” เหวินไห่พูดด้วยความรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไร แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกสงสัย เฟิงเลี่ยน่าจะไม่รู้จักนางแพศยาคนนั้น ทำไมเฟิงเลี่ยถึงยอมเสี่ยงเป็นศัตรูกับลัทธิฉงจงเพื่อช่วยเธอ?” ยิงโพหล้างพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“เรื่องนี้ผมก็คิดไม่ตกเหมือนกัน” เหวินไห่ลูบปลายคางแล้วพูด
“ช่างเถอะ ช่างเถอะ คิดไม่ตกก็ไม่ต้องคิดแล้ว ก็แค่บุคคลเล็กๆแบบนี้ไม่ต้องไปสนใจ พี่เหวิน รีบไปเถอะ” ยิงโพหล้างยิ้มแล้วพูด
“ได้ คุณชายยิง งั้นผมขอตัวก่อน มีเรื่องอะไรก็บอกได้เลย”
“ฮืม!”
“ดูแลคุณชายยิงให้ดี ถ้าเกิดมีอะไรที่คุณชายยิงไม่พอใจ ผมมาคิดบัญชีกับพวกคุณแน่!” เหวินไห่พูดกับลูกศิษย์ของลัทธิฉงจงด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา หลังจากนั้นหันหลังแล้วเดินออกจากบ้านหลังนั้น
กำลังจะถึงฤกษ์มงคล ภายในลิทธิฉงคงคึกคักมาก
ตรงประตูทางขึ้นเขามีรถหรูเข้าออกไม่ขาดสายเหมือนกับตลาด
กลุ่มคนที่มาวันนี้ไม่ได้มีแต่ตระกูลการแพทย์ที่มีชื่อเสียงจากทุกสารทิศ ยังมีเจ้าพ่อธุรกิจที่มีชื่อเสียงอีกมากมายมาเป็นแขก โดยเฉพาะตระกูลที่อยู่ในวงการศิลปะการต่อสู้ก็มากันไม่น้อย
อย่างไรก็ตามลัทธิฉงจงมีเครือข่ายที่กว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นทักษะการแพทย์หรือการต่อสู้พวกเขาล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
“ฮ่าฮ่าฮ่า ยินดีด้วยยินดีด้วย!”
“ประธานฟางเกรงใจเกินไปแล้ว! มามา เชิญทางนี้!”
“ฮืม อาจารย์ชู่? คุณก็มาด้วยเหรอ? เชิญนั่ง เชิญนั่ง!”
“หัวหน้าจางมาถึงแล้ว? เชิญด้านใน!”
“เร็วเข้า เอาเหล้ามา! เหล้าอยู่ไหน?”
ภายในห้องจัดเลี้ยงคึกคักมาก งานแต่งครั้งนี้ลัทธิฉงจงจัดเป็นงานเลี้ยงขนาดใหญ่ มีโต๊ะจีนมากกว่าหนึ่งร้อยโต๊ะ แน่นอน โต๊ะหลักของงานมีเพียงสิบโต๊ะที่อยู่ด้านในเท่านั้น แขกที่นั่งอยู่ด้านในล้วนแต่เป็นบุคคลที่ขับรถขึ้นมาถึงบนภูเขาโดยตรง เห็นได้ชัดว่ามีสถานะที่ไม่ธรรมดา
เหวินไห่เดินเข้ามาทักทายแขกสำคัญ
ส่วนพ่อของเขาหรือก็คือเจ้าลัทธิฉงจงยังไม่ได้ปรากฏตัว
เขาไม่ชอบโอกาสแบบนี้มากเท่าไหร่ แต่ถ้าหากมีบุคคลสำคัญอะไรมาจริง ถ้าเหวินไห่ไม่สามารถรับมือ เขาก็จำเป็นต้องออกโรง
ในตอนนั้นเองมีลูกศิษย์คนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ เขากระซิบที่ข้างหูของเหวินไห่ “คุณเหวิน ราชากระบี่มาถึงแล้ว!”
“อะไรนะ?”
เหวินไห่รู้สึกอึ้ง หลังจากนั้นพูดด้วยความดีใจ “เร็วเข้า รีบไปเรียกผู้อาวุโสทุกตามผมออกไปต้อนรับ”
“ครับ!”
ลูกศิษย์คนนั้นวิ่งออกไป
ผ่านไปสักพัก อาวุโสของลัทธิฉงจงที่นั่งดื่มเป็นเพื่อนแขกทยอยกันลุกขึ้นตามเหวินไห่ออกไปที่ประตูใหญ่
เห็นเพียงชายชราผมเผ้ายุ่งเหยิงแต่งตัวธรรมดาคนหนึ่งกำลังเดินตรงเข้ามา
เสื้อผ้าของชายชราที่สวมใส่ซีดจนเหลือง บนกางเกงมีดินคนโคลนอยู่เล็กน้อย รองเท้าผ้าใบของเขามีรอยปะเต็มไปหมด ให้ความรู้สึกที่เหมือนกับคนใช้ชีวิตเรียบง่าย เมื่อเทียบกับความหรูหราที่อยู่โดยรอบไม่เข้ากันเลยสักนิด
แต่หลังจากที่รู้สถานะของชายชราคนนี้ ทุกคนแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคารพออกมาโดยไม่รู้ตัว
และถึงขั้นมีคนบางกลุ่มหยุดบทสนทนาวางแก้วที่อยู่ในมือลงแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้
“เขาคนนี้ก็คือราชากระบี่โน่งไคซาน?”
“เขาคนนี้เป็นถึงตำนานของประเทศเรา!”
“พระเจ้า เขาก็มาด้วยเหรอ!”
“มันน่าเหลือเชื่อมาก!”
ผู้คนแอบพากันซุบซิบ
มีคนเหมือนจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้จึงอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ราชากระบี่เป็นใคร?”
ทันทีที่พูดออกมา มีผู้คนไม่น้อยหันมามองเขาเหมือนกับกำลังมองคนโง่
“ทำไม? ไม่รู้จักแม้กระทั่งราชากระบี่เหรอ?”
“พูดมา พูดมา!”
“เหอะ กบในกะลา รู้จักหมอเทวดาหลินหรือเปล่า?”
“ต้องรู้จักอยู่แล้ว เขาเอาชนะแพทย์เกาหลีด้วยความสามารถของตัวเอง กอบกู้ชื่อเสียงวงการแพทย์แผนจีนเอาไว้”
“เขาในตอนนี้ก็สามารถพูดได้ว่าเป็นตำนาน ส่วนผู้อาวุโสราชากระบี่คนนี้ก็เหมือนกัน แต่เขามีชื่อเสียงก่อนหมอเทวดาหลินประมาณสามสิบปี ตอนนั้นคนของประเทศญี่ปุ่นส่งคนเข้ามาท้าทายยอดฝีมือภายในประเทศ ตอนนั้นสำนักและตระกูลในวงการศิลปะการต่อสู้พ่ายแพ้อย่างยับเยิน เพราะมีผู้อาวุโสราชากระบี่ออกหน้า จึงเอาชนะพวกญี่ปุ่นกอบกู้ชื่อเสียงของวงการศิลปะการต่อสู้กลับมาได้ คราวนี้เข้าใจหรือยัง?”
“อะไรนะ? มีชื่อเสียงจากการต่อสู้เมื่อสามสิบปีก่อน?” คนคนนั้นอ้าปากค้าง
สามสิบปีก่อนก็ร้ายกาจถึงขนาดนั้น สามสิบปีหลัง…ไม่รู้ว่าราชากระบี่คนนี้จะก้าวหน้าไปถึงระดับไหนแล้ว?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...