"อืม...ได้สิ แต่ตอนนี้ผมมีเรื่องที่ต้องจัดการที่เจียงเฉินเยอะมา ไว้วันอื่นละกัน"
"โอเค งั้นฉันค่อยโทรหาคุณละกัน" หลิวหรูซือดีใจ พูดเร็วขึ้นเล็กน้อย
เมื่อโทรเสร็จ หลินหยางก็ขึ้นเครื่องบิน
อันที่จริง มีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขากังวลที่จะกลับไปเจียงเฉิน
นั่นคือเวลาที่ตกลงกับเจ้าบ้านโอสถฉีกำลังจะมาถึงแล้ว
หลังจากเสียงเวลาในยิงหลงวิลล่าไปสองสามวัน เวลาก็เหลือไม่มากแล้ว แม้ว่าหลินหยางจะเชื่อมั่นว่าสามารถเอาชนะเจ้าบ้านโอสถฉีได้ แต่เขาก็ไม่กล้าประมาท แต่อีกฝ่ายสร้างหนังสือเพื่อมาท้าทาย เห็นได้ชัดว่าเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นมา หลินหยางจะไปหาดอกเหอหลิงที่ไหนมาคืนบ้านโอสถฉี?
เมื่อลงเครื่องบิน หลินหยางก็มุ่งตรงไปยังพรรคซวนอี
ตอนนี้ผู้ที่ป้วยในสถาบันการแพทย์พรรคซวนอียังคงพลุกพล่าน แต่ผู้ที่ป่วยจากยาบำรุงหัวใจหยางซินได้รับการรักษาให้หายขาดแล้ว 70-80% กล่าวได้ว่าวิกฤตครั้งนี้ได้รับการช่วยเหลือจากพรรคซวนอี ชื่อเสียงของสถาบันการแพทย์ซวนอีระเบิดไปทั่วประเทศและยังได้รับชื่อเสียงที่ดีในระดับสากลอีกด้วย
ทุกวัน ผู้คนและองค์กรจากทุกสาขาอาชีพส่งธงและคำชมมาให้ แม้แต่สมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยจำนวนมากก็ส่งเงินและสินค้าเพื่อแสดงความขอบคุณ
แต่ภายใต้คำสั่งของหลินหยาง นอกจากธงและคำขอบคุณแล้ว ของอย่างอื่นให้บริจาคออกไป
ด้วยการเคลื่อนไหวเช่นนี้ทำให้ชื่อของพรรคซวนอีดีขึ้น
บุคคลสำคัญจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศได้เริ่มให้ความสนใจกับอำนาจที่เพิ่มขึ้นใหม่นี้
วึงวึง...
ในเวลานี้โทรศัพท์ดังขึ้นทันใด
หลินหยางที่กำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่ในห้องทำงานขมวดคิ้วเล็กน้อยและรับสาย
"คุณอยู่ไหน?" เสียงที่เย็นชาดังขึ้นจากปลายสาย
นั่นคือเสียงของซูเหยียน
"มีเรื่องอะไรหรอ?" หลินหยางถามอย่างนิ่งสงบ
เขาไม่รู้สึกอะไรกับซูเหยียนแล้ว เหตุผลที่รับสายของเธอเพราะรู้สึกว่าต้องทำ อย่างไรก็ตามเธอยินยอมที่จะสัญญาในตอนนั้นและเป็นสามีภรรยากันกับหลินหยาง
"ฉันทำอาหารแล้ว คุณกลับมากินข้าวสิ" ซูเหยียนลังเลสักพักและพูด
หลินหยางผงะเล็กน้อย เขาแปลกใจ
ซูเหยียนยุ่งมากในวันธรรมดา ยังมีเวลามาทำอาหารหรอ?
หรือจะบอกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
เขาคิดสักพักและเอ่ยปาก: "เดี๋ยวผมจะกลับไปตอนนี้"
เมื่อตัดสาย หลินหยางก็ขับรถไปยังเยว่เหยียนอินเตอร์เนชั่นแนลทันที
ซูกวงสองสามีภรรยาไม่ได้เช่าบ้านด้านนอก และไม่ได้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของหลินหยาง แต่ตามความต้องการของซูเหยียน พวกเขาย้ายมาอยู่ห้องเช่าชั่วคราวข้างบริษัท ซูเหยียนจะได้ทำงานสบายๆ สองคือประหยัดเงิน อย่างไรก็ตามเยว่เหยียนอินเตอร์เนชั่นแนลยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ
เมื่อเดินเข้ามาในบ้านก็ได้กลิ่นหอมของอาหาร
เมื่อหลินหยางดม หลินหยางไอสองสามครั้ง
"มันไหม้นิดหน่อย ขอโทษด้วย"
ซูเหยียนสวมผ้ากันเปื้อนรูปโดเรม่อนออกมาพร้อมกับชามซุปร้อนอยู่ในมือ
แบบนี้ดูเหมือนภรรยาและแม่ที่ดี แต่น่าเสียดายที่ชะตากรรมของทั้งคู่จะจบลงในไม่ช้า
หลินหยางเหลือบมองไปรอบห้อง มีเพียงพวกเขาแค่สองคน และถาม: "พ่อแม่หล่ะ?"
"พวกเขาไปหาคุณย่า แม่ไม่อยากไป แต่พ่อขอร้องอยู่นาน..." ซูเหยียนยกซุปมาวาง เปา มือของเธอแดงเล็กน้อย น่ารักอย่างมาก
"โอ้ แล้วทำไมคุณถึงเรียกผมมากินข้าวหล่ะ?"
"ไม่มีอะไร แค่...แค่รู้สึกว่าการทำกับคุณก่อนหน้านี้ไม่เหมาะผม เลยอยากจะขอโทษ อีกอย่าง พวกเราไม่ได้กินข้าวที่บ้านด้วยกันนานแล้ว" ซูเหยียนพูด
หลินหยางไม่พูดอะไร
ซูเหยียนตักข้าวมาสองถ้วยและส่งให้หลินหยางถ้วยหนึ่ง
"ลองฝีมือฉันหน่อย?" ซูเหยียนพูด
หลินหยางพยักหน้าและลองกิน
"เป็นยังไง?" ใบหน้าของเธอคาดหวัง
"พูดจริงนะ ไม่เท่าไหร่" หลินหยางพูด
เมื่อซูเหยียนได้ยินก็โกรธ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
เพราะเธอเคยกินอาหารของหลินหยางแล้ว
เทียบกับอาหารของหลินหยางแล้ว....ฝีมืออของเธอแย่กว่ามาก
"กินเถอะ" หลินหยางคีบอาหารและกินเข้าไป
ซูเหยียนเห็นก็แปลกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...