ศึกเดือด มหากาฬ นิยาย บท 84

“เฮอะ ๆ”

ได้ยินฉินหวยจือถามมา เฉินอีแค่นหัวเราะเบา ๆ เลิกคิ้วขึ้นสูง

“อย่าคิดว่าข้าจะไม่รู้แผนตื้น ๆ ของพวกแกนะ ถ้าไม่ใช่เพราะปิงหลันเป็นผู้ที่วังซื่อกรุ๊ปบ่งชัดเป็นผู้รับผิดชอบ บวกกับที่พวกแกก็ไม่มีความสามารถจริง น่ากลัวคงปล่อยให้ปิงหลันสาบสูญไปจากความทรงจำแล้ว”

“ตอนนี้คิดถึงปิงหลันก็จะเอาปิงหลันไปใช้ ความคิดพวกแกรู้สึกจะง่ายเกินไปหน่อยนะ”

น้ำเสียงของเฉินอีหนาวเหน็บ

ฉินหวยจือถูกตอกให้โกรธจนอกกระเพื่อม

ฉินต้าซานก็หันมองมา ขยักคิ้วนิ่วพูดไปว่า “เฉินอี นี่เป็นเรื่องในครอบครัวตระกูลฉินของเรา ไม่เกี่ยวกับคุณ”

“ถ้างั้นก็เสียใจด้วย พวกคุณจัดการกันไปเองแล้วกัน”

เฉินอีไม่ใช่คนที่จะเล่นด้วยได้เลย รั้งมือฉินปิงหลันเตรียมเดินจากไปในเดี๋ยวนั้น

ฉินต้าซานเห็นดังนั้น รีบพูดว่า “ปิงหลัน เธอจะไปกับไอ้คนนี้จริง ๆ หรือ?”

เขาพูดไปอย่างไม่คิดว่าจะเป็นไปได้

ฉินปิงหลันไม่แอะปากพูดสักคำ

ตอนนี้ในส่วนลึก ๆ ของหล่อนเริ่มรู้สึกที่จะพึ่งพาเฉินอีแล้ว ถึงแม้ในใจก็ยังไม่พร้อมจะเป็นแบบนั้น

ฉินต้าซานก็ให้รู้สึกขนลุกเสียวกลัว

ฉินปิงหลันที่ผ่านมาเป็นเด็กสาวอยู่ในโอวาทมาอย่างดี และค่อนข้างอ่อนไหว ยิ่งจากเหตุการณ์เมื่อเจ็ดปีที่แล้วก็ยิ่งทำให้กลายเป็นคนนิสัยหวาดระแวง เขาก็ตั้งใจใช้จุดอ่อนนี้บีบคั้นฉินปิงหลัน

ไม่ได้สมอย่างใจคิด ฉินปิงหลันอ่อนแอ แต่เจ้าเฉินอีคนนี้กลับแข็งแบบสุดขั้ว

แข็งกล้าอะไรขนาดนี้

เขารู้ดีว่าเฉินอีคนนี้ไม่ใช่จะรับมือได้ง่าย ๆ จึงได้แต่ทำใจสูดหายใจเข้าลึก ๆ

“เฉินอี ตกลงคุณคิดจะเอายังไง?”

“อ้าว คุณพูดมาแบบนี้ เหมือนว่าผมนี่เลวมากเลยนะ งั้นผมก็ยิ่งไม่คิดจะคุยกับคุณแล้ว”

ฉินต้าซาน “...........”

ฉินหวยจือ “.........”

ฉินโร่ซี ซูฟาง “.........”

พวกเขาว่าไม่เคยเห็นคนที่หน้าด้านไม่รู้จักอายถึงขนาดนี้จริง ๆ พวกเขาเองแต่ละคนอุตส่าห์บากหน้ามากันแล้วกลับมาเจอมาดเก๊กไม่ไว้หน้ากันเลยของไอ้หมอนี่แบบนี้

แต่พูดก็พูดไป วิธีการแบบนี้ก็ดีนะ แบบที่ว่าเลวมาต้องเลวไป

“ปิงหลัน อาขอร้องเธอละ ช่วยพวกเราหน่อย ช่วยตระกูลฉินด้วยเถอะ!”

เสียงดังผับ ฉินต้าซานคุกเข่าลงกับพื้น ทำเอาทุกคนที่เห็นตกตะลึงกันอย่างแรง

ไม่เพียงแค่นั้น อีกสามคนทั้งฉินหวยจือก็ถูกดึงให้คุกเข่าลงด้วย

“ทุกคนขอโทษกับปิงหลันเดี๋ยวนี้!”

ฉินหวยจือฉินโร่ซีต่างงงเซ่อ แต่โดนสายตาจ้องอย่างโหดดุของฉินต้าซานเข้า พวกเขาแน่นอนว่าไม่กล้าพูดมาก รีบชิงกันกล่าวคำขอโทษกับฉินปิงหลันกันเป็นการใหญ่

ฉินปิงหลันก็งงเซ่อ

หล่อนมองดูท่าทีคุกเข่าขอขมาของแต่ละคนอย่างเงียบขรึม คิดอยู่ว่าจะห้ามแต่ถูกสั่งหยุดอย่างไร้เสียงจากเฉินอี

ทั้งหมดนี้เป็นความผิดที่พวกเขาก่อขึ้นกันเอง สมควรแล้วที่ต้องชดใช้ให้สมค่า

ถูกหยามคือศักดิ์ศรีผู้อื่น ฉะนั้นจึงต้องชดใช้ด้วยศักดิ์ศรีของตัวเองให้ถูกหยามบ้าง

สุดท้ายฉินปิงหลันก็รับปาก

ณ ตึกวังซื่อกรุ๊ป ครั้งนี้วังจ่างหลินไม่ได้ออกหน้า เป็นการแจ้งบอกมาจากเฉินอี

ถึงยังไงฉินปิงหลันก็ต้องฝึกฝน ไม่ควรปล่อยให้เลื่อนลอยเกินไป

แต่การปรากฏตัวของเยว่ซูหลิงอีกในครั้งนี้ ท่ามาดที่วางลดต่ำลงจากหลายวันก่อนอย่างมากและมาก จนสร้างความประหลาดใจให้ฉินปิงหลัน

“ผู้อำนวยการเยว่ท่านนี้ เป็นรูปแบบหญิงแกร่งของเมืองฉือคนหนึ่ง ลือชื่อในความหยิ่งทะนง ไหงดูเกรงใจเราขนาดนี้?”

แม้ว่าครั้งที่แล้ววังจ่างหลินจะเป็นคนต้อนรับเราด้วยตัวเอง ก็เพราะเรื่องการร่วมงานด้านธุรกิจ ฝ่ายเขาก็ไม่เห็นจำเป็นอะไรที่ต้องปฏิบัติกับเราเองถึงขนาดนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