คนคนนี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน เพราะเขาคือผู้พิพากษาที่มีชื่อเสียงของเมืองหนานเฉิน เขาทำงานอยู่ในตำแหน่งนี้มานานถึงสามสิบปี เป็นผู้อาวุโสในวงการนักกฎหมาย เดิมทีอีกเพียงแค่ปีเดียวเขาก็จะเกษียณแล้ว แต่ในระหว่างที่กำลังทำคดีก่อนปลดเกษียณ ปรากฏว่าเขานอนไม่หลับหลายวันจนทำให้เกิดอาการโคม่า สุดท้ายกลายเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ตอนนั้นอาการของเขาหนักมากจนเกือบจะไม่รอด ต่อมาถึงแม้จะสามารถช่วยเอาไว้ได้ แต่ร่างกายครึ่งท่อนของเขาเป็นอัมพาตไม่สามารถขยับตัวได้อีก
ประธานหลินนำเอกสารฉบับหนึ่งส่งให้ผู้พิพากษา หลังจากนั้นโบกมือ มีคนอีกกลุ่มเดินเข้ามาพร้อมกับวัตถุดิบยา หม้อยา เตาหลอม รวมไปถึงขวดยาและอุปกรณ์อย่างอื่น คนกลุ่มนี้เริ่มจุดไฟบนเตาด้วยความชำนาญทันทีบนชั้นศาล
ทุกคนตกตะลึง
ผู้พิพากษาจางมองเอกสารในมือแล้วไม่ได้พูดอะไร
ไม่นาน บนชั้นศาลก็เต็มไปด้วยกลิ่นฉุนจมูกของยาสมุนไพร
"ท่านผู้พิพากษา คุณอนุญาตให้พวกเขาเสแสร้งทำแบบนี้ได้ยังไง?" คนของตระกูลซูทนดูไม่ได้อีกแล้ว ซูเป่ยลุกขึ้นยืนแล้วตะโกน
"ถ้าหากประธานหลินไม่สามารถทำตามที่พูดนั่นถึงจะเรียกว่าเสแสร้ง แต่ถ้าหากประธานหลินทำได้ มันจะสามารถพิสูจน์อะไรหลายอย่าง ทำไมพวกคุณต้องใจร้อนขนาดนี้ด้วย?" จี้เหวินพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ซูเป่ยส่งเสียงฮึ่มแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก
"ปล่อยให้พวกเขาทำไป" คุณนายซูพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ "สูตรยาของตระกูลซูถูกสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษของเรา ทั่วประเทศมีเพียงแผ่นเดียวเท่านั้น หยางหัวกรุ๊ปต้องขโมยสูตรยาของเราอย่างแน่นอน พวกเขาไม่มีทางมีสูตรยาแบบอื่น รอก่อนเถอะ ไม่นานทุกอย่างก็จะกระจ่าง"
คนของตระกูลซูพยักหน้า
หลิวเซียวเซิงก็พยักหน้าเล็กน้อยเหมือนกัน
เวลาผ่านไปแล้วประมาณสองชั่วโมง ประธานหลินยกหม้อยาขึ้นแล้วเทลงไปในถ้วยชาม รอจนกระทั่งเย็นแล้วจึงยกไปให้ผู้พิพากษาโม่
หลังจากที่หมอทั้งสองคนตรวจสอบแล้วไม่มีสารพิษจึงอนุญาตให้ผู้พิพากษาโม่ดื่ม
หลังจากที่ดื่มยาวไปแล้ว ทุกคนลุกขึ้นยืนชะเง้อคอจ้องมองผู้พิพากษาโม่รอดูการเปลี่ยนแปลงของเขา
ทางด้านของคนตระกูลซูก็ลุกขึ้นยืนทั้งหมด สายตาจ้องมองชายชราไม่กระพริบตา
แต่แล้วผ่านไปครึ่งชั่วโมงชายชรายังคงนั่งอยู่บนรถเข็น ไม่มีการตอบสนองแม้แต่นิดเดียว
หมอทั้งสองคนลองทำการทดสอบแล้วหันไปส่ายหัวให้กับผู้พิพากษาจาง
ลมหายใจของทุกคนที่อยู่ในเหตุการหยุดชะงัก
"เห็นหรือยัง? ไม่มีประโยชน์! ไม่มีประโยชน์! หมอนี่มันก็แค่เสแสร้งทำไปเท่านั้น ฮ่าฮ่าฮ่า…" ซูเป่ยหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
คนของตระกูลซูก็รู้สึกดีใจมากเหมือนกัน
"เงียบ! เงียบ! ฝ่ายโจทก์ ถ้าพวกคุณยังสร้างปัญหาแบบนี้ ผมสามารถฟ้องพวกคุณข้อหาดูหมิ่นศาล!" ผู้พิพากษาจางตะโกนเสียงดัง
คนของตระกูลซูรีบหุบปากทันที แต่บนใบหน้าของแต่ละคนยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีชัย
