"คุณแอนนา ซั่วเอื้อต่อการพัฒนาตลาดตะวันออกและสำคัญต่อตระกูลของเรามาก ยิ่งไปกว่านั้น…ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผมคิดว่าซั่วแค่มายอมรับผิดต่อคุณหลินก็พอแล้ว ถ้าหากสามารถจัดการปัญหาได้อย่างสันติ แบบนี้มันไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุดหรอกเหรอ?" สมิธพูดอย่างช่วยไม่ได้
"เรื่องนั้นคุณไม่ควรเป็นคนตัดสินใจ ถ้าคุณอยากยืนอยู่ฝั่งเดียวกับอาจารย์ คุณก็ควรทำตามความคิดของอาจารย์ ถ้าคุณอยากเป็นนักไกล่เกลี่ยของอาจารย์ งั้นเชิญคุณไปได้เลย ไม่อย่างนั้นฉันกังวลว่าคุณจะทำให้อาจารย์รู้สึกไม่ดีต่อฉันไปด้วย! คุณมันไอ้โง่" แอนนาด่าต่อ
"เรื่องนี้…" สมิธรู้สึกอึ้ง
"สมิธ ไอ้โง่ ฉันจะบอกเจตนารมณ์ของตระกูลเราให้คุณฟังก็แล้วกัน ถ้าหากอาจารย์ต้องการยืมอิทธิพลของตระกูลเราเพื่อบรรลุเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ตระกูลของเราจะช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่ คุณน่าจะเข้าใจความหมายนี้แล้วนะ?" แอนนาพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม หลังจากนั้นกดวางสายไปโดยตรง
ร่างกายของสมิธสั่นสะท้านเหมือนโดนฟ้าผ่า เขายืนถือโทรศัพท์อยู่ตรงที่เดิม
หมายความว่ายังไง?
มันหมายความว่าถ้าหากหลินหยางต้องการจัดการสมิธ ตระกูลที่อยู่เบื้องหลังของแอนนาก็จะลงมือทันที
ไม่มีการลังเล!
ฆ่าให้ตายไม่เว้น!
ตกลงหลินหยางคนนี้มีเสน่ห์อะไรกันแน่ ถึงขั้นสามารถทำให้คุณแอนนาและตระกูลที่อยู่เบื้องหลังสนับสนุนเขาทุกอย่างโดยไม่มีเงื่อนไข
ลมหายใจของสมิธหยุดชะงัก เขาเพิ่งจะเข้าใจว่าตกลงตัวเองมันโง่แค่ไหน!
เขารีบส่งโทรศัพท์คืนให้หลินหยาง
"อาจารย์หลิน ให้ผมพาคุณไปพบซั่วเถอะ!" สีหน้าของสมิธจริงจังมาก พูดด้วยน้ำเสียงที่เคารพ
"แล้วท่าทีของคุณคือ?" หลินหยางถามด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์
สีหน้าของสมิธเคร่งขรึมลง เขาพูดด้วยความโกรธอย่างไม่ลังเลทันที "พฤติกรรมของซั่วฟางน่าขยะแขยงมาก เขาจำเป็นต้องขอโทษต่ออาจารย์ ยอมรับการลงโทษจากอาจารย์ ไม่อย่างนั้น ผมไม่มีทางให้อภัยเขาเด็ดขาด!"
ดูเหมือนคำพูดของแอนนาจะใช้ได้ผล
หลินหยางเก็บโทรศัพท์ เดินตรงไปที่ลิฟท์
สมิธรีบเดินตามหลังทันที
ส่วนคนของซั่วฟางที่อยู่ด้านหลังงงเป็นไก่ตาแตก ถึงกับพูดลิ้นพันกัน
"นี่…นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?"
"เร็วเข้า รีบโทรบอกคุณชาย เร็ว!"
ในนิทรรศการ
ซั่วฟางยังคงเดินถือไวน์แดงไปพูดคุยกับบุคคลสำคัญและแขก แต่ละคนล้วนแต่เป็นคนที่เขาคิดว่าสามารถใช้ประโยชน์ได้
ถึงจะเกิดเรื่องขึ้นมากมาย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของผู้คน
ที่นี่ยังคงเต็มไปด้วยแสงสีและผู้คนถือไวน์แดงเดินไปเดินมา!
หึ่มหึ่ม
โทรศัพท์ดัง
"ขออภัย!"
ซั่วฟางพยักหน้าให้แขกแล้วยิ้มเล็กน้อย หลังจากนั้นเดินออกไปที่ด้านข้าง หยิบโทรศัพท์ออกมา
"คุณชาย คุณสมิธมาแล้ว!" คนที่อยู่ด้านข้างเดินเข้ามาพูดอย่างกะทันหัน
"ฮึม?"
ซั่วฟางรู้สึกประหลาดใจ กวาดสายตามองเบอร์ที่โทรเข้าแวบหนึ่ง เห็นว่าเป็นคนของตัวเองโทรมา จึงกดวางสายโดยไม่ได้สนใจ หลังจากนั้นเดินตรงไปที่ประตู
"คุณสมิธ ในที่สุดคุณก็ยอมกลับมาแล้ว? ฮ่าฮ่าฮ่า ผมอยากจะนั่งคุยกับคุณเรื่องเมื่อกี้ เพื่อปรับความเข้าใจผิดที่คุณมีต่อผม!" ซั่วฟางยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด
แต่…สมิธไม่ได้สนใจเขา เขาหันไปมองด้านหลังของตัวเองแทน
ซั่วฟางแสดงท่าทีที่สงสัย หันไปมองด้านหลังเช่นกัน
เขาเพิ่งจะพบว่าที่ด้านหลังของสมิธมีผู้ชายคนหนึ่งที่มีรูปลักษณ์ภายนอกแตกต่างกันยืนอยู่ตรงนั้น
ผู้ชายคนนี้…มีใบหน้าที่หล่อเหลามาก สง่างามราวกับเทพบุตร! เมื่อนำพวกดาราผู้ชายพวกนั้นมาเทียบ แตกต่างกันเรากับหมาข้างถนนไปโดยสิ้นเชิง
แต่ว่าคนคนนี้…เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน?
ความรู้สึกสงสัยเกิดขึ้นในใจของซั่วฟาง
วินาทีต่อมา สมิธพูดคำพูดที่สามารถทำให้คนฟังรู้สึกตกใจออกมา
"อาจารย์หลิน คุณเห็นว่ายังไง?"
อาจารย์หลิน?
ชายหนุ่มคนนี้?
สมองของซั่วฟางรู้สึกว่างเปล่าไปหมด
กลับได้ยินหลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย "คนคนนี้ก็คือซั่วฟาง? ไปคุยกันในห้องที่อยู่ด้านข้างกันดีกว่า"
"ได้!" สมิธพยักหน้าด้วยความเคารพ
เห็นสีหน้าท่าทางของสมิธเป็นแบบนี้ ซั่วฟางรู้สึกว่ากลไกการทำงานสมองของเขากำลังจะปิดตัวลงแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...