ซูเหยียนมองหลินหยางด้วยความตกใจ
"ขยะอย่างคุณจะรู้จักกับผู้กำกับซ่งจิงได้ยังไง?" จางชิงหยูถามเพราะอดทนไม่ไหว
"ก็แค่เคยเจอกันครั้งหนึ่ง ไม่นับว่ารู้จัก" หลินหยางเอ่ยปากออกมา
คำพูดนี้คือความจริง
หม่าไห่เป็นคนแนะนำซ่งจิงให้กับเขา พูดตรงๆ แล้ว เขาไม่เคยเจอกับซ่งจิงเลยสักครั้ง รู้จักนับว่ารู้จัก แต่ไม่เคยคุยอะไรกันเท่าไหร่
"ผมได้ยินว่าการถ่ายภาพยนต์ของซ่งจิงในครั้งนี้ได้รับการลงทุนโดยหยางหัวกรุ๊ป ในความคิดของผม หลินหยางไม่ได้แนะนำซ่งจิงให้เสี่ยวหยูรู้จักหรอก แต่เป็นหมอเทวดาหลินที่แนะนำมากกว่ามั้ง?" ในเวลานี้ จู่ๆ ซูกวงก็พูดออกมา
เมื่อพูดจบ หลิวหม่านซานที่กำลังร้องไห้ก็เงยหน้าขึ้นมามองซูกวง: "อากวง คุณหมายความว่า..."
"เหอะ นี่ยังไม่เข้าใจอีกหรอ? แทนที่จะขอร้องหลินหยางที่ไร้ประโยชน์ ไปขอร้องลูกสาวของฉันโดยตรงดีกว่า ให้ลูกสาวฉันโทรไปหาประธานหลิน บอกให้ซ่งจิงเลือกซูหยูต่อ แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรอ?" จางชิงหยูยิ้มอย่างสูงส่ง
กระแสน้ำกำลังเปลี่ยน
จางชิงหยูไม่เคยคาดหวังว่าจะมีนี้ที่นี่
ต้องบอกว่า หยางหัวกรุ๊ปในฐานะนักลงทุนได้ลงทุนในภาพยนตร์เรื่อง พยัคฆ์สงคราม เรื่องใหม่ของซ่งจิงที่แพร่กระจายไปทั่วอินเทอร์เน็ต
เธอไม่ค่อยเล่นเน็ตจึงไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่อนี้
ตอนนี้คิดดูแล้ว ซูหยูคืออะไร? ลูกสาวของตัวเองคือผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ใช่หรือ?
เมื่อนึกถึงสิงนี้ จางชิงหยูก็รู้สึกภูมิใจ
"อากวง คุณไม่พูดตั้งนาน ให้ฉันมาขอร้องไอขยะนี่อยู่ตั้งนาน!" หลิวหม่านซานเช็ดน้ำตา จากนั้นก็หันหน้าไปมองจางชิงหยู
จริงๆ แล้วหลิวหม่านซานเองก็ไม่เชื่อว่าหลินหยางจะรู้จักซ่งจิง แต่เธอหมดหนทาง เลยยอมทำทุกอย่างเพื่ออ้อนวอนหลินหยาง
ไม่นาน หลินหยางก็ถูกทิ้งไว้ข้างๆ
กลายเป็นเสาหลักข้างทาง
หลินหยางขมวดคิ้ว มีความโกรธในดวงตาของเขา
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ เสียงร้องดังมาจากประตู
"ลูกสาว อย่า!"
เมื่อทุกคนได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนไปและรีบวิ่งเข้าไปในห้อง...
ปัง!
ประตูห้องถูกเปิดโดยซูไท่ที่กำลังเฝ้าห้องอยู่
ซูไท่ยังคงพูดโน้มน้าวที่ที่ประตู แต่ไม่ได้รับการตอบรับของซูหยู หลังจากที่ได้ยินเสียงแปลกๆ ซูไท่ก็พยายามดันประตูเข้าไป
ทันทีที่เข้าไปในห้องของซูหยู ก็เห็นเธอนั่งอยู่ริมหน้าต่างแล้ว โดยที่เท้าทั้งสองข้างห้อยลงไป ผมของเธอยุ่งเหยิง และน้ำตาก็ไหลอาบใบหน้าของเธอ
ซูไท่ตกใจรีบเดินเข้าไปดึงเธอลงมา
แต่ในเวลานี้ ซูหยูตะโกนออกมา: "พ่อ ไม่ต้องเข้ามา!"
ซูไท่เห็นว่าเธอเอามือทั้งสองข้างบนขอบหน้าต่าง เขาตกใจและรีบหยุด ตาแดงและพูด: "เสี่ยวหยู อย่าทำอะไรมั่วซั่ว มีเรื่องอะไรมานั่งคุยกันดีกว่า อย่าทำอะไรแบบนี้!"
"พ่อ ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันเขียนจดหมายลาตายไปแล้ว ฉันเหนื่อย ฉันเหนื่อยจริงๆ ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว..." ซูหยูพูดอย่างเจ็บปวด น้ำตาของเธอไหลรินลงมาเหมือนสายน้ำ
ภายนนอก เธอทำเป็นเข่มแข็ง แต่เธอทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอก็ทนได้
ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใด เธอก็จะผ่านมันไปได้
อย่างไรก็ตาม...ตอนนี้ไม่ใช่ภายนอก! แต่มันเป็นภายใน...
บ้านหลังนี้ที่เธอเรียกว่าเซฟโซนของเธอก็พังทลายลงเชนกัน
จิตใจของเธอตอนนี้พังทลาย เธอมองไม่เห็นความหวังอีกต่อ
บางทีการตายอาจจะทำให้เธอหลุดพ้น
"เสี่ยวหยู! ทำอะไรหน่ะ?"
"ลูกสาว อย่าทำอะไรมั่วซ่ว แม่รู้แล้วว่าแม่ผิด!"
หลิวหม่านซาน ซูเหยียนและคนอื่นๆ พุ่งเข้ามา หลิวหม่านซานคุกเข่าอยู่บนพื้นและร้องไห้ออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...