ผู้คนที่อยู่โดยรอบพากันถอนหายใจ
"คุณหลิน สูตรยาของคุณต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะเห็นผล?" ผู้พิพากษาถาม
"หนึ่งชั่วโมง"
"แต่ตอนนี้ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว กลับตรวจไม่พบสัญญาณการฟื้นตัวของคนไข้เลย ประสิทธิภาพของยามีปัญหาอะไรหรือเปล่า?" ผู้พิพากษาจางถาม
ทำให้คนเป็นอัมพาตคนหนึ่งมีอาการดีขึ้นภายในครึ่งชั่วโมง…มันไม่ต่างอะไรกับการพลิกแผ่นดิน
"รบกวนท่านผู้พิพากษาให้เวลาเราอีกครึ่งชั่วโมง" จี้เหวินพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ผู้พิพากษาจางเป็นคนมีความอดทนสูงมาก เขาพยักหน้าแล้วพูด "งั้นก็ได้ ให้เวลาฝ่ายจำเลยอีกครึ่งชั่วโมง"
"เหลวไหล เหลวไหลสิ้นดี เรื่องนี้ต้องมีคนหัวเราะเยาะแน่นอน คดีนี้มันไม่ต่างอะไรกับเรื่องไร้สาระ" คุณนายซูยิ้มแล้วพูด
หลิวเซียวเซิงส่ายหัว "หลังจากผ่านวันนี้ไป หยางหัวกรุ๊ปคงจะจบสิ้นแล้วมั้ง?"
นี่ไม่เพียงแต่เป็นแค่เรื่องของชื่อเสียงเท่านั้น
หม่าไห่ไม่ได้พูดอะไร แต่ท่าทางของเขาดูประหม่ามาก
สีหน้าของจี้เหวินดูนิ่งสงบ แต่ถ้าหากลองมองอย่างละเอียด สามารถสังเกตเห็นร่างกายของเขากำลังสั่นเทาเล็กน้อย
"ชิงหยู่ คุณว่าประธานหลินจะทำได้หรือเปล่า?" ซูกวงพูดด้วยน้ำเสียงที่ประหม่า
"ต้องทำได้อยู่แล้ว" จางชิงหยู่พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง สายตาที่กำลังจ้องมองประธานหลินลุกวาวเป็นประกาย "ยิ่งไปกว่านั้นคุณไม่สังเกตเหรอ? คนคนนี้เหมาะสมกับเสี่ยวเหยียนของเรามากแค่ไหน?"
ซูเหยียนที่กำลังจ้องมองประธานหลินไม่ละสายตาได้ยินคำพูดประโยคนี้ เธอสะดุ้งเล็กน้อยแล้วพูดเสียงเบา "แม่ แม่กำลังพูดไร้สาระอะไร?"
"ที่ฉันพูดไม่ใช่เรื่องจริงเหรอ? ประธานหลินคนนี้ทั้งหนุ่มและรวย ภูมิหลังก็ไม่ธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นเธอดูสิ เดิมทีเรื่องนี้เขาไม่จำเป็นต้องออกมาด้วยตัวเอง แค่หม่าไห่คนเดียวก็สามารถจัดการได้แล้ว แต่เขาก็ยังก้าวออกมา เพื่ออะไร? ทั้งหมดนี้มันชัดเจนอยู่แล้วก็เพื่อเธอไง" จางชิงหยู่พูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นเล็กหน่อย
"เพื่อ…เพื่อหนู?" ซูเหยียนรู้สึกอึ้ง
"ไม่อย่างนั้นเธอช่วยอธิบายหน่อยว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้?"
"เรื่องนี้…" ซูเหยียนไม่รู้ควรจะพูดยังไง แต่ถ้าหากมีชายหนุ่มที่ร่ำรวยและยังหน้าตาดีขนาดนี้ออกมาทำเพื่อตัวเอง ไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกหวั่นไหวมั้ง?
แต่ไม่นานซูเหยียนก็ส่ายหัวปัดความคิดพวกนี้ออกจากหัว
"แม่ หนูแต่งงานแล้ว แม่เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว"
"แต่งงาน? ฮึ่ม ฉันจะบอกอะไรเธอลูกสาวของฉัน ถ้าหากประธานหลินคนนี้สนใจเธอจริง ฉันไม่สนใจว่าเธอจะมีเหตุผลอะไร เธอจะต้องหย่ากับหลินหยางทันที ไม่อย่างนั้นอย่ามาเรียกฉันว่าแม่!"
"แม่…" ซูเหยียนพูดอะไรไม่ออก
เวลาครึ่งชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...