หลิวหม่านเยี้ยนรู้สึกโมโหจนแทบกระทืบเท้า รีบเดินเข้าไปใก้ลคุณนายช่าย พูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับร้องไห้ "แม่ แม่เป็นอะไรไป? แม่…แม่ทำแบบนี้ไม่เท่ากับทำให้ฉันเสียหน้าเหรอ…ถ้าหากคนอื่นรู้ ไม่หัวเราะเยาะฉันแย่เหรอ"
"ถ้าหากงานเลี้ยงผมยกเลิก แบบนั้นถึงจะเรียกว่าโดนหัวเราะเยาะ! เธอเสียหน้าคนเดียว มันสู้พวกเราทั้งตระกูลเสียหน้าได้เหรอ?"
"แต่ว่าแม่…"
"พอแล้ว พอแล้ว! เลิกมาไหมนี้ได้แล้ว! ฉันไม่ได้บอกให้พวกเธอไปเชิญหลินหยางสักหน่อย ทำทีเหมือนไปไม่เป็นเหรอ?" คุณนายช่ายพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
"ทำทีเหมือนไป?" หลิวหม่านเยี้ยนรู้สึกอึ้ง เข้าใจอะไรอย่างกะทันหัน พูดเสียงดัง "แม่ ความหมายของแม่คือ…"
"พวกเธอไปแล้วแต่เชิญเขาไม่มา เรื่องนี้มันโทษพวกเราได้เหรอ? เสี่ยวหยูก็คงไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วมั้ง?" คุณนายช่ายพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
"เยี่ยม! แม่ เป็นวิธีที่เยี่ยมมาก!" หลิวหม่านเยี้ยนยกนิ้วโป้ง พูดชมด้วยความดีใจ
"เลิกพูดมากได้แล้ว รีบไปเถอะ! ถึงเวลาเชิญเขาไม่กลับมา เสี่ยวหยูโทษพวกเราไม่ได้ ผู้กำกับซ่งก็โทษพวกเราไม่ได้เหมือนกัน! ดูซิว่าถึงตอนนั้นพวกเขายังมีอะไรจะพูดอีก"
"เข้าใจแล้ว ฉันกับพี่ใหญ่จะไปเดี๋ยวนี้!"
หลิวหม่านเยี้ยนยิ้มแล้วพูด หลังจากนั้นส่งซิกทางสายตาให้หลิวต้าเปียว พาคนของตระกูลหลิวเดินออกจากโรงแรม
ซูหยูเห็นภาพนี้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึ้ง
มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีปรากฏขึ้นในใจของเธอ
"เสี่ยวหย่า คุณตามพวกเขาไปดูสถานการณ์หน่อย" ซูหยูพูด
"เรื่องนี้…ก็ได้"
ร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามถนน
หลินหยางกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ตรงที่นั่งติดกับหน้าต่าง
เนื่องจากงานเลี้ยงของโรงแรมหมิงจู วันนี้ภายในร้านกาแฟจึงมีผู้คนจำนวนมากมาใช้บริการ ส่วนใหญ่เป็นพวกปาปารัสซี่ที่ต้องการนำภาพไปสร้างกระแส
"พี่หลิน?"
ในตอนนั้นเอง เสียงที่ประหลาดใจดังขึ้นจากด้านข้าง
หลินหยางก็ประหลาดใจเช่นกัน หันหน้าไปมอง พบว่าคนคนนั้นคือลั่วเฉียน!
