"ในบัตรใบนี้มีเงินยี่สิบล้าน คุณไสหัวไปเถอะ!" หลินหยางหยิบบัตรธนาคารใบนั้นออกมาแล้วโยนออกไป
เป็นไปตามที่คาด
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…"
มีเสียงหัวเราะระเบิดขึ้นกลางงานเลี้ยง
"นี่คุณยังจะเสแสร้งไปถึงไหน? ไอ้คนไร้ประโยชน์คุณจะมีเงินยี่สิบล้านเหรอ? คนที่เชื่อคุณก็คงจะมีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละ!" จางซีพูดจาถากถางโดยตรง
"เกรงว่าภายในบัตรคงจะมีอยู่สองพันมากกว่ามั้ง?" พี่เหมยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูถูก
"ฉันว่าเงินสองพันในบัตรต้องเป็นเงินที่เสี่ยวเหยียนให้แน่นอน คนที่งอมืองอเท้ารอให้คนอื่นเลี้ยง และยังไม่มีงานทำอีกจะไปเอาเงินสองพันจากไหน?" เสี่ยวหรานพูดเยาะเย้ย
คำพูดของเธอทำให้ทุกคนรู้สึกเห็นด้วยทันที
"แล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเหรอ? มีใครไม่รู้บ้างว่าลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านตระกูลซูเป็นคนประเภทไร้ประโยชน์?"
"คุณซูแต่งงานกับคนแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับตกนรก!"
"มีแต่ผู้ชายอย่างคุณชายฉู่ถึงจะคู่ควรกับคุณซู!"
ฉู่เหย้าหางกวาดสายตามองบัตรธนาคารใบนั้นแวบหนึ่ง เขาตั้งใจพูดด้วยอารมณ์ที่ตื่นเต้น "หลินหยาง ผมเคยได้ยินเรื่องราวของคุณ ซูเหยียนไม่ได้รักคุณเลย ไม่อย่างนั้นภายในสามปีทำไมถึงไม่เคยให้คุณแตะต้องแม้แต่ปลายนิ้ว ในเมื่อเหยียนเหยียนไม่รักคุณ ทำไมคุณถึงไม่ยอมปล่อยเธอไป? คุณอยากได้อะไรคุณพูดมา ขอเพียงเป็นสิ่งที่ผมฉู่เหย้าหางทำได้ ลืมแม้กระทั่งชีวิตของผมผมก็ให้คุณได้! ผมแค่หวังว่าคุณจะยอมปล่อยเหยียนเหยียนไป!"
คำพูดประโยคนี้ทำให้ผู้คนไม่น้อยรู้สึกหวั่นไหวอีกครั้ง
"คุณชายฉู่เป็นคนที่มีอารมณ์ลึกซึ้งมาก!"
"ยิ่งไปกว่านั้นนิสัยดีด้วย ถ้าหากเป็นฉันนะ คงจะวิ่งเข้าไปหาเขาอย่างไร้ยางอายแล้ว+"
คิ้วของซูเหยียนตั้งตรง
ท้ายที่สุดเธอก็ยังพอมีหัวสมองอยู่บ้าง หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์สุดซึ้งครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าเธอปฏิเสธโดยตรงจะไม่ผิดต่อกันแสดงที่ยอดเยี่ยมของฉู่เหย้าหางเหรอ?
ก่อนที่หลินหยางจะได้พูดอะไร ซูเหยียนชิงพูดขึ้นเสียก่อน "ฉู่เหย้าหาง ฉันขอโทษ ฉันไม่เคยคิดที่จะหย่ากับหลินหยาง และไม่เคยคิดที่จะแต่งงานใหม่ด้วย! ฉันขอโทษจริงๆ…"
"เหยียนเหยียนเพราะอะไร? หรือที่ผมทำมามันยังไม่ดีพอ?" ฉู่เหย้าหางเริ่มรู้สึกร้อนรน เขาหันไปมองทางหลินหยาง "คุณทำเสน่ห์อะไรใส่เหยียนเหยียน?"
"เธอเป็นภรรยาของผม ผมต้องทำเสน่ห์ใส่ภรรยาตัวเองด้วยเหรอ?" หลินหยางพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ฉู่เหย้าหางได้ยินคำพูดประโยคนี้ เขาไม่คิดจะสวมบทนักแสดงอะไรอีกแล้ว เขาเดินตรงเข้าไปหาหลินหยางพร้อมกับใช้สายตาที่เย็นชาจ้องมอง หลังจากนั้นพูดด้วยเสียงที่ทุ่มต่ำ "ไอ้หนู พูดดีๆไม่ชอบใช่ไหม! ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย หยิบเงินหนึ่งล้านแล้วไสหัวไป พรุ่งนี้ฉันจะสั่งให้คนไปทำเรื่องการหย่าที่บ้านของแก ถ้าหากแกไม่ตอบตกลง ฉันรับรองว่าวันนี้แกได้คลานออกจากที่นี่แน่นอน!"
