ซูกุ้ยรู้บางอย่างเกี่ยวกับบทที่หนึ่งเฉียนจินฟางหลิง เมื่อเขาเห็นคุณนายซูเป็นลมและมีปัญหากับเส้นประสาทของเธอ เขาจึงจะใช้วิธีนี้เพื่อกระตุ้นประสาทของคุณนายซู ในขณะเดียวกันก็ใช้ผงหญ้ามดในการให้ความอบอุ่นเพื่อที่จะรักษาให้หายได้
แต่เขาทำผิดมหันต์
เริ่มแรกเลย เขาไม่รู้ว่าปัญหาของคุณนายซูอยู่ตรงไหน และใช้การฝังเข็มแบบนั้น ต่อมา ร่างกายของคุณนายซูอ่อนแออย่างมาก แล้วจะต้านทานผลของผงหญ้ามดนั้นได้หรอ? เลยเกิดอาการแบบนี้ออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย
เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์คนนั้นเป็นแค่นักเรียนคนหนึ่งของสถาบันการแพทย์พรรคซวนอี แน่นอนว่าไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์แบบนี้ยังไง ทำได้เพียงพูดว่า: "ผมจะจัดหาที่พักให้กับคนไข้ก่อน โรคแบบนี้ต้องให้อาจารย์ฉินไป่ซงหรือไม่ก็อาจารย์หลงโชมาดูแล พวกคุณรอสักครู่!"
"ต้องรอนานไหม?" ซูหยูถามอย่างเร่งรีบ
"อันนี้ผมก็ไม่รู้ อาจารย์หลายคนกำลังยุ่งอย่างมาก ผมไม่รู้ว่าพวกเขาตอนนี้มีอะไรต้องทำบ้าง พวกเขาต้องจัดการเรื่องต่างๆ ให้เสร็จก่อนถึงจะมาได้" ชายคนนั้นส่ายหน้า
"พวกคุณนี่มันอะไรกัน? เรื่องอะไรถึงสำคัญกว่าชีวิตคน!" ซูเจินตะโกนออกมาด้านข้าง
ชายคนนั้นหน้านิ่งลง พูดอย่างเย็นๆ: "คุณผู้หญิงท่านนี้ เรื่องที่อาจารย์กำลังจัดการอยู่ต่างเกี่ยวข้องกับชีวิตคน ตอนนี้ทุกคนในสถาบันการแพทย์พรรคซวนอีกำลังยุ่งอยู่กับการช่วยเหลือคนอื่น อย่าคิดว่าชีวิตของพวกคุณจะเป็นชีวิตที่สำคัญคนเดียว ชีวิตของคนอื่นไม่สนใจ พวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาชีวิตของทุกคน แต่หวังว่าพวกคุณจะแสดงท่าทีที่ดีหน่อย"
"หืม นี่มันคำพูดอะไรกัน?" ซูเจินอารมณ์ขึ้น จะทะเลาะกับคนนั้น แต่ซูหยูดึงเธอเอาไว้
"ป้า หยุดพูดเถอะ..." ซูหยูน้ำตาไหล
ซูเจินอ้าปาก แต่ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา
หลินหยางจ้องมองทุกอย่างเงียบๆ เพราะเขาสวมหมวกเมื่อเวลาเขาออกไปด้านนอก ดังนั้นทุกคนจึงไม่รู้ว่าเขาคือประธานหลิน
เขาส่ายหน้าและออกไปโดยตรง
สำหรับคุณนายซูแล้ว เขาไม่ได้สนใจเลยสักนิด ดังนั้นในช่วงเวลาวิกฤติแบบนี้ เขาจึงไม่ลงมือช่วย จะเป็นจะตายก็ขึ้นอยู่กับเทพเจ้า เขาไม่จำเป็นต้องช่วยคุณนายซู แน่นอน เขายังคงมีมนุษยธรรมอยู่ เขาคงไม่สั่งให้พรรคซวนอีไม่ให้ช่วยเหลือคุณนายซูหรอก
แค่ว่า หลินหยางเดินไม่กี่ก้าว
"พี่เขย?"
มีเสียงที่นุ่มนวลราวกับร้องไห้ดังขึ้นมา
หลินหยางตัวสั่น ไม่ได้หันหน้ากลับไป เด็กผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็วและคว้าแขนของหลินหยางเอาไว้
หลินหยางหันหน้าเล็กน้อยและเห็นว่าคนที่จับแขนของเขาคือซูเสี่ยวชิง
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นใบหน้าตอนนี้ของเขาว่าเป็นประธานหลิน ไม่ใช่หลินหยาง ซูเสี่ยวชิงก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร
ด้านซูเหยียนก็แปลกใจมากเช่นกัน แม้ว่าจะไม่เคยเห็นหน้าที่แท้จริงของหลินหยาง แต่อาจเป็นเพราะเงาด้านหลังของหลินหยางนี้ จึงทำให้เธอตะโกนออกมา: "หลินหยาง คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?"
เอาเถอะ!
หลินหยางถอนหายใจ ค่อยๆ ดึงหยิบเข็มมาแทงคอของตัวเอง
ทันใดนั้นใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาราวกับพระเจ้าได้กลับไปสู่รูปลักษณ์ของหลินหยาง
เขาหันหน้าไปมองซูเสี่ยวชิงด้วยรอยยิ้ม: "เสี่ยวชิง!"
"พี่เขย คุณจริงๆ ด้วย!"
ซูเสี่ยวชิงดีใจอย่างมาก
"ขยะนี้ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้?" จางชิงหยูขมวดคิ้วและไม่พอใจในทันที
หลินหยางไม่ตอบอะไร แค่หันหน้าและพยักหน้าไปทางซูเหยียนเพื่อเป็นการทักทาย
ซูเหยียนอ้าปาก ลังเลและถอนหายใจ: "คุณย่าป่วยหนักมาก ครั้งนี้เป็นเรื่องจริง คุณไปดูหน่อยเถอะ"
หลินหยางเดิมอยากจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นสายตาที่หมดหนทางและกังวลอย่างมากของซูเหยียนแล้ว เขาก็พยักหน้า เดินไปทางคุณนายซูที่วางอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลแบบเปิดโล่ง
"สุนัขอย่างคุณมาที่นี่ด้วยหรอ? ออกไป!"
ซูเจินที่หงุดหงิดเห็นหลินหยางเดินเข้ามาก็ตะโกนออกไปด้วยความโกรธ
"ป้า ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้กับหลินหยางหล่ะ? เขาหวังดีนะ!" ซูเหยียนโมโห
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...