ในตอนนั้นเอง มีเสียงโทรศัพท์สั่นดังขึ้น
เวินลี่ที่อยู่ด้านหลังหยิบโทรศัพท์ออกมา หลังจากนั้นส่งไปให้ฟานเล่อ
ฟานเล่อกวาดสายตามองเบอร์ที่โทรเข้าแล้วรู้สึกอึ้งเล็กน้อย หลังจากนั้นรีบกดรับสาย
"สวัสดีครับผู้กำกับต๋ง! คุณมีอะไรจะชี้แนะหรือเปล่า?" ฟานเล่อรีบยิ้มแล้วพูด
"ทางด้านของซ่งจิงเป็นยังไงบ้าง?"
"ไอ้แก่หัวโบราณคนนี้ปฏิเสธ!"
"ปฏิเสธ? ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นนี่นา เขาน่าจะเป็นคนที่รู้จักแยกแยะถึงจะถูก!" ผู้กำกับต๋งรู้สึกประหลาดใจมาก
"ผู้กำกับต๋ง ไอ้แก่คนนี้น่าจะโดนประธานหลินขู่ เขาไม่เพียงแต่ไม่พิจารณาที่จะร่วมมือกับพวกเรา ในทางกลับกันยังพูดเกลี้ยกล่อมพวกเราแทนประธานหลิน ช่างเลอะเลือนเสียจริง ผมว่าอย่าเอาความหวังไปฝากไว้ที่ตัวเขาจะดีกว่า! คนคนนี้พึ่งพาไม่ได้!"
"ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นผมจะไปรายงานให้ประธานของพวกเรารู้ก่อน พรุ่งนี้ขึ้นศาลเปิดศึกกับหยางหัวเลย! คุณไปหาสื่อเอาไว้เยอะหน่อย แล้วก็พวกชอบขุดคุ้ยด้วย ทำให้คดีนี้เป็นเรื่องใหญ่เข้าไว้ ต้องทำให้คนทั้งประเทศรู้ ต้องทำให้ชื่อเสียงของประธานหลินคนที่ย่อยยับ!"
"ฮ่าฮ่าฮ่า ผมแทบจะทนรอไม่ไหวแล้ว!" ฟานเล่อหัวเราะเสียงดัง ในแววตาปรากฏให้เห็นความสะใจ
ซ่งจิงเพิ่งจะเดินออกจากโรงแรมหลินเจียง มีจดหมายทนายส่งไปถึงบริษัทหยางหัวแล้ว
หลังจากที่หม่าไห่ได้รับจดหมายทนาย เขารีบเรียกตัวของคังเจียห่าวและจี้เหวินมาทันที
คนทั้งสองอ่านจดหมายทนายแล้วส่ายหัว
"รับมือง่ายมาก"
"พวกเขากำลังยกก้อนหินมาทุบใส่ขาของตัวเอง!"
คนทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
"งั้นก็แสดงละครสนุกให้ทุกคนได้เห็นหน่อย" หลินหยางที่นั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย "ยิ่งไปกว่านั้นผมคาดเดาว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ต้องเป็นหวงหยูแน่นอน ทำให้หวงหยูลากเข้ามาเกี่ยวด้วย! ผมไม่หวังว่าตอนที่พวกเรากำลังสู้กัน พวกเขาจะยืนดูอยู่ด้านข้าง"
"ประธานหลินวางใจได้ คนของเราจับตาดูพวกเขามาสักพักแล้ว!"
"งั้นก็ดี เรื่องนี้ปล่อยให้พวกคุณไปจัดการก็แล้วกัน ผมกลับบ้านไปพักผ่อนก่อน"
หลินหยางนวดขมับตัวเอง หลังจากนั้นลุกขึ้นเดินออกจากห้องทำงาน
หลายวันมานี้นอนค้างคืนอยู่ที่คลินิกของลั่วเฉียนและหยางหัวมาตลอด ไม่รู้ว่าช่วงนี้ซูเหยียนเป็นยังไงบ้างแล้ว
ตอนที่หลินหยางไปถึงเยว่เหยียนอินเตอร์แนชชั่นแนล เลขาหญิงคนนั้นรีบเดินเข้ามา
"คุณหลิน ในที่สุดคุณก็มาสักที!" เลขาหญิงพูดเสียงเบาด้วยความร้อนใจ
"มีอะไรเหรอ?" หลินหยางถามด้วยความสงสัย
"ช่วงนี้ประธานเอาแต่อยู่ในห้องทำงาน ถ้าคุณยังไม่มา เกรงว่าเธอคงจะขนเตียงมาอยู่ในห้องทำงานแล้ว!" เลขาหญิงพูดด้วยความร้อนใจ
"เพราะอะไร?" หลินหยางรู้สึกอึ้ง
"ทั้งหมดก็เพราะเกาหลาน!"
"เกาหลาน? เขาทำไม?"
"ช่วงนี้เขามายุ่งวุ่นวายกับประธานทุกวัน วันก่อนพูดคำพูดโรแมนติก เมื่อวานส่งดอกไม้มา ต้องการให้ประธานยอมรับเขา แต่ประธานไม่สนใจเขาเลยสักนิด คุณหลิน คุณรีบคิดหาวิธีเถอะ ไล่คนน่ารำคาญคนนี้ไปให้ไกลเลย!"
หลินหยางได้ยินแล้วเงียบขรึมลงสักพัก หลังจากนั้นส่ายหัว "คุณก็ไปเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยโยนเขาออกไปก็จบเรื่อง เพราะยังไงเสี่ยวเหยียนก็ไม่มีทางยอมรับเขาอยู่แล้ว คุณไม่ต้องห่วง"
"นี่…คุณหลิน ยังไงประธานหลินก็เป็นภรรยาของคุณนะ! คุณไม่คิดจะทำอะไรเลยเหรอ?" เลขาหญิงพูดด้วยความเหลือเชื่อ
หลินหยางส่ายหัวอย่างขมขื่น
ภรรยา?
มันก็แค่ในนามเท่านั้น
"ผมเข้าไปดูหน่อยก็แล้วกัน"
พูดจบ เดินตรงเข้าไปในห้องทำงานของซูเหยียน
ทว่าหลังจากที่เพิ่งเดินเข้าไปใกล้ประตู ได้ยินเสียงไวโอลินที่ไพเราะดังขึ้น
หลังจากนั้นเห็นเกาหลานในชุดสูทถือดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่กำลังยืนอยู่หน้าห้องทำงาน ด้านข้างของเขาถึงขั้นมีวงไวโอลินกำลังบรรเลงเพลงอยู่ด้วย
"เสี่ยวเหยียน คุณคือพระจันทร์บนท้องฟ้า ส่วนผมคือดวงดาว ดวงดาวทุกดวงเป็นตัวแทนความรักของผมที่มีต่อคุณ ดวงดาวที่เต็มท้องฟ้า ขอเพลงคุณนายหน้าขึ้นมองก็จะเห็นมัน…"
เกาหลานพูดด้วยอารมณ์ที่ลึกซึ้ง เขาหยิบกล่องขนาดเล็กที่ประณีตออกมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดมันออก ด้านในมีแหวนเพชรที่กำลังส่องแสงประกายปรากฏขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...