"บัดซบ!"
"หมอหาบเร่อย่างคุณ! ถึงขั้นกล้าใช้น้ำเสียงแบบนี้คุยกับนายท่านเวยของเราเหรอ? คุณอยากตายมากเลยใช่ไหม?"
"ผมจะฆ่าคุณเดี๋ยวนี้!"
แต่ละคนโกรธมาก รีบพุ่งเข้าไปหาหลินหยาง คิดจะใช้ไม้แข็งกดดันหลินหยาง
แต่ในตอนที่หนึ่งในนั้นเพิ่งเข้าใก้ลหลินหยาง
ฟู่!
มีเงาสีดำสายหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของหลินหยางอย่างกะทันหัน
"แย่แล้ว! ระวัง รีบถอยกลับมาเดี๋ยวนี้!" กวนเวยได้กลิ่นไม่ชอบมาพากล รีบตะคอกทันที
แต่ว่า…ช้าไปหนึ่งก้าว…
พู่!
มีประกายที่เยือกเย็นสายหนึ่งพุ่งผ่าน
แขนของคนคนนั้นถูกประกายที่เยือกเย็นตัดผ่านไปโดยตรง แขนข้างหนึ่งลอยขึ้นกลางอากาศ สุดท้ายตกลงสู่พื้น
คนคนนั้นกุมแขนของตนเอง ก้าวถอยหลังพร้อมกับส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดไม่หยุด
คนที่กำลังเตรียมตัวพุ่งเข้ามาที่เหลือตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง แต่ละคนรีบกระโดดถอยหลังทันที
ตอนที่เงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง พบว่าข้างกายของหลินหยางว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย เงาสีดำก่อนหน้านี้…ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
"ผี!" มีคนอุทาน
"ไม่ใช่ผี!"
กวนเวยกระโดดลุกขึ้นอย่างกะทันหัน กวาดสายตามองโดยรอบของหลินหยาง ผ่านไปสักพักเหมือนเขาเข้าใจอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม "ถึงว่าทำไมหมอเทวดาหลินไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาแบบนี้! ดูเหมือนข้างกายของคุณมียอดฝีมือคอยปกป้อง! พวกเราประเมินคุณต่ำเกินไป"
"ยังมีอะไรจะชี้แนะอีกหรือเปล่า?" หลินหยางถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
กวนเวยกำหมัดของตนเองแน่น ในแววตาเต็มไปด้วยเจตนาแห่งการต่อสู้อันบริสุทธิ์
เขาเหลือบมองคนของตนเองที่ถูกตัดแขนขาดถูกประคองลุกขึ้น ความโกรธภายในใจเริ่มพลุ่งพล่าน
แต่ท้ายที่สุดเขาก็สามารถข่มอารมณ์เอาไว้
เขาไม่ใช่คนหนุ่มสาวพวกนี้
เขาสามารถมองความแข็งแกร่งของเงาสีดำเมื่อกี้ออกเล็กน้อย เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย ถ้าหากลงมือจริง เกรงว่าแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รอด…
"ได้ หมอเทวดาหลินสมกับที่เป็นหมอเทวดาหลิน ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง ผมได้รับคำชี้แนะแล้ว!"
กวนเวยสูดลมหายใจเข้า พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม "ในเมื่อเป็นแบบนั้น ผมไม่รบกวนแล้ว! ขอตัวก่อน!"
พูดจบ เตรียมตัวพาคนเดินจากไป
"ช้าก่อน!"
หลินหยางพูดอย่างกะทันหัน
ฝีเท้าของกวนเวยหยุดชะงัก หันไปมองเขาแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม "หมอเทวดาหลินมีอะไรจะชี้แนะอีกหรือเปล่า?"
"กวนเวย! คนของตระกูลกวนมาขอคนจากสถาบันการแพทย์พรรคซวนอี บอกอยากมาก็มา อยากไปก็ไปเหรอ? คุณเห็นพรรคซวนอีของผมเป็นสถานที่อะไร?" หลินหยางถามด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ
"หมอเทวดาหลิน! ผมใช้สิ่งของแลกคน คุณเป็นฝ่ายที่ไม่ยอมรับ การซื้อขายครั้งนี้ของเราอยู่ในขอบเขตของศีลธรรม หรือคุณคิดจะใช้วิธีการที่หยาบคาย?" กวนเวยถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
"แล้วเมื่อกี้คนของคุณแสดงพฤติกรรมที่หยาบคาย ทำไมคุณถึงไม่ห้าม?"
หลินหยางจ้องเขาแล้วถาม
กวนเวยได้ยินคำพูดประโยคนี้ สีหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติขึ้นมาทันที…
"คุณจะเอายังไง?"
"ผมต้องการแสดงความน่าเกรงขาม!"
หลินหยางลุกขึ้นยืน พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
"แสดงความน่าเกรงขาม?"
คนที่อยู่ในห้องห้องประชุมสะดุ้งตกใจ
กวนเวยเข้าใจความหมายของหลินหยางทันที
ข่าวของหยานเคอเอ๋อได้แพร่กระจายไปทั่วแล้ว ปัจจุบัน กองกำลังทุกฝ่ายกำลังจ้องเธอ ทุกคนล้วนแต่ต้องการใช้ผู้หญิงคนนี้เพื่ออาศัยร่มเงาต้นไม้ใหญ่อย่างหมู่บ้านราชาสมุนไพร
กวนเวยต้องไม่ใช่คนเดียวที่มาขอคนแน่นอน
ดังนั้นหลินหยางจึงจำเป็นต้องแสดงความน่าเกรงขำ
จำเป็นต้องเตือนพวกคนที่กำลังจ้องหยานเคอเอ๋อ ทำให้พวกเขาทิ้งความคิดนี้ที่ไป
มันคือการเขย่าภูเขาทำให้เสือตกใจ เชือดไก่ให้ลิงดู!
กวนเวยขมวดคิ้วแน่น แอบกวาดสายตามองโดยรอบ พูดเสียงเบา "หมอเทวดาหลิน! คนของผมไม่รู้ความ เรื่องนี้ต้องโทษผม เป็นเพราะผมห้ามพวกเขาไม่ทัน เรื่องนี้ผมสามารถขอโทษคุณ แต่ถ้าคุณคิดจะใช้เรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างหาเรื่องผม แบบนี้มันเกินไปหรือเปล่า? ตระกูลกวนแห่งเมืองกวนเฉินของเรา ไม่ได้รังแกง่ายขนาดนั้น"
"พูดแบบนี้ก็เท่ากับว่าสามารถรังแกผมได้?" หลินหยางถามกลับ
"คุณจะเอายังไง? ฆ่าพวกเราทุกคนให้หมดเหรอ?" กวนเวยเริ่มรู้สึกหัวเสีย
"ไม่ถึงขั้นต้องฆ่าให้หมดทุกคน แค่หักแขนคนละข้างก็พอ!"
"คุณพูดอะไรนะ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...