สีหน้าของลั่วเฉียนในตอนนี้ซีดเซียวเล็กน้อย ขอบตาแดงเล็กน้อย ดวงตาทั้งคู่ที่ดูมืดมนในตอนแรก หลังจากเห็นหลินหยาง กลับเป็นประกายขึ้นอย่างไร้เหตุผล
"เสี่ยวเฉียน ท่าทางของคุณเหมือนนอนไม่เต็มอิ่มเลย"
หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
ลั่วเฉียนยิ้มอย่างขมขื่น
เธอรู้สถานะของหลินหยาง และเข้าใจด้วยว่าสภาพร่างกายของตนเองเมื่ออยู่ต่อหน้าคนคนนี้ก็เหมือนกับกระดาษขาว
"ช่วงนี้นอนไม่ค่อยหลับ"
ลั่วเฉียนนั่งลงฝั่งตรงข้ามของหลินหยาง
"นอนไม่หลับแล้วทำไมถึงมีน้ำตาไหล?" หลินหยางถามต่อ
ลมหายใจของลั่วเฉียนสั่นสะท้าน รีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เงียบไปสักพักแล้วพูด "คิดถึงแม่ที่จากไปแล้ว ก็เลยรู้สึกปวดใจ…"
"เสี่ยวเฉียน คุณโกหกไม่เก่ง!" หลินหยางวางถ้วยกาแฟลง ส่ายหัวแล้วพูด "เล่าความจริงให้ผมฟังเถอะ?"
หลินหยางและลั่วเฉียนรู้จักกันมาสักพักใหญ่แล้ว
สำหรับลั่วเฉียน หลินหยางคิดว่ารู้จักเธอเป็นอย่างดี
เธอเป็นคนโกหกไม่เป็น เมื่อไหร่ที่โกหก แววตาของเธอจะหวั่นไหว นิ้วมือทั้งสองข้างจิกแขนเสื้อ ท่าทางเหมือนคนกำลังประหม่า แทบจะมีคำว่าโกหกเขียนติดอยู่บนหน้าผาก
ลั่วเฉียนก็รู้นิสัยของตนเองดี ครุ่นคิดสักพัก ทำได้แต่พูดเสียงเบา "ฉันแค่…กำลังเป็นห่วงเสี่ยวเหยียน…"
"ซูเหยียน?" หลินหยางรู้สึกอึ้ง
"ใช่"
ลั่วเฉียนเม้มริมฝีปาก มีน้ำตานองเบ้า พูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง "แค่นึกถึงซูเหยียนยังนอนหมดสติอยู่บนเตียง ฉันก็รู้สึกไม่สบายใจแล้ว หลายวันมานี้นอนไม่หลับเพราะเอาแต่คิดถึงเรื่องพวกนี้…."
"งั้นเหรอ?"
หลินหยางยิ้มอย่างขมขื่น "คุณไม่ต้องคิดมาก เสี่ยวเหยียนไม่เป็นอะไรแน่นอน คุณไม่ไว้ใจในฝีมือของผมเหรอ? อีกเดี๋ยวผมจะเขียนใบสั่งยาให้คุณ มันสามารถช่วยให้คุณหลับสบาย ช่วงนี้ก็พักผ่อนเช้าหน่อย อย่าปล่อยให้ร่างกายเสียสุขภาพ"
"ได้"
ลั่วเฉียนเช็ดน้ำตาที่หางตา ยิ้มแล้วพูด "ดูคุณสิ ทำให้เครื่องสำอางของฉันเปื้อนไปหมดแล้ว ฉันขอไปห้องน้ำก่อน!"
"ได้" หลินหยางพยักหน้า
ลั่วเฉียนรีบลุกขึ้น เดินไปที่ห้องน้ำอย่างเร่งรีบ
ทว่าทันทีที่ประตูห้องน้ำพึ่งปิดสนิท
ปัง!
มือที่ขาวเรียวของลั่วเฉียนกระแทกลงบนขอบเคาน์เตอร์อ่างล้างมืออย่างแรง
น้ำตาของเธอเริ่มไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง บนใบหน้ากลับเต็มไปด้วยอารมณ์ของความโกรธ รู้สึกผิดและโทษตัวเอง
"ลั่วเฉียน! ทำไมเธอถึงเป็นคนแพสยาแบบนี้? เพราะอะไร?"
...
"ในเวลาแบบนี้เธอควรดีใจไม่ใช่เหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...