ดูเหมือนทุกคนจะไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมแบบนี้
เพียงแต่หลังจากคนทั้งสามได้ยินคำพูดพวกนี้กลับไม่คิดแบบนั้น
คนที่มีแหวนศักดิ์สิทธิ์ไว้ในครอบครองก็คือเจ้านิกาย
ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะพวกเขาย่อมไม่สนใจคำพูดนินทาของคนอื่น
หลินหยางกวาดสายตามองคนทั้งสาม หลังจากนั้นหันไปมองพวกคนที่ทำตัวเป็นคนกลาง "พวกเขาทำแบบนี้ถือว่าผิดกฎหรือเปล่า?"
"ก่อนที่คุณจะได้รับการสืบทอดกลายเป็นเทพเจ้าตงหวงของนิกายตงหวง ไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์แย่งแหวนไปจากมือของคุณ!" คนคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
แววตาของหลินหยางเย็นชาลง นำยารักษาบาดแผลที่เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ออกมาโยนเข้าปาก หลังจากนั้นหันไปทางหลิ่วซื่อเฟิงแล้วตะโกนถาม "คนพวกนี้เป็นใคร?"
"เขาคือหยุนซิง อาวุโสไท่ชางหนึ่งเดียวของนิกายตงหวง! ส่วนคนที่อยู่ด้านข้างคืนลูกชายของเจ้านิกายรุ่นก่อน ถังเทียนฮ่าว!" หลิ่วซื่อเฟิงพูดเสียงสั่น
หลินหยางพยักหน้า
ในตอนนั้นเอง ถังเทียนฮ่าวก้าวออกมา
"คุณเป็นใคร? หน้าคุ้นมาก นิกายตงหวงของเรามีคนแบบคุณด้วยเหรอ?"
น้ำเสียงที่เฉยเมยและเย่อหยิ่งดังขึ้น
"ผมคือ…"
"ช่างเถอะ มันไม่สำคัญแล้ว"
หลินหยางยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่โดนถังเทียนฮ่าวพูดขัดขึ้นโดยตรง เขาโบกมือแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ "เอาแหวนศักดิ์สิทธิ์มา! ผมจะไม่ฆ่าคุณ และแก้พิษให้คุณด้วย เข้าใจหรือยัง?"
"หืม?"
หลินหยางขมวดคิ้ว มองบาดแผลบนร่างกายของตนเอง พบว่าเลือดของเขากลายเป็นสีดำ
เขายื่นมือออกไปแตะเลือด หลังจากนั้นยกขึ้นมาดม หยิบเข็มเงินออกมาเสียบลงบนหน้าอกของตนเองหลายจุด ต่อด้วยนำสมุนไพรที่พกติดตัวออกมาเคี้ยวแล้วเอาไปประคบบาดแผล
"ดูเหมือนคนพวกนั้นพูดถูก เด็กคนนี้มีความรู้เรื่องการแพทย์ เขาเป็นผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ทางการแพทย์" อาวุโสไท่ชางหยุนซิงที่อยู่ด้านหลังพูด
"แต่มันจะมีประโยชน์อะไร? ยาพิษที่คุณถูก เป็นยาพิษที่พ่อของผมคิดค้นขึ้นสามารถ ฤทธิ์ยาอันตรายถึงชีวิต! บนโลกใบนี้มีเพียงผมคนเดียวที่มียาแก้พิษ! คุณอย่าเสียเวลาเลย! ชีวิตหรือแหวน คุณเลือกเอาเอง" ถังเทียนห่าวตะโกนพูดอีกครั้ง
ทว่าหลินหยางราวกับไม่ได้ยินคำพูดของเขา ยังคงรักษาบาดแผลของตนเองต่อ
ถังเทียนห่าวขมวดคิ้ว
"ลูกผู้พี่ ดูเหมือนคนคนนี้จะไม่รู้จักเจียมตัว" ผู้หญิงผมสั้นที่อยู่ด้านข้างพูดเยาะเย้ย