"ฉู่เหย้าหาง คุณคิดจะทำอะไร?" ซูเหยียนรีบเดินตรงเข้ามาทันที
เสี่ยวหรานที่อยู่ด้านข้างรีบดึงตัวเธอไว้
"เหยียนเหยียน นี่เป็นเรื่องของผู้ชาย เธออยากเข้าไปยุ่งจะดีกว่า"
"เสี่ยวหราน ปล่อยฉัน รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!" ซูเหยียนตะโกนพร้อมกับดิ้นรน พี่เหมยพุ่งเข้ามาช่วยจับตัวซูเหยียนอีกคน
บนใบหน้าของซูเหยียนเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ได้แล้วหลินหยางที่เผชิญหน้ากับคำขู่ของฉู่เหย้าหางไม่ได้รู้สึกกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว มุมปากของเขากระตุกขึ้นเล็กน้อย มองฉู่เหย้าหางด้วยท่าทางที่จะยิ้มไม่ยิ้ม ราวกับกำลังรอพฤติกรรมที่ไม่เกรงใจของฉู่เหย้าหาง
ฉู่เหย้าหางรู้สึกโกรธมาก
"คุณชายฉู่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?"
ในตอนนั้นเอง มีชายวัยกลางคนที่มีท่าทางสุขุมเดินตรงเข้ามาจากฝูงชน
หลังจากที่เห็นผู้มา สีหน้าของแขกหลายคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย
"นั่นมันผู้จัดการจาง!"
"เขามาได้ยังไง?"
"คราวนี้มีเรื่องสนุกให้ดูแล้ว!"
ผู้มาคือหัวหน้าผู้จัดการของโรงแรมเทียนเยว่ ไม่ใช่คนที่เป็นผู้จัดการล็อบบี้ก่อนหน้านี้จะสามารถเทียบได้ สถานะของเขามีความพิเศษ ไม่เพียงแต่ดูแลทั้งโรงแรม ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นตัวแทนของเถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลัง
ทั้งเมืองเจียงเฉินไม่ว่าใครก็ต้องไว้หน้าเขา
"อืม? ผู้จัดการจางมาแล้วเหรอ? งั้นทุกอย่างมันก็ง่าย" คุณชายฉู่ก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว หรี่ตาลงแล้วยิ้ม หลังจากนั้นชี้หน้าหลินหยางแล้วพูด "ผู้จัดการจาง คุณช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยได้หรือเปล่าว่าระบบรักษาความปลอดภัยของโรงแรมทำงานกันยังไง? ทำไมผมไม่ได้เชิญคนคนนี้มาร่วมงานเลี้ยง แต่เขากลับมาปรากฏตัวในงานเลี้ยงของผม?"
"อะไรนะ? มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ?" สีหน้าของผู้จัดการจางเคร่งขรึมลง เขาโบกมือเรียกรปภ.สองคนเข้ามา หลังจากนั้นเดินตรงเข้าไปหาหลินหยางแล้วพูดด้วยเสียงที่เย็นชา "คุณครับ คุณบุกรุกเข้ามาในสถานที่ส่วนบุคคล ผมจะฟ้องคุณข้อหาบุกรุกสถานที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรุณาให้ความร่วมมือตามเราไปที่สถานีตำรวจ คุณไม่มีความเห็นอะไรใช่หรือเปล่า?"
"ไม่มีความเห็นอยู่แล้ว!" หลินหยางส่ายหัว "มีคนเชิญผมมาร่วมงานเลี้ยง จะเป็นการบุกรุกเข้ามาได้ยังไง?"
"มีคนเชิญคุณมา? งั้นคุณลองพูดมาหน่อยว่าใครที่เป็นคนเชิญคุณ? คุณซูเหยียนนับไม่ได้! เธอแค่มาพูดคุยธุรกิจ ตามหลักแล้วเธอไม่ได้ถือว่าเป็นแขกของที่นี่!" จางซียิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูด
"เสี่ยวเหยียนไม่ได้เป็นคนเชิญผม แต่เป็นคุณแอนนาต่างหาก" หลินหยางเงียบไปสักพักแล้วพูด
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ
"คุณแอนนา?" จางซีขมวดคิ้วมองไปทางฉู่เหย้าหาง
"เป็นไปไม่ได้!" ฉู่เหย้าหางส่งเสียงฮึ่ม หลังจากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "ห้องจัดเลี้ยงของคุณแอนนาอยู่ข้างบน ยิ่งไปกว่านั้นแขกที่อยู่ด้านบนล้วนแต่เป็นแขกสำคัญ ที่ผมเหมาทั้งโรงแรมก็เพื่อจัดงานเลี้ยงให้กับพวกเขาอย่างหรูหรา หลินหยาง คุณแอนนาเป็นใคร คนอย่างเธอจะเชิญคุณได้ยังไง? คุณกำลังฝันอยู่เหรอ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...