"เขารนหาที่เอง โทษผมไม่ได้"
ถังเทียนห่าวพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ หลังจากนั้นยกผ้าคลุมชุดกี่เพ้าที่อยู่ด้านหน้าขึ้น ชักกระบี่ที่บางราวกับปีกจั๊กจั่นออกมา เดินตรงเข้าไปหาหลินหยาง
"คุณชาย อย่าวู่วาม!" ทางด้านของอาวุโสไท่ชางหยุนซิงเอ่ยปากพูด
"ทำไม?" ถังเทียนฮ่าวหันกลับไปถาม
"คนคนนี้สามารถเอาชนะพวกซูโม่หยุน เรื่องความแข็งแกร่งไม่ต้องสงสัย ถึงผมจะมั่นใจว่าตอนนี้เขารู้สึกอ่อนล้าจนถึงขีดสุดแล้ว แต่หากคุณต้องการลงมือกับเขา จำเป็นต้องระวังให้มาก ถ้าหากโดนเขาทำร้ายจะได้ไม่คุ้มเสีย คุณจำเป็นต้องสืบทอดตำแหน่งของพ่อคุณต่อ อย่าทำอะไรวู่วามเด็ดขาด!" หยุนซิงพูดเสียงเบา
"แล้วคุณคิดว่าต้องทำยังไง?" ถังเทียนฮ่าวเริ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์
"ให้ผมสู้กับเขาเอง" หยุนซิงพูด
"คุณสู้กับเขา?" ถังเทียนห่าวรู้สึกอึ้ง แววตาเคร่งขรึมลงหลายส่วน "ความหมายของคุณคือ…คุณจะเข้าไปเอาแหวนแทนผม?"
"ใช่" หยุนซิงพยักหน้า "เราไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีความสามารถที่ลึกซึ้งแค่ไหน คุณคือผู้แบกรับอนาคตของนิกาย จะเกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะอย่างนี้ให้ผมเป็นคนลงมือเหมาะสมกว่า"
ถังเทียนห่าวครุ่นคิด แล้วพูด "ก็ได้ เชิญ"
ทันทีที่สิ้นเสียง หยุนซิงสองมือไขว้หลัง ก้าวเท้าออกมาข้างหน้า มองหลินหยางด้วยสายตาที่นิ่งสงบ
กลิ่นอายของความเกรี้ยวกราดสายหนึ่งปะทุขึ้น
หลินหยางรู้สึกถึงแรงกดดันทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกถึงแรงกดดันแบบนี้
แม้กระทั่งคนเฝ้าสุสาน ซูโม่หยุนและซ่าวไห่ก็ไม่สามารถทำให้เขารู้สึกกดดันแบบนี้!
อาวุโสไท่ชาง…คนนี้ไม่ธรรมดา!
"ผมได้กลิ่นพลังของเลือดวิญญาณลั่วหลิน!"
อาวุโสไท่ชางมองหลินหยาง พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย "พลังเลือดวิญญาณลั่วหลินที่บริสุทธิ์แบบนี้…ผมคิดว่าคุณน่าจะมีไม่ใช่แค่หยดเดียว!"
พูดจบ เขาดึงแขนเสื้อของตนเองขึ้น เผยให้เห็นเลือดวิญญาณลั่วหลินของตนเอง
แววตาของหลินหยางเล่าร้อนจนถึงขีดสุด
เขาสั่งให้หม่าไห่ตามหาแทบตาย แต่กลับไม่ได้ข่าวคราวอะไรเลย คิดไม่ถึงว่าในที่สุดจะได้พบเลือดวิญญาณลั่วหลินที่นิกายตงหวง…
"เมื่อได้เลือดวิญญาณลั่วหลินของคนคนนี้…ผมก็จะได้คบยี่สิบหยดแล้ว!"
เขาพูดพึมพำ เลือดภายในร่างกายพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที
ในขณะที่เขากำลังรู้สึกตื่นเต้น…